9 ม.ค. 2561 สำนักข่าว BBC ของอังกฤษ รายงานว่า ศาลบังกลาเทศให้การรับรองกฎหมายห้ามชาวบังกลาเทศแต่งงานกับชาวโรฮิงญา ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2557 โดยรัฐบาลบังกลาเทศให้เหตุผลว่าการแต่งงานนั้นถูกใช้ไปเพื่อให้ชาวโรฮิงญาได้รับสัญชาติ ทั้งนี้ชาวโรฮิงญาหลายแสนคนเป็นผู้อพยพหนีตายจากการกวาดล้างของกองทัพรัฐบาลเมียนมา (พม่า) ข้ามพรมแดนเข้าไปยังบังกลาเทศ ในปี 2560
รายงานข่าวระบุว่า นาย Shoaib Hossain Jewel อายุ 26 ปี หลบหนีการไล่ล่าของตำรวจเนื่องจากแต่งงานกับหญิงชาวโรฮิงญาวัย 18 ปีรายหนึ่ง ก่อนจะถูกจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา ซึ่งนาย Jewel ให้การว่า เขาพบหญิงชาวโรฮิงญารายนี้เมื่อครั้งที่ครอบครัวของเธอพักอยู่ในชุมชนมุสลิมในท้องถิ่น และต่อมาเขาต้องใช้ความพยายามเดินทางหลายร้อยกิโลเมตรไปพบเธอที่ค่ายผู้ลี้ภัยที่ไกลออกไปจากหมู่บ้านของฝ่ายชาย ก่อนที่จะตกลงใจแต่งงานกันในที่สุด
ท่ามกลางสถานการณ์ความรุนแรงที่ชาวโรฮิงญาถูกขับไล่ออกจากเมียนมา รัฐบาลบังกลาเทศกล่าวว่า มีการใช้ใบรับรองการแต่งงานเพื่อเรียกร้องเอกสารทางกฎหมายอื่นๆ รวมถึงหนังสือเดินทางของบังกลาเทศ จึงต้องมีกฎหมายดังกล่าว โดยผู้ฝ่าฝืนอาจถูกจำคุกได้สูงสุดถึง 7 ปี ขณะที่นาย Babul Hossain ซึ่งเป็นบิดาของนาย Jewel ยืนยันว่า ตนสนับสนุนการแต่งงานของบุตรชาย และจะยื่นเรื่องคัดค้านกฎหมายฉบับนี้ต่อไป
"ถ้าชาวบังกลาเทศสามารถแต่งงานกับชาวคริสต์ หรือแม้แต่คนของศาสนาอื่นๆ ได้ แล้วลูกชายผมผิดอะไรที่แต่งงานกับชาวโรฮิงญา" บิดาของนาย Jewel กล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ศาลสูงบังกลาเทศได้ยกคำร้องของนาย Babul Hossain และสั่งให้เขาต้องจ่ายค่าธรรมเนียมศาลเป็นเงิน 1 แสนตากา หรือ 1,200 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 38,400 บาท นอกจากนี้ ยังยกคำร้องที่ขอให้ใช้มาตรการคุ้มครองชั่วคราวกับ นาย Jewel อีกด้วย ทั้งนี้ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า คู่รักระหว่างหนุ่มบังกลาเทศกับสาวโรฮิงญาคู่นี้ จะต้องเผชิญชะตากรรมอย่างไรต่อไปในอนาคต ภายใต้กฎหมายฉบับนี้
ขอบคุณข่าวจาก www.bbc.com
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี