ขุนวิจิตรมาตรา
วันที่ ๕ พฤษภาคม วันนี้ ทุกปีถือเป็นวันนักเขียนไทยจุดเริ่มของการรวมตัวของนักเขียนนั้นส่วนใหญ่มักจับกลุ่มกันในกองบรรณาธิการที่สำนักพิมพ์มีวารสารเผยแพร่นิยายและเรื่องบันเทิง ซึ่งมีอยู่หลายค่าย แต่ละแห่งนั้นมีบรรณาธิการและนักเขียนที่มีชื่อเสียงเป็นแม่เหล็กในการอ่านนิยาย เรื่องสั้น เรื่องแปล และนักเขียนหลายท่านก็มีผลงานในค่ายอื่นด้วยเพียงแต่ใช้นามปากกาไม่ให้ซ้ำกัน สรุปว่าวงการนักเขียนหรือนักประพันธ์นั้น ต่างเป็นพี่เป็นน้องมีความสัมพันธ์กันแม้จะอยู่ต่างค่าย ในปี พ.ศ.๒๕๑๑นายเลียว ศรีเสวก เจ้าของนามปากกา “อรวรรณ” ซึ่งเป็นนักประพันธ์เอกแห่งยุคสมัยได้ ป่วยหนัก บรรดานักเขียน-นักเขียน ใหญ่น้อยที่เคารพนับถือ “อรวรรณ” นั้นนายสุวัฒน์ วรดิลก ได้นัดรวมตัวกันจัด “งานชุมนุมน้ำใจ” ในวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๑๑ เพื่อหาเงินช่วยการรักษา “อรวรรณ” หลังจากการจัดงานครั้งนั้น นักเขียน ทั้งหลายได้รวมตัวกัน ตั้ง “ชมรมนักเขียน ๕ พฤษภา” และถือเอาวันที่ ๕ พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันฉัตรมงคล นั้นเป็นวันมงคลของนักเขียน เพื่อร่วมชุมนุมกันเป็นประจำทุกปี “ชมรมนักเขียน 5 พฤษภา” นั้น มีนายสุวัฒน์ วรดิลก เป็นประธานจัดชุมชนุม ใน๒ ปีแรก ใน พ.ศ.๒๕๑๑-๒๕๑๒ นายอุทธรณ์พลกุล เป็นประธานในปี พ.ศ.๒๕๑๓-๒๕๑๔ภายหลังชมรมนักเขียน๕ พฤษภา ได้จัดตั้งเป็น“สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย”เมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๑๔ โดยการมีผู้ก่อตั้ง ๓ คน คือ นางสุภาว์ เทวกุล ณ อยุธยา, นายเสนีย์ บุษปะเกศ และนายถาวร สุวรรณ ผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นนายกสมาคม คนแรก คือ นายอุทธรณ์ พ กุล นามปากกา “งาแซง” ซึ่งให้ข้อคิด ในวันนักเขียน๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๑๖ ว่า “นักเขียนทุกคนย่อมมีภาระหน้าที่ส่วนตัว โดยปรากฏผลงานออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร และตีพิมพ์อยู่ตามหน้าหนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์ต่างๆ ผลงานเหล่านี้จะคงทาบติดฝาผนังอันยาวเหยียดของกาลเวลาที่ไม่มีที่สิ้นสุด และยังคงห้อยแขวนอยู่ตามราวแห่งความคิดคำนึงในภายหลัง ไม่ว่าผลงานนั้นจะเป็นมาในอดีต ปัจจุบันหรืออนาคตข้างหน้า” บุคคลผู้ก่อตั้งสมาคมทั้งสามท่านนั้นได้วางข้อบังคับและภาระกิจของสมาคมเพื่อให้สมาคมฯ ส่งเสริมให้นักเขียนได้สร้างสรรค์ผลงานและยกย่องเชิดชูผลงานเหล่านั้นให้ประจักษ์แก่สาธารณชนทั้งในสังคมไทยและในสังคมโลก รวมทั้งเป็นศูนย์กลางให้นักเขียนได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน และช่วยเหลือคุ้มครองและส่งเสริมสวัสดิภาพให้นักเขียนเท่าที่จะสามารถทำได้
ขุนวิจิตรมาตรากับนักเขียน
ปัจจุบันการเขียนหนังสือในนิตยสารและหนังสือพิมพ์ที่เคยนิยมมาก่อนนั้นได้ถูกสื่อออนไลน์เข้ามามีบทบาทมากขึ้น และมีการพัฒนาเข้าถึงคนในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่ เว็บไซต์ ยูทูบ เฟซบุ๊ก ติ๊กต็อกจนกิจการการพิมพ์ สำนักพิมพ์ และหนังสือต้องปรับเปลี่ยนบทบาทลง แต่ความเป็นนักเขียนอาชีพจึงทำให้หันมาใช้สื่อออนไลน์ทำหน้าที่การเผยแพร่แทน และต้องทันสื่อใหม่ ที่นำ AI มาใช้ ดังนั้น กิจกรรมของนักเขียนจึงถูกเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จนความเป็นนักเขียนที่มีศักดิ์ศรีไม่เหมือนเดิม กิจกรรมหลักวันนักเขียนที่สร้างขึ้นเป็นประจำในวันนักเขียนนั้น คือ การทำบุญอุทิศบุญกุศลให้กับนักเขียนผู้ล่วงลับไปแล้ว ในตอนเช้า และจัดเสวนาจากนักเขียนที่มีชื่อเสียงและนักวิชาการ ต่อจนถึงช่วงเย็นก็สังสรรค์เฮอาจากการสนับสนุนจากค่ายนักเขียนสำนักต่างๆ และมีหนังสือจากสำนักพิมพ์มาร่วมจำหน่ายด้วย ทุกปีที่งานนวนิยาย เฟื่องฟูจนไปทำละครโทรทัศน์ และภาพยนตร์ สร้างดารายอดนิยมและนักเขียนชื่อดังหลายคน วันนี้ต้องทบทวนว่าอาชีพนักเขียนยังเป็นงานอดิเรกหรืออาชีพมั่นคงผลงานยอดนิยมในอดีตของนักเขียนที่มีชื่อเสียงหายไปใหนหมด หรือจะค้นหานักเขียนรุ่นใหม่ไฟแรงให้รางวัลกันไปจนไม่สนใจ ปัญหาคือทำอย่างไรให้งานเขียนของนักเขียนมีผลงานไปสู่สากลได้อ่านให้ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี