อิรักเริ่มทวงคืนเมืองฟัลลูจาห์
แบกแดด - นายกรัฐมนตรีไฮเดอร์ อัล อาบาดี ของอิรัก ประกาศเริ่มต้นปฏิบัติการทวงคืนเมืองฟัลลูจาห์ที่ถูกกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ยึดไปเป็นฐานที่มั่นตั้งแต่เดือนมกราคม 2557 โดยกองกำลังพิเศษ ทหาร ตำรวจ ทหารอาสา และกลุ่มชนเผ่าสนับสนุนรัฐบาลจะร่วมในปฏิบัติการยึดคืนเมืองฟัลลูจาห์ที่อยู่ห่างจากกรุงแบกแดดไปทางตะวันตกเพียง 50 กิโลเมตร การประกาศดังกล่าวยุติข้อถกเถียงระหว่างกองกำลังอิรักกับกองกำลังนานาชาติว่าควรเดินหน้าปลดแอกเมืองใดเป็นเมืองถัดไป หลังจากกองทัพสหรัฐแนะให้ยึดเมืองโมซูล ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองก่อน กองกำลังอิรักได้วางแผนทำตามแต่มีความคืบหน้าน้อยมาก ด้านกองบัญชาการปฏิบัติการร่วมของอิรักได้เตือนพลเมืองที่ยังอยู่ในเมืองฟัลลูจาห์ซึ่งคาดว่ามีเป็นหมื่นคนให้เร่งเดินทางออกจากเมือง ครอบครัวที่ไม่สามารถอพยพได้ให้ผูกธงขาวแจ้งตำแหน่งและอยู่ให้ห่างจากฐานที่มั่นของกลุ่มไอเอสเพื่อความปลอดภัย เมืองฟัลลูจาห์ในจังหวัดอันบาร์ และเมืองโมซูลในจังหวัดนิเนเวห์ เป็นเมืองใหญ่สองเมืองสุดท้ายที่ยังถูกกลุ่มไอเอสยึดครองอยู่
นักไต่เขาเอเวอเรสต์ป่วย
กาฐมาณฑุ - นักไต่เขาประมาณ 30 คน ป่วยด้วยอาการเนื้อเยื่อถูกทำลายเพราะความเย็นจัดระหว่างไต่เขาเอเวอเรสต์ หลังจากมีนักไต่เขาเสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย จากอาการป่วยเพราะอยู่ในพื้นที่สูงชัน โดยนายเอริค เอรี อาร์โนล์ด นักไต่เขาชาวดัตช์ เสียชีวิตในวันศุกร์ หลังกำลังขึ้นสู่ยอดเขา ขณะที่ มาเรีย สไทร์ดอม หญิงชาวออสเตรเลีย วัย 34 ปี เสียชีวิตในวันเสาร์ ระหว่างไต่ลงเขา นักไต่เขาทั้งสองคน เสียชีวิตหลังจากที่เพิ่งมีชาวเชอร์ปาท้องถิ่นในเนปาลประสบอุบัติเหตุตกเขาเอเวอเรสต์ ระหว่างทำงานซ่อมทางเดินใกล้กับยอดเขา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ขณะที่ มีรายงานนักไต่เขาชาวอินเดียสูญหาย 2 คน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ในรายงานระบุว่า พวกเขาหายไปในเขต Death zone ใกล้ยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งเป็นจุดอันตรายถึงชีวิต อย่างไรก็ดี แม้จะขึ้นชื่อเรื่องอันตราย แต่นักไต่เขาจากทั่วโลกก็นิยมมาไต่เขาที่นี่อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นักไต่เขาหญิงชาวเนปาลคนหนึ่งสามารถปีนถึงยอดเขาเอเวอเรสต์ เป็นครั้งที่ 7
โจรกรรมเงินจากตู้เอทีเอ็มญี่ปุ่น
โตเกียว - สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า เจ้าหน้าที่กำลังตามล่าแก๊งโจรที่ขโมยเงินสดจากตู้ถอนเงินสดอัตโนมัติ (เอทีเอ็ม) ตามร้านสะดวกซื้อ 1,400 ตู้ทั่วประเทศ กวาดเงินไปมากถึง 1,400 ล้านเยน (ราว 455 ล้านบาท) โดยใช้เวลาปฏิบัติการไม่ถึง 3 ชั่วโมง รายงานระบุว่า แก๊งโจรที่มีสมาชิกหลายเชื้อชาติประมาณ 100 คน กดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มพร้อมกันด้วยบัตรเครดิตปลอมของธนาคารสแตนดาร์ดแบงก์ในแอฟริกาใต้ แต่ละคนตระเวนกดหลายตู้โดยใช้เวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง แต่ยังไม่ชัดเจนว่าแก๊งโจรกวาดเงินสดจำนวนมหาศาลไปได้อย่างไร ในเมื่อการถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็มมักจำกัดไว้ไม่เกินวันละ 100,000 เยน (ราว 32,540 บาท) ด้านตำรวจญี่ปุ่นไม่ยืนยันข่าวนี้ ขณะที่ธนาคารสแตนดาร์ดแบงก์แถลงยอมรับว่า ธนาคารตกเป็นเหยื่อการฉ้อโกงที่ซับซ้อนและประสานกัน เป็นการนำบัตรปลอมตระเวนเบิกเงินสดตามตู้เอทีเอ็มทั่วญี่ปุ่น ทำให้ธนาคารเสียหายถึง 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 677 ล้านบาท)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี