ในงาน “The Trust of Beauty” บริษัท แอลเลอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านเวชภัณฑ์เพื่อความงามจัดขึ้นเพื่ออัพเดทเทรนด์ความงามปี 2018 โดยมีแพทย์และเจ้าของสถานพยาบาลเข้าร่วมงานจำนวนมากภายในงานได้มีการให้ความรู้เกี่ยวกับเทรนด์ความงาม โดย พญ.นันทภัทร์สุภาพรรณชาติ ผู้ก่อตั้ง Apex Medical Center ศูนย์การแพทย์ทางด้านสุขภาพและความงามแถวหน้าของประเทศไทยและของเอเชีย ซึ่งได้รับรางวัล Award of Appreciation 2017ในฐานะที่ Apex Medical Center ได้รับความพึงพอใจสูงสุดจากลูกค้าประจำปี 2017 ได้ร่วมเผยประสบการณ์และทิศทางวงการบิวตี้ เคล็ดลับความสำเร็จที่ทำให้ Apex Medical Center เป็นที่หนึ่งในใจของคนรักสวยรักงาม
พญ.นันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ เผยถึงเทรนด์ความงามและเทรนด์ของสถานพยาบาลทางด้านความงามว่า “ต้องยอมรับว่า
ในปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์มีความก้าวหน้าไปอย่างมาก และตอบสนองความต้องการได้มากขึ้น ในขณะที่ความยุ่งยากหรือความเสี่ยงมีน้อยลงถึงเกือบไม่มีเลย ทำให้คนเราดูดีขึ้นดูเด็กลงแก่ช้าลงเรื่อยๆ และแน่นอนความก้าวหน้าของเทคโนโลยีก็ทำให้คนเรามีความคาดหวังมากขึ้น อดทนน้อยลง ทำแล้วต้องไม่เจ็บทำแล้วสามารถกลับไปทำงานหรือไปเที่ยวต่อได้เลย ทำแล้วเห็นผลทันที สิ่งสำคัญที่ตามมาสำหรับผู้ที่เป็นแพทย์หรือสถานพยาบาลก็คือความเข้าใจคนไข้แบบเฉพาะบุคคลหรือ Personalization ความงามเป็นเรื่องเฉพาะตัวแพทย์ จึงต้องทำความเข้าใจในสิ่งที่คนไข้ต้องการให้มากที่สุดและทำให้สิ่งที่เขาอยากได้ออกมาเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ควรจะเป็น เหมือนการสร้างงานศิลปะไม่มีสูตรสำเร็จไม่มีสูตรตายตัว ดังนั้นการที่จะทำสิ่งนี้ได้แพทย์จะต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดและเรียนรู้มันให้มากที่สุดเพื่อจะใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุดและเกิดเป็นผลงานที่สร้างความพึงพอใจ”
ขณะที่ผู้มารับบริการด้านความงามนั้นจะมีอายุน้อยลงเรื่อยๆ และมีจำนวนผู้ชายเพิ่มมากขึ้น โดยสิ่งที่นิยมกันมาก
ในปัจจุบันก็คือการ ฉีดปรับรูปหน้า ในคนที่อายุน้อยคนหนุ่มสาวก็จะนิยมให้รูปหน้าเรียวเล็ก ก็จะฉีดกรามให้หน้าเล็กลงหน้าดูหวานขึ้นแต่ถ้าเป็นคนที่อายุมากปัญหาก็จะเป็นผิวหย่อนคล้อยหน้าจะห้อยย้อยลงมาทำให้ใบหน้าและคอดูเกือบจะติดกันเป็นผืนเดียว กรอบหน้าไม่คมชัดดูแก่โทรม ก็จะฉีดเพื่อให้กรอบหน้าชัดคางชัดทำให้ดูอายุน้อยลง หรือบางคนเมื่ออายุมากขึ้นบริเวณรอบดวงตาจะดูเหนื่อยล้าหนังตาตก มีร่องลึกรอบดวงตา ก็สามารถฉีดฟิลเลอร์ทำให้ตาโตขึ้นยกขึ้นดูใบหน้าสดใสขึ้น
“ในส่วนของความปลอดภัยในทางการแพทย์แล้วไม่มีอะไรปลอดภัย 100% ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือจะต้องอยู่ในมือของผู้รู้คือแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญ ในส่วนของแพทย์เองก็จะต้องศึกษาทำความเข้าใจเพื่อให้รู้มากที่สุดรู้ว่าตรงไหนที่ฉีดได้ตรงไหนที่ฉีดไม่ได้อะไรเป็นความไม่ปลอดภัยที่รับได้แก้ได้และสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง”
เนื่องจากปัจจุบันความนิยมในการฉีดสารเติมเต็มยังคงมีสูง ทำให้มีผลิตภัณฑ์ออกมาในตลาดเป็นจำนวนมากจนทำให้
ผู้บริโภคเกิดความสับสนว่าควรจะเลือกอย่างไร
กันต์ กันตถาวร ร่วมแสดงความยินดี
“อันที่จริง โบท็อกซ์ นั้นเป็นชื่อทางการค้าของบริษัทแอลเลอร์แกน จากสหรัฐอเมริกา ส่วนตัวยาหรือสารเคมีนั้นชื่อว่าโบทูลินั่มท็อกซิน ( Botulinum toxin) ซึ่งก็มีผลิตกันในหลายประเทศทั้งอังกฤษ เยอรมนี เกาหลี จีน แต่ละตัวก็มีข้อบ่งชี้ในการใช้ที่แตกต่างกัน ทั้งจำนวนปริมาณที่ต้องใช้ ระยะเวลาในการคงอยู่ของผล ส่วนคำถามที่ว่าแล้วอะไรดีที่สุดคงตอบได้ยาก แต่ถ้าโดยส่วนตัวหมอจะเลือกจากคุณภาพที่ดีมีมาตรฐานในการผลิตสูงมีการศึกษาวิจัยมายาวนาน มีงานวิจัยรองรับเป็นจำนวนมาก มีผู้ใช้จำนวนมากและใช้กันมาเป็นเวลาที่ยาวนานจนเป็นมาตรฐาน ส่วนของใหม่ๆ เพิ่งออกมามีคนใช้ยังไม่เยอะการศึกษาก็ยังมีไม่มากใช้ไปแล้วอาจจะมีปัญหาตามมาในอนาคต ก็รอจนมีผลการศึกษาที่ชัดเจนมีมาตรฐานชัดเจนก่อนดีกว่า”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี