นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส สายงาน Global Business Development and Strategy ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยภายหลังสหรัฐได้ประกาศเก็บภาษีสินค้ากลุ่มเหล็กและเหล็กกล้า แผงโซลาร์ เครื่องซักผ้า ในระลอกแรก สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าอุตสาหกรรมอื่นของจีนในระลอกที่สองเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2561 ส่งผลให้จีนประกาศตอบโต้ภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ว่า เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบด้านการส่งออก ซึ่งคาดว่าการส่งออกของไทยในช่วงครึ่งหลังปีนี้จะชะลอตัวลงจากครึ่งปีแรก โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของไทยที่ส่งออกชิ้นส่วนไปให้จีนจะลดลง เนื่องจากมาตรการด้านภาษีของสหรัฐฯ
ปัจจัยที่น่าจับตามองคือค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องมาแตะที่ระดับประมาณ 6.8 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 6.5 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐและค่าเงินหยวนก็อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินบาท ซึ่งทางการจีนอาจใช้การอ่อนค่าเงินหยวนเป็นมาตรการช่วยลดผลกระทบจากกำแพงภาษีของสหรัฐฯ เพื่อเอื้อให้บริษัทจีนมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น และจะส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยได้
“เริ่มเห็นสัญญาณการอ่อนตัวของค่าเงินหยวนต่อดอลลาร์สหรัฐอย่างต่อเนื่อง และเป็นการอ่อนค่ามากกว่าค่าเงินบาท ซึ่งอาจจะกระทบต่อการแข่งขันด้านราคากับสินค้าจีน และต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะตัวเลขมูลค่านำเข้าสินค้าของไทยจากจีนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม เช่น สินค้าวัตถุดิบอย่างเหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์เหล็กที่จีนอาจพยายามหาตลาดอื่นทดแทนสหรัฐฯ”
นอกจากนี้ ตลาดการเงินโลกค่อนข้างอ่อนไหวกับการอ่อนค่าของค่าเงินหยวน เนื่องจากภาคธุรกิจของจีนมีภาระหนี้ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ค่อนข้างมาก เมื่อค่าเงินหยวนอ่อนค่ามากกว่า 6.8 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ อาจส่งผลให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง เพราะหวั่นความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทจีนในอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี