พุทธพจน์บัญญัติว่า “คนที่พูดโกหก ไม่ทำชั่วเป็นไม่มี” คนในระบอบทักษิณตั้งแต่ตัวหัวหน้าใหญ่ผู้พี่ลงมาจนถึงน้องสาวไปจนกระทั่งเหล่าทาสรับใช้ต่างมีธาตุแท้นิสัยเหมือนกันหมดนั่นคือโกหก บิดเบือด กะล่อนปลิ้นปล้อนอย่างหน้าตาเฉยไม่มีความละอายต่อบาปแม้แต่นิดเดียว และอย่าว่าแต่โกหกเลย แม้แต่ขายชาติชักศึกเข้าบ้านหรือก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองจนพินาศวอดวายยังทำมาแล้วโดยทุกอย่างก็เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องโดยไม่คำนึงว่าแผ่นดินที่ตัวเองอาศัยเกิดจะย่อยยับแค่ไหน
กลุ่มเสื้อแดงภายใต้การนำของ นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธานเสื้อแดง นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำเสื้อแดงคนสำคัญ เตรียมประกาศศักดารวมพลชุมนุมคนเสื้อแดงนับแสนแสดงฤทธิ์เดชที่สี่แยกราชประสงค์อีกแล้วในวันที่ 19 พ.ค.นี้เพื่อรำลึกครบรอบ 3 ปีเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อปี 2553 โดยมีหน้าโกหกบิดเบือนประวัติศาสตร์จากดำเป็นขาวอ้างว่าเป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ทั้งๆที่เป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อนำไปสู่การก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองหวังช่วงชิงอำนาจรัฐฟื้นระบอบทักษิณกลับมาครองเมืองอีกครั้ง
ทุกวันนี้คนทั้งโลกและคนไทยทั้งประเทศต่างก็รู้เช่นเห็นชาติแล้วว่า ความสูญเสียและหายนะจากการก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553 เป็นการจงใจสร้างสถานการณ์ภายใต้การบงการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคุก ด้วยการเคลื่อนไหวแบบคู่ขนานสอดประสานกันระหว่าง”แก้ว 3 ประการ”เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงประกอบด้วย มวลชนคนเสื้อแดง พรรคการเมืองคือพรรคเพื่อไทย และกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งก็คือกองกำลังชุดดำและชุดอื่นๆที่ปะปนอยู่ในม็อบคนเสื้อแดง
นอกจากจะโกหกบิดเบือนประวัติศาสตร์จากดำเป็นขาวแล้ว กลุ่มคนเสื้อแดงยังด้านออกมาแสดงพลังลวงโลกทั้งๆที่คนเขารู้ทันทั่วบ้านั่วเมือง ที่สำคัญยังสร้างความเดือดร้อนต่อบรรดาห้างร้านและพ่อค้าแม่ขายย่านราชประสงค์อีกหลายร้อยรายที่ขาดรายได้เพราะารชุมนุมป่วนเมืองของพวกเสื้อแดง รวมทั้งปัญหารถที่ติดวินาศสันตโรจากพวกกฏหมู่ที่ปิดถนนแบบเห็นแก่ตัวคิดแต่ความต้องการของตัวเองเป็นหลัก
ส่วนเสื้อแดง”กลุ่มรักเชียงใหม่ 51” ก็ออกมาแสดงความถ่อยในฐานะลูกกะแป๋งทักษิณด้วยการยกพวกไปพิทักษ์เชลียร์ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกฯ ในการประชุมผู้นำน้ำในเอเซีย-แปซิฟิค ทึ่ จ.เชียงใหม่ พร้อมทั้งประกาศพร้อมชนกลุ่มภาคีเครือข่ายภาคประชาชนว่าด้วยเรื่องน้ำที่จะมาประท้วง นายปลอดประสพ
นอกจากนี้รัฐบาลยังใช้อำนาจรัฐคือตำรวจคอยติดตามสะกดรอยประกบแกมข่มขู่คุกคามบรรดาแกนนำเครือข่ายภาคประชาชนด้านน้ำที่จะมาประท้วง นายปลอดประสพ เหมือนบ้านเมืองอยู่ในยุคมืดราวกับย้อนยุคไปในสมัยพรรคนาซีของอดีตจอมเผด็จการทรราชย์อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ของเยอมันนีเรืองอำนาจ ซึ่งแม้พรรคนาซีจะมาจากการเลือกตั้งแต่ก็อำพรางโฉมหน้าที่แท้จริงที่เป็นเผด็จการทรราชย์ในคราบประชาธิปไตย และที่สำคัญมีหน่วยใต้ดิน”เกสตาโป”คอยสะกดรอยติดตาม ข่มขู่หรือแม้แต่สังหารผู้ที่ถูกมองว่าเป็นศัตรูพรรคนาซีของฮิตเลอร์
บ้านเมืองยุคระบอบทักษิณครองเมืองกลายเป็น”รัฐตำรวจ”ที่องค์กรผู้พิทักษณ์สันติราษฏร์กลับกลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองอย่างสิ้นเชิง
ล่าสุด ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติถึงกับใช้อำนาจหน้าที่สั่งการในที่ประชุมหัวหน้าตำรวจทั่วประเทศให้สนับสนุนและช่วยรณรงค์ผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่มีเป้าหมายแอบแฝงที่แท้จริงมุ่งฟอกโทษความผิดทั้งหมดเพื่อพา พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านแบบเท่ๆ และได้ทรัพย์สิน 46,000 ล้านบาทที่ถูกยึดตกเป็นของแผ่นดินคืน รวมทั้งฟอกโทษความผิดให้กับเหล่าแกนนำคนเสื้อแดงที่เป็นผู้ต้องหาก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองจนวอดวาย
ก่อนหน้านี้ม็อบเสื้อแดงก็เคลื่อนไหวคู่ขนานบุกไปปิดล้อมข่มขู่คุกคามคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
ถ้วยสภาพบ้านเมืองที่ราวอยู่ในยุคมืดของเผด็จการทรราชย์ที่ย่ามใจมากขึ้นทุกขณะทำให้บุคคลอย่าง พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ และ นายแก้วสรร อติโพธิ์ อดีตกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.)หมดความอดทนออกมาเคลื่อนไหวปลุกพลังมวลชนให้ออกมาร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงภายใต้ปรากฏการณ์ “ไทยสปริง” เพื่อขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณที่นับวันจะเหิมเกิมลุแก่อำนาจวางแผนคิดยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี