28 พ.ย. 57 ปัจจุบันในห้องครัวแทบทุกบ้านต้องมี "ไมโครเวฟ" เป็นอุปกรณ์คู่ครัวอย่างหนึ่ง เพราะไมโครเวฟสามารถทำอาหารอุ่นอาหารอย่างรวดเร็วสะดวกสบาย
แต่เมื่อถูกใช้งานบ่อยครั้ง ความสกปรกและกลิ่นคาวต่างๆ ก็เริ่มสะสมอยู่ในไมโครเวฟไม่น้อยเหมือนกัน ดังนั้นเราจึงมีวิธีทำความสะอาดไมโครเวฟมาฝาก
กำจัดกลิ่นอาหารด้วยเบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชู
1. สูตรเบกกิ้งโซดา
เบกกิ้งโซดา 2 ช้อนชาพูน ๆ ลงไปในถ้วยน้ำ นำไปอุ่นในโมโครเวฟประมาณ 3-5 นาที เบกกิ้งโซดาจะช่วยดับกลิ่นคาวของอาหารได้หมดจด เมื่อเสร็จแล้วใช้ผ้าหรือฟองน้ำจุ่มน้ำเบกกิ้งโซดา แล้วนำไปเช็ดทำความสะอาดภายในไมโครเวฟอีกก็ได้
2. สูตรน้ำส้มสายชู
ผสมน้ำส้มสายชู ¾ ถ้วยตวงกับน้ำสะอาด 1 ถ้วยตวงเข้าด้วยกัน แล้วนำเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟประมาณ 3-5 นาที น้ำส้มสายชูมีสรรพคุณช่วยดับกลิ่นคาว และฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้อยู่หมัด เมื่อไมโครเวฟทำงานเสร็จแล้ว ก็ปล่อยให้น้ำส้มสายชูคลายความร้อนสักนิด แล้วค่อยใช้ผ้าหรือฟองน้ำชุบน้ำส้มสายชูถ้วยนั้น ไปเช็ดคราบสกปรกที่หลงเหลืออยู่ในไมโครเวฟอีกครั้งจนสะอาดทุกซอกทุกมุม หรือแช่เปลือกมะนาวในน้ำ แล้วนำไปอบในไมโครเวฟสักพัก ก็จะช่วยกำจัดกลิ่นอาหารที่ติดค้างและขจัดคราบสกปรกในไมโครเวฟได้อีกด้วย
เคล็ดลับกำจัดรอยไหม้เกรียม
ให้ทำความสะอาดไมโครเวฟด้วยน้ำส้มสายชูหรือเบกิ้งโซดาก็ได้ให้เลือกสูตรใดสูตรหนึ่ง จากนั้นก็บีบยาสีฟันลงบนแปรงสีฟันอันเก่า แล้วก็นำไปขัดที่รอยไหม้ในไมโครเวฟ จนรอยไหม้เริ่มหลุดออกไปบ้าง เสร็จแล้วก็พับกระดาษชำระชนิดแผ่นหนาเป็นรูปสี่เหลี่ยม พับให้ขนาดใหญ่กว่ารอยไหม้เล็กน้อย แล้วผสมสารฟอกขาวกับน้ำสะอาดให้เข้มข้น จากนั้นก็นำมาสารฟอกขาวที่ผสมแล้วมาเทลงบนแผ่นกระดาษให้เปียกเล็กน้อย แล้วนำมาวางทับรอยไหม้ ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้นจนกว่าคราบไหม้จะอ่อนตัวและหลุดออกมา
ข้อมูล : นิตยสารแม่บ้าน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี