วันอังคาร ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2568
กสทช.เดินหน้าประมูลทีดิจิตอล เชิญผู้สนใจ33ราย รับฟังข้อมูลเกี่ยวกับการขอรับใบอนุญาต ขณะที่“สุรางค์ เปรมปรีดิ์” ไม่ถอนหุ้นออกจาก บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ ทำให้ “ช่อง7” ส่อถูกตัดสิทธิออกจากการแข่งขันครั้งนี้
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2556 สำนักงานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)โดย กรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.)ได้มีการชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ หรือประมูลทีวีดิจิตอล หลังการจำหน่ายเอกสารการประมูล ครั้งที่ 1 ให้แก่ผู้ซื้อเอกสารการประมูล โดยก่อนหน้านี้ มีผู้สนใจซื้อซองประมูลทีวีดิจิตอล มียอดรวม 33 ราย จำนวน 49 ซอง
ขณะที่ นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย บริษัท จันทร์ 25 จำกัด หนึ่งในผู้ร่วมประมูลครั้งนี้ ยืนยันว่า นางสุรางค์ เปรมปรีดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จันทร์ 25 จำกัด ยืนยันที่จะยื่นประมูลช่องรายการทั่วไป ความคมชัดสูง (เอชดี) แน่นอน โดยจะไม่ถอนหุ้น โอนหุ้น ออกจากบริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ผู้บริหารช่อง7 ทั้งนี้ช่อง7 ได้เสนอตัวแข่งขันประมูลครั้งนี้ด้วย
มีรายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับบริษัท จันทร์ 25 จำกัด มี นางสุรางค์ เปรมปรีดิ์ หรือคุณแดง เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งในเวลาเดียวกันกัน นางสุรางค์และครอบครัวก็ยังคงถือหุ้นอยู่ในบริษัท กรุงเทพโทรศัพท์และวิทยุ จำกัด (ช่อง 7) ถึงกว่า 20%
ขณะที่ “ประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกให้ใช้คลื่นความถี่ในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์เพื่อประกอบกิจการทางธุรกิจ พ.ศ.2556” ข้อ 7.2 กำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตที่มีสิทธิเข้าร่วมประมูลจะต้องไม่เป็นผู้ที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน นั่นคือ จะต้องไม่มีเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมในกิจการของผู้เข้าร่วมการประมูลรายอื่น เช่น การเป็นผู้ที่เกี่ยวโยงกัน เป็นผู้มีอำนาจควบคุม เป็นบริษัทใหญ่หรือบริษัทย่อย เป็นต้น
ด้าน พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกสทช. ในฐานะประธาน กสท. กล่าวว่า การชี้แจงครั้งนี้ เป็นไปตามประกาศข้อมูลสนเทศที่ให้มีการชี้แจง และประชุมเชิงปฏิบัติการ(WORKSHOP) ในทุกขั้นตอนของการประมูลเพื่อเป็นข้อมูลในการเตรียมความพร้อมของผู้ประสงค์จะยื่นขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ โดยทางสำนักงาน กสทช. จะชี้แจงและให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถเข้าสู่กระบวนการโดยไม่มีข้อขัดข้องใดๆ
ก่อนหน้านี้ สำนักงาน กสทช. ได้เปิดจำหน่ายเอกสารการประมูลเมื่อวันที่ 10-12กันยายน 2556 ที่ผ่านมา และการชี้แจงครั้งนี้ เป็นการชี้แจงขั้นตอน และวิธีการยื่นแบบคำขอ ซึ่งผู้ประมูลจะต้องนำเอกสารและหลักฐานต่าง ๆ ประกอบไปด้วย แบบคำขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับการให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล เอกสารประกอบ แบบคำขอ สำเนาใบเสร็จรับเงินค่าเอกสารการประมูล(ในหมวดหมู่เดียวกับที่ยื่นขอรับใบอนุญาต) เอกสารหลักฐานที่แสดงถึงวัตถุประสงค์ของการใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการตามประเภทที่ยื่นขอรับใบอนุญาต หนังสือสนับสนุนทางด้านการเงินในการประกอบกิจการโดยให้ธนาคารออกหนังสือฯ หลักประกันการประมูลร้อยละ 10 ของราคาขั้นต่ำ
โดยหมวดเด็ก เยาวชน และครอบครัว (หลักประกันการประมูล 14 ล้านบาท หมวดข่าวสารและสาระ หลักประกันการประมูล 22 ล้านบาท หมวดทั่วไปแบบความคมปกติ หลักประกันการประมูล 38 ล้านบาท หมวดทั่วไปแบบความคมชัดสูง หลักประกันการประมูล 151 ล้านบาท) ซึ่งผู้ขอรับใบอนุญาต มีสิทธิยื่นคำขอรับใบอนุญาต ไม่เกินรายละหนึ่งใบอนุญาตของแต่ละหมวดหมู่ หรือยื่นคำขอรับใบอนุญาตในหมวดหมู่ทั่วไปแบบความคมชัดสูงหรือหมวดหมู่ข่าวสารและสาระ หมวดหมู่ใดหมวดหมู่หนึ่งเท่านั้น (ไม่เป็นผู้ที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน) แบบรายงานการถือครองหุ้นและการมีอำนาจควบคุม การอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์เพื่อประกอบกิจการทางธุรกิจ เอกสารประกอบแบบรายงานการถือครองหุ้นและการมีอำนาจควบคุมฯ
สำหรับผู้เข้าประมูลจะต้องนำเอกสารดังกล่าวมายื่นคำขอได้ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556 ถึงวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2556 ระหว่างเวลา 9.30– 16.00 น. ณ อาคารหอประชุม ชั้น 2 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี