นศ.นำมวลชนปักหลักสู้
ฮ่องกงเดือด
ประท้วงจีนแทรกแซง
ไม่กลัวแก๊สน้ำตาถล่ม
หุ้นรูด-ธุรกิจแห่ปิดหนี
คมนาคมอัมพาตสนิท
“ฮ่องกง” ตกอยู่ในความตึงเครียดที่สุดในรอบหลายปี จากการที่ชาวฮ่องกงหลายหมื่นคนลุกฮือชุมนุมต่อต้านรัฐบาลจีนที่จะเข้ามาแทรกแซงการบริหารเกาะฮ่องกง ซึ่งสำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ได้เกิดการปะทะรอบใหม่ จนตำรวจปราบจลาจลต้องยิงแก๊สน้ำตาสลายกลุ่มผู้ประท้วงในช่วงเช้ามืดของวันจันทร์ที่ 29 กันยายน อีกครั้ง หลังจากคืนวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา เพิ่งเกิดการเผชิญหน้าจนตำรวจต้องยิงแก๊สน้ำตา, ใช้กระบอง รวมทั้งสเปรย์พริกไทย เพื่อสลายม็อบทำให้มีผู้บาดเจ็บ 40 ราย และถูกจับกุม 78 คน
สำหรับกระแสการชุมนุมประท้วงในฮ่องกงมีขึ้นหลังจากเมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนประกาศว่า จะยอมให้ฮ่องกงเลือกผู้นำของตัวเองได้ในปี 2560 แต่อำนาจในการคัดเลือกผู้สมัครผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกงยังอยู่ในมือรัฐบาลจีน ส่งผลให้นักศึกษาและนักเคลื่อนไหวกลุ่ม “อ็อคคิวพาย เซ็นทรัล” ไม่พอใจ และออกมาเคลื่อนไหวจนนำไปสู่การประท้วงของมวลชนตามถนนสายต่างๆ กระทั่งตำรวจต้องใช้สลายการชุมนุมด้วยแก๊สน้ำตาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2548
ทั้งนี้ นายเหลียง ชุน หยิง หัวหน้าคณะผู้บริหารพิเศษฮ่องกง ได้ออกแถลงการณ์เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ เรียกร้องให้บรรดาผู้ประท้วงยุติการชุมนุม พร้อมปฏิเสธข่าวลือที่ว่า กองทัพจีนอาจจะเข้ามาแทรกแซงสถานการณ์ประท้วงในฮ่องกง แต่ผู้ประท้วงไม่สนใจและปักหลักชุมนุมบนถนนต่อไป โดยบรรยากาศในช่วงเช้า ผู้ชุมนุมได้เปลี่ยนเป็นบรรยากาศเป็นรื่นเริงหลังจากที่แก๊สน้ำตาเริ่มจางลง ส่วนที่อาคารแอดมิรัลตี้เซ็นเตอร์ ใกล้ที่ทำการรัฐบาล มีธงชาติจีนปลิวไสวในลักษณะกลับหัว และเมื่อเจ้าหน้าที่พยายามปีนขึ้นไปแก้ไขก็ถูกผู้ประท้วงโห่ไล่
รายงานข่าวระบุว่า ผู้ประท้วงราว 3,000 คน ได้ตั้งเครื่องกีดขวางบนถนนทั่วเขตพื้นที่รอบอ่าวในเขตมงก๊ก บนฝั่งเกาลูน ทำให้การจราจรกลายเป็นอัมพาต ขณะที่ผู้ประท้วงราว 1,000 คน ในย่านช็อปปิ้ง คอสเวย์ เบย์ ก็เผชิญหน้ากับตำรวจปราบจลาจล ซึ่งบรรดาแกนนำต้องเตือนผู้ประท้วงให้ถอนร่น พร้อมเรียกร้องทางการอย่าใช้กระสุนยางยิงใส่ประชาชน
ด้านเว็บไซต์ไชน่า เนชั่นแนล นิวส์ รายงานว่า การชุมนุมดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการค้าปลีกที่ทรุดตัวอยู่แล้วในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา จากการที่นักท่องเที่ยวชาวจีนลดลง 30 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่เป็นช่วงวันหยุดยาว หรือโกลเด้น วีค ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นช่วงที่ค้าปลีกในฮ่องกงคึกคักที่สุด แต่บรรดาโรงเรียน ธนาคาร และบริษัทห้างร้านหลายแห่งจำต้องปิดทำการชั่วคราว
นอกจากนี้ระบบขนส่งมวลชนยังเป็นอัมพาตเกือบทั่วทั้งเมือง เส้นทางเดินรถโดยสารประจำทางกว่า 200 สาย ต้องหยุดให้บริการหรือปรับเปลี่ยนเส้นทาง ขณะที่โครงข่ายรถรางใจกลางเมืองก็ต้องหยุดวิ่ง รถไฟใต้ดิน จำต้องปิดการเข้า-ออก หลายจุดเนื่องจากกลุ่มผู้ประท้วงนำสิ่งกีดขวางมาปิดกั้นไว้
หนังสือพิมพ์โกลบอล ไทมส์ หนึ่งในสื่อสิ่งพิมพ์ที่เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลจีน ตีพิมพ์บทความลงในฉบับวันจันทร์ ประณามการชุมนุมว่าเป็นการแสดงออกของกลุ่มหัวรุนแรง ซึ่งต้องการท้าทายอำนาจและอิทธิพลของรัฐบาลกลาง ทั้งที่ทราบดีอยู่แล้วว่าไม่มีทางเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจเรื่องนโยบายปฏิรูปการเมืองในฮ่องกงที่มาจากมติของสมัชชาประชาชนแห่งชาติ หรือเอ็นพีซีได้
ขณะเดียวกันสำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า หนึ่งในแกนนำในการประท้วงรัฐบาลจีนของชาวฮ่องกงในครั้งนี้ คือ นายโจชัว หว่อง เด็กหนุ่มอายุ 17 ปี ที่สื่อจีนให้ฉายาว่า “หัวรุนแรง” และเป็นหนึ่งในบุคคลอันตรายที่ส่งผลต่อความมั่นคงของแผ่นดินใหญ่ จากการเป็นแกนนำแนวร่วมเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ในกรุงปักกิ่ง เมื่อปี 2532 นอกจากนี้เมื่อปี 2555 หว่อง ยังได้จัดตั้งแนวร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองในชื่อ “สกอลาริซึม” รวบรวมมวลชนได้มากกว่า 120,000 คน ชุมนุมต่อต้านแนวคิดของคณะผู้บริหารฮ่องกง เรื่องการบรรจุแบบเรียนที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักชนชาติจีน โดยมีการอดอาหารประท้วง จนทางการฮ่องกงยอมล้มเลิกแนวคิดดังกล่าวในที่สุด
นอกจากนี้สื่อต่างประเทศ ยังรายงานว่า ผู้ประท้วงซึ่งมีทั้งประชาชน นักเรียน และนักศึกษา ได้ใช้แผ่นฟิล์มใสพันรอบใบหน้าบริเวณดวงตา สวมแว่นตาว่ายน้ำ สวมหน้ากากกระดาษ หรือหลบอยู่หลังร่ม ขณะเจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตาหรือสเปรย์พริกไทยใส่ ในการปะทะกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา จนทำให้การประท้วงในฮ่องกงได้รับการขนานนามว่า “ปฏิวัติร่ม”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี