วันจันทร์ ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผ่าประเด็นร้อน
คสช.ระวังสะดุดขาตัวเอง คนกันเองทุจริต-ปฏิรูปเหลวมีสิทธิพัง

คสช.ระวังสะดุดขาตัวเอง คนกันเองทุจริต-ปฏิรูปเหลวมีสิทธิพัง

วันอาทิตย์ ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
Tag :
  •  

หลังการเข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างล้นหลามในการเข้ามายุติวิกฤติชาติทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อยเพื่อเดินหน้าปฏิรูปครั้งใหญ่ให้พ้นจากวังวนแห่งวงจรอุบาทว์ของธุรกิจการเมืองเผด็จการเสียงข้างมากในคราบประชาธิปไตยจอมปลอม แต่นับวันผลงานของคสช.จะถูกตั้งคำถามจากประชาชนมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าจะปฏิรูปประเทศจริงหรือไม่

แม้ประชาชนจะสนับสนุนและฝากความหวังไว้กับคสช.มาก แต่จากภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง ราคาพืชผลการเกษตรหลายชนิดตกต่ำ ซ้ำยังเกิดวิกฤติภัยแล้งรุนแรงที่แม้แต่อำนาจรัฐพิเศษก็ไม่สามารถแก้ปัญหาของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้นับวันความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อคสช.จะเสื่อมถอยซึ่งอาจถือเป็นความโชคไม่ดีของคสช.ที่เข้ามาบริหารชาติในยามที่บ้านเมืองเต็มไปด้วยสารพัดปัญหาที่รัฐบาลจากการเลือกตั้งในอดีตทิ้งไว้ รวมทั้งเข้ามาช่วงที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลกและเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติภัยแล้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี


ผลสำรวจของโพลล์ทุกสำนักตลอดช่วงที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่าผลงานอันเป็นจุดอ่อนของคสช.และรัฐบาลก็คือ ความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาปากท้องของประชาชน

นอกจากนี้ คสช.ยังถูกตั้งคำถามว่าลงทุนยึดอำนาจเพื่อเข้ามาจัดระเบียบปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่เพื่อขจัดขบวนการอำนาจเก่าโดยเฉพาะตัวจอมบงการและเหล่าแกนนำขั้นเด็ดขาดเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ แต่กลับปรากฏว่า จอมบงการและเหล่าแกนนำกลุ่มอำนาจเก่ายังคงลอยนวลเคลื่อนไหวท้าทายบ่อนทำลายประเทศทั้งในและนอกประเทศ

ขณะที่หนึ่งในงานการปฏิรูปประเทศที่สำคัญคือการปฏิรูปตำรวจก็แทบจะไม่มีอะไรคืบหน้าจนส่อเค้าว่าคงจะไม่เกิดขึ้นในยุคของ คสช.

ที่สำคัญการปฏิรูปประเทศเพื่อขจัดการทุจริตคอร์รัปชั่นอันเป็นต้นเหตุสำคัญของวิกฤติชาติตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งแม้คสช.และรัฐบาลประกาศให้การขจัดทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นวาระแห่งชาติ และมีความพยายามที่จะเร่งรัดผลักดันให้คดีทุจริตสำคัญต่างๆ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าว แต่ก็เป็นไปด้วยความล่าช้าโดยเฉพะการฟ้องร้องทางแพ่งเพื่อให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ชดใช้เงินแก่แผ่นดินจากความเสียหายของโครงการรับจำนำข้าวที่มีการเลื่อนสรุปมูลค่าความเสียหายมาแล้วหลายครั้งทำให้การส่งฟ้องล่าช้าข้ามปีจนไม่แน่ใจว่าคดีสำคัญที่เป็นบรรทัดฐานระดับชาตินี้จะได้ข้อยุตินำผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ทันยุคอำนาจของคสช.หรือไม่

แต่ที่น่าห่วงและเป็นอันตรายจนอาจทำให้การยึดอำนาจและการปฏิรูปประเทศของคสช.ล้มเหลวเสียของสิ้นเชิงก็คือ ข่าวการทุจริตของผู้มีอำนาจในคสช.และรัฐบาลโดยก่อนหน้านี้ก็เกิดข่าวอื้อฉาวโครงการอุทยานราชภักดิ์ที่จนบัดนี้ก็ยังไม่เกิดความกระจ่าง และล่าสุดเกิดกรณีอื้อฉาวกรณีที่พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป อดีตหัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ ซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ออกมาเปิดเผยเบาะแสข่าวการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งในวงการตำรวจยุคที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง เป็นผู้กำกับดูแล

พล.ร.อ.พะจุณณ์ ยังเป็นสมาชิกขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.)และเป็นประธานคณะอนุกรรมการโครงสร้างอำนาจหน้าที่และกระบวนการทำงานตำรวจเพื่อประโยชน์ของประชาชน สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)

การออกมาตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเบาะแสการซื้อขายตำแหน่งในวงการตำรวจนับว่าส่งผลสะเทือนอย่างยิ่งต่อศรัทธาความน่าเชื่อถือของประชาชนที่มีต่อคสช. และรัฐบาล โดยมีการตั้งข้อสังเกตเชิงเตือนสติว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. อาจพังเพราะคนแวดล้อมใกล้ตัวที่ฉวยโอกาสแสวงหาประโยชน์ในทางมิชอบ

ทั้งนี้การขจัดทุจริตคอร์รัปชั่นถือเป็นผลงานอันเป็นจุดแข็งของคสช.และรัฐบาล แต่หาก ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง เกิดการทุจริตขึ้นโดยผู้มีอำนาจในคสช.หรือรัฐบาล จากจุดแข็งก็จะกลายเป็นจุดบอดที่ทำลายคสช.และรัฐบาลอย่างรุนแรงในทันที

เพราะฉะนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จึงต้องระวังไม่เกรงใจคนใกล้ตัว เพราะหากวันใดวันหนึ่งมีการตีแผ่เรื่องการทุจริตของคนในคสช.หรือรัฐบาลที่มีข้อมูลชัดแจ้ง นั่นอาจหมายถึงวิกฤติศรัทธาของมหาชนที่มีต่อคสช.และรัฐบาล ส่งผลให้การยึดอำนาจเพื่อปฏิรูปประเทศของคสช.ล้มเหลวเสียของสิ้นเชิง

ทีมข่าวการเมือง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

พรรคอนาคตไทย พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง จับได้เบอร์ 15 ลั่นคนไทยส่วนรวมต้องมาก่อน ชูทำจริง ไม่ทิ้งพื้นที่

ปิดด่านชายแดนพ่นพิษ กัมพูชาเผยยอดนำเข้าจากไทยวูบ ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว

อดีตนักฟุตบอลไทย พลิกบทบาท เป็น ทหารรับใช้ชาติ ช่วยยึดเนิน 350 คืนจากกัมพูชา

จีนเปิดชื่อ 4 นักบินอวกาศหนู ร่วมภารกิจเสินโจว-21 แต่ละชื่อความหมายดีมาก

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved