บ้านหลวงราชไมตรีที่พักในชุมชน
การที่บ้านหลวงราชไมตรี ตัวแทนของชุมชนริมน้ำจันทบูร ได้รับรางวัล Award of Merit จากโครงการประกวดรางวัลอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมระดับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกของยูเนสโก ประจำปี 2558 นั้น ได้สะท้อนให้เห็นความเข้มแข็งของชุมชนที่มีอายุกว่า 150 ปี ริมแม่น้ำจันทบุรีกลับฟื้นอย่างมีคุณค่าขึ้น จากผลการอนุรักษ์ที่ถูกปรับปรุงฟื้นฟูให้อาคารและบ้านเก่ากลับฟื้นคืนมาร่วมสมัยจนกลายเป็น บ้านพักประวัติศาสตร์ สไตล์ Boutique Hotel นั้นได้ทำให้ทุกคนในยุคปัจจุบันที่มีโอกาสสัมผัสบรรยากาศและเรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์จากการเข้าพักผ่อน ใน “บ้านพักประวัติศาสตร์หลวงราชไมตรี Historic Inn” ที่ตั้งอยู่ ณ ชุมชนเก่าริมน้ำจันทบูร ซึ่งเป็นชุมชน บนถนนสายแรกของเมืองจันทบูรในอดีต สถานที่แห่งนี้ได้เก็บรวบรวมเรื่องราวของหลวงราชไมตรี ผู้สร้างคุณูปการให้กับชาวจันทบุรี ผ่านอาคารและสิ่งของเก่าที่เหลืออยู่ เหมือนกับอาคารอื่นๆ ที่อยู่ร่วมกันในชุมชนแห่งนี้ต่างพากันรักษาสถาปัตยกรรมและรูปแบบของอาคารเก่าให้อยู่ร่วมกันอย่างมีคุณค่า เช่น บ้านขุนอนุสรสมบัติ เป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน บ้านหลวงประกอบนิติสาร เป็นศูนย์ข้อมูลการปกครองและพิพิธภัณฑ์บ้านคุณวิสวัส สวัสดิ์-ชูโต เป็นศูนย์ข้อมูลเรื่องพลอยจันทบุรี บ้านพานิชเจริญ เป็นศูนย์ข้อมูลเสื่อจันทบูร เป็นต้น
หลวงราชไมตรีเจ้าของบ้าน
ชุมชนเก่าหลายแห่งที่เหลืออยู่ในต่างจังหวัดนั้นปัจจุบันได้ถูกนำเสนอให้ตลาดเก่าที่มีวิถีชุมชนอยู่ และเป็นจุดสนใจให้คนพากันเที่ยวมากขึ้น แม้จะต้องสวนกระแสการเปลี่ยนแปลงที่กำลังรุกคืบเข้ามาก็ตามจากพื้นฐานของคนรักถิ่นที่ยินยอมพร้อมใจกันอนุรักษ์และดำรงชีวิตอยู่ให้ชุมชนริมน้ำจันทบุรียังคงตามวิถีแบบเดิม มีศูนย์การเรียนรู้ มีศาลเจ้า และมีร้านค้าในบรรยากาศเก่าๆ ขึ้นในชีวิตประจำวัน จนมีโครงการที่ต้องใช้เวลากว่า4 ปี โดยชุมชนได้ร่วมจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดจันทบุรี สถาบันอาศรมศิลป์ และหน่วยงานอื่นๆ ดำเนินการอนุรักษ์และฟื้นฟูย่านริมน้ำจันทบูรจนตกผลึกจากวิสัยทัศน์ “วัฒนธรรมนำการค้า” ที่มุ่งเน้นการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมและฟื้นฟูชุมชนเป็นไปได้อย่างยั่งยืน และสามารถรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมของชุมชนไว้ได้ทั้งในมิติทางสังคม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจ ให้ดำเนินไปในวิถีโลกปัจจุบันได้ โดยไม่ต้องรอรับกระแสการท่องเที่ยวในเชิงการค้าเพียงอย่างเดียว
ดังนั้น “เจ้าของพื้นที่” คือ ผู้รักชุมชนและสถานที่ดังกล่าว จึงร่วมกับสถาบันอาศรมศิลป์ สร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในชุมชนริมน้ำจันทบูร โดยก่อตั้ง บริษัทจันทบูรรักษ์ดี จำกัด ขึ้น เพื่อให้เป็น “จันทบูรโมเดล” เข้าดำเนินการโครงการตัวอย่างของการอนุรักษ์อย่างมีส่วนร่วมด้วยแนวคิดกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) โดยร่วมมือกับชมรมพัฒนาชุมชนริมน้ำจันทบูรที่ได้ออกแบบปรับปรุง ฟื้นฟู ตัวอาคารสถาปัตยกรรมเรือนไม้เก่าแก่จำนวน 3 หลัง ของหลวงราชไมตรี (ปูม ปุณศรี) ที่ทายาทได้มอบเรือนไม้เก่าแก่ริมน้ำจันทบูรอายุร่วม 150 ปี ให้ดำเนินการจัดทำเป็นบ้านพักประวัติศาสตร์ (Historic Inn) แล้วเปิดให้มีการระดมทุนจากชาวชุมชนในพื้นที่ และชาวจันทบุรี รวมถึงยังเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปที่มีหัวใจรักในพื้นที่แห่งนี้ มาร่วมกันถือหุ้นร่วมเป็นเจ้าของช่วยกันดูแลกันเอง นอกจากสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในรูปแบบที่พอเหมาะลงตัวกับวิถีชุมชนแล้วสร้างความตั้งใจรักษาอดีตและวิถีชีวิตที่งดงามของชุมชนแห่งนี้ไว้ให้ได้มากที่สุด การดำเนินการจึงไม่ใช่งานอนุรักษ์ที่รวบรวมแหล่งความรู้เอาไว้เท่านั้น ยังเป็นแหล่งรวมความรัก...ของคนที่รักชุมชนไว้ด้วยกัน อันเป็นปฐมภูมิของการบริหารจัดการชุมชนเก่าให้มีเสน่ห์และน่าสนใจยิ่งขึ้นทำให้ชื่อ “ท่าหลวง” ย่านการค้าสำคัญริมแม่น้ำจันทบุรีที่เคยมีท่าเรือขนถ่ายสินค้าในยุค 80-100 ปีที่แล้วนั้นกลับคืนจนมองเห็นภาพชุมชนเก่าแก่ที่สุดนั้นไม่ได้หายไปเลย
ศาลเจ้าชุมชนริมน้ำ
ร้านขายยาในชุมชน
การเจียรไนพลอย
การเล่นสกา-หมากรุกในชุมชน
จักรยานเก่าของชุมชน
ชุมชนริมน้ำจันทบุรี
ประชุมคณะกรรมการโครงการ
มว.วัฒนธรรม มอบรางวัลจากยูเนสโกให้กับชุมชน
ละครชาตรี
สมุดไทยตำราเก่า
หมากรุกของชุมชน
อาคารเก่าสไตล์ฝรั่งเศส
อาคารศูนย์การเรียนรู้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี