ธ.ก.ส. เล็งจ่ายผลตอบแทนเพิ่มเป็นมากกว่า 2% จากปัจจุบันอยู่ที่ 0.63%เพื่อดึงลูกค้ารายใหญ่โยกเงินสมทบกองทุนช่วยเหลือชาวนา
แหล่งข่าวจาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการกองทุนช่วยเหลือชาวนา ที่มี นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส.เป็นประธาน เตรียมที่จะพิจารณาเพิ่มผลตอบแทนกองทุนช่วยเหลือชาวนาในลักษณะของกองทุนที่ 3 ที่จ่ายผลตอบแทบเงินฝากสมทบ 0.63% ต่อปี ให้มากขึ้น เพื่อเป็นการจูงใจให้ลูกค้ารายใหญ่ อาทิ กลุ่มโรงสี กลุ่มโรงงานการเกษตร มาฝากเงินเพื่อสบทบกองทุนให้มากขึ้น
โดยที่ผ่านมาได้หารือกับกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ โดยมีความประสงค์ให้ธ.ก.ส.เพิ่มค่าตอบแทนการสบทบเงินเข้าเงินกองทุนที่ 3 ให้เท่ากับดอกเบี้ยเงินฝากที่ลูกค้ารายใหญ่ได้รับในปัจจุบันคือระดับกว่า 2% ต่อปี
“ปัจจุบันลูกค้ารายใหญ่ไม่สนใจที่จะโยกเงินฝากมาสบทบกองทุนฯ เนื่องจากผลตอบแทนต่ำมาก หากโยกเงินมากอาจจะเกิดปัญหากับลูกค้าเอง ซึ่งธ.ก.ส.กำลังพิจารณา โดยกำหนดอัตราผลตอบแทนแบบขั้นบันไดตามจำนวนเงินฝาก ซึ่งมีข้อเสนอจากลูกค้ารายใหญ่ว่าหากฝากสบทบเกิน 100 ล้านบาทขึ้นไปผลตอบแทนควรจะมากกว่า 2% ซึ่งเป็นอัตราที่ลูกค้ารายใหญ่ได้รับในปัจจุบัน”
สำหรับอัตราผลตอบแทน 0.63% นั้นเป็นอัตราเท่ากับดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ของ ธ.ก.ส.ในขณะนี้ แต่หากเป็นเงินฝากประจำประเภท 6 เดือนหากเป็นกลุ่มลูกค้าทั่วไป หรือนิติบุคคลที่มีเงินฝากต่ำกว่า 30 ล้านบาทได้รับดอกเบี้ย 2.10% แต่ถ้ามีเงินฝากสูงกว่า 30 ล้านบาท ดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.25% ส่วนลูกค้ากลุ่มราชการ รัฐวิสาหกิจ กองทุน ได้รับอัตราดอกเบี้ยในอัตราเดียวคือ 2.10%
สำหรับ กองทุนช่วยเหลือชาวนาเปิดรับฝากเงินมาตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม2557 จนถึงล่าสุด เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เงินที่บริจาคและสบทบเข้ากองทุนเพียง 1,000 ล้านบาทเท่านั้น ถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ว่าภายใน 10 มีนาคมที่ผ่านมาจะต้องมีเงินเข้ามา 1,000 ล้านบาท ขณะที่มีเป้าหมายถึง 2 หมื่นล้านบาท ในเดือน 30 มิถุนายน2557 ส่วนการจ่ายเงินคืนให้กับผู้สบทบในกองทุนที่ 2 แบบไม่รับผลตอบแทน และกองทุนที่ 3 แบบมีผลตอบแทนภายใน 31 ธันวาคม2557
สำหรับกองทุนช่วยเหลือชาวนา เกิดขึ้นเพราะต้องการช่วยเหลือชาวนา หลังจากรัฐบาลไม่สามารถจ่ายเงินค่าจำนำข้าวได้ตามกำหนด ธ.ก.ส.จึงได้เชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปและนิติบุคคล ที่มีความประสงค์จะช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของชาวนา นำเงินมาสมทบไว้กับกองทุนช่วยเหลือชาวนา เพื่อที่จะให้กองทุนนำเงินดังกล่าวไปจ่ายให้ชาวนาต่อไป
การเข้าร่วม สมทบเงินกองทุนสามารถดำเนินการได้โดย 1. การบริจาคโดยโอนเข้าบัญชี “กองทุนช่วยเหลือชาวนา(เงินบริจาค)” ได้ตามจำนวนที่ผู้บริจาคประสงค์ 2. การสมทบเงิน “กองทุนช่วยเหลือชาวนา(แบบไม่มีผลตอบแทน)” โดยไม่จำกัดจำนวนเงินที่สมทบ แต่ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 1,000 บาท และ 3. การสมทบเงิน “กองทุนช่วยเหลือชาวนา(แบบมีผลตอบแทน)” ซึ่งไม่จำกัดจำนวน แต่สมทบไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทเช่นกัน โดยปัจจุบันกองทุนจะให้ผลตอบแทนร้อยละ 0.63 ต่อปี ซึ่งเงินที่สมทบตาม 2 และ 3 ธ.ก.ส.จะออกหลักฐานการรับเงินเรียกว่า “ใบสมทบกองทุน”ให้กับผู้สมทบเงินเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการรับเงินคืนตาม เงื่อนไขเมื่อสิ้นสุดโครงการ
โดยกองทุนได้เริ่มเปิดรับเงินบริจาคและเงินสมทบตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา และจะเปิดไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2557 และสิ้นสุดโครงการในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 ในวงเงินไม่เกิน 20,000 ล้านบาท และเมื่อได้รับเงิน กองทุนจะจัดสรรเงินดังกล่าวให้กับ ธ.ก.ส. เพื่อนำไปจ่ายให้กับเกษตรกรตามมูลค่าข้าวเปลือกในใบประทวน โดยเรียงตามลำดับที่ขึ้นทะเบียนใบประทวนไว้กับ ธ.ก.ส. ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวจะแยกออกจากระบบปกติของธนาคาร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี