รัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณภายใต้การนำของนายกฯนกแก้วยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บริหารประเทศมาครบ 2 ปีเต็มแล้วท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ผลงานการบริหารประเทศล้มเหลวไม่เป็นท่าในทุกด้านและนับวันจะส่งสัญญาณนำพาประเทศไปสู่ความวิบัติล่มจม และอาจด้วยสาเหตุนี้ที่รัฐบาลหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์หลบเลี่ยงไม่ยอมแถลงผลงานประจำปีอันเป็นการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญเพราะกลัวถูกฝ่ายค้านเปิดโปงความล้มเหลวกลางสภา
นอกจากล้มเหลวในการบริหารประเทศแล้ว ที่เลวร้ายยิ่งกว่าก็คือรัฐบาลหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์ยังส่อพฤติกรรมโกงบ้านกินเมืองอย่างมโหฬาร ขณะเดียวกันก็ผลาญงบประมาณแผ่นดินอย่างมือเติบและก่อหนี้สาธารณะมากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยจนมีแนวโน้มที่จะนำพาประเทศไปสู่ความล่มจมโดยเฉพาะจากโครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศซึ่งทิ้งภาระให้ลูกหลานต้องชดใช้หนี้อีกนานถึงกว่า 50 ปีกว่าจะใช้หนี้หมด หรือโครงการเงินกู้เพื่อบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท
ขณะที่โครงการประชานิยมโดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าวถลุงงบประมาณของแผ่นดินไปแล้ว 7 แสนล้านบาทขาดทุนแล้วเกือบ 3 แสนล้านบาทขณะที่เงินกู้ซึ่เป็นภาระหนี้สาธารณะเพิ่มพูนเป็นดินพอกหางหมูก้อนมหาศาลมากขึ้นเรื่อยๆ ยังไม่รวมข้าวปริมาณมหาศาลราว 20 ล้านตันที่ล้นประเทศเพราะขายไม่ออกเนื่องจากรับจำนำในราคาสูงกว่าราคาตลาดถึงเกือบเท่าตัวทำให้ข้าวปริมาณมหาศาลรอเสื่อมคุณภาพซึ่งแน่นอนว่ายอดขาดทุนจากเพิ่มขึ้นอีกเป็นมูลค่ามหาศาล
สำหรับความล้มเหลวด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอย การส่งออกตกต่ำเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ประชาชนต้องเผชิญกับยุคข้าวยากหมากแพงค่าครองชีพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ ซึ่งสวนทางกับสิ่งที่รัฐบาลหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์เคยหาเสียงไว้ช่วงการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อ 2 ปีที่แล้วอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะคำประกาศที่ว่าจะกระชากค่าครองชีพของประชาชนให้ลดลง เพิ่มรายได้ลดรายจ่าย และทำให้ราคาพืชผลการเกษตรสูงขึ้นโดยเฉพาะยางพาราจะมีราคาไม่ต่ำกว่า ก.ก.ละ 120 บาท
ความล้มเหลวและการไม่ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่หาเสียงไว้กับประชาชนทำให้มีพลังมวลชนหลายกลุ่มเริ่มออกมาประท้วงรัฐบาลมากขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งม็อบสวนยางที่ประกาศชุมนุมครั้งใหญ่ ขณะที่ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นราคาก๊าซหุงต้มของรัฐบาลซึ่งจะเริ่มในวันที่ 1 ก.ย.นี้ก็ออกมาชุมนุมคัดค้านรัฐบาลเช่นกัน
ส่วนทางด้านการเมืองรัฐบาลหุ่นเชดยิ่งลักษณ์นับวันจะลุแก่อำนาจอาศัยรัฐตำรวจและกองกำลังเสื้อแดงตลอดจนหน่วยงานรัฐบางหน่วยโดยเพาะกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)เป็นเครื่องมือปราบปราม ข่มขู่ คุกคาม กลั่นแกล้งฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล และใช้อำนาจตามใจชอบ ขณะเดียวกันก็อาศัยพวกมากลากไปใช้ความเป็นเผด็จการเสียงข้างมากในคราบประชาธิปไตยผลักดันกฏหมายหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบมัดมือชก
นอกจากนี้รัฐบาลหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความจริงใจที่จะนำพาประเทศไปสู่ความปรองดอง แต่กลับจุดชนวนสร้างความแตกแยกด้วยการทำตัวเป็นหุ่นเชิดที่ชักใยบงการโดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นนักโทษหนีคุกตามคำพิพากษาของศาลโดยมุ่งที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อผลักดันกฏหมายฟอกโทษความผิดทั้งหมดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยไม่คำนึงถึงการทำลายหลักนิติรัฐ รวมทั้งพยายามรวบรัดแก้ไขรัฐธรรมนูญปูทางให้ระบอบทักษิณผูกขาดอำนาจยึดครองประเทศได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ความพยายามที่จะผลักดันกฏหมายที่มีเป้าหมายแอบแฝงมุ่งลบล้างโทษความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้เกิดกระแสต่อต้านอย่างรุนแรงจากพลังประชาชนกลุ่มต่างๆที่รวมตัวกันกับกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณที่ปักหลักชุมนุมอยู่ที่สวนลุมพินีและเตรียมยกระดับการเคลื่อนไหวที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่ฝ่ายค้านคือพรรคประชาธิปัตย์ก็ประกาศกร้าวพร้อมคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งในและนอกสภาอย่างถึงที่สุด โดยล่าสุด นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศด้วยท่าทีแข็งกร้าวว่า จะไม่รอให้ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมผ่านวาระ 3 ซึ่งหากประชาชนพร้อมเมื่อไหร่ตัวเองะจะเป่านกหวีดออกมานำมวลชนทำศึกแตกหักทันที
เพราะฉะนั้นประเทศภายใต้การบริหารของรัฐบาลชุดนี้จึงมีแต่ความล้มเหลวซ้ำมีแนวโน้มที่จะนำพาประเทศไปสู่ความล่มจมและกลียุค ทั้งนี้เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้เป็นเพียงหุ่นเชิดของทักษิณ โดยทักษิณ และเพื่อทักษิณ
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี