โรงพยาบาลพญาไท 2 เตือนโรคหัวใจภัยเงียบ จัดทำคู่มือ “รู้ทันความจริง เลี่ยงโรคหัวใจ” ในฉบับออนไลน์ เผยสถิติผู้ป่วยโรคหัวใจเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉลี่ย 150 ต่อวัน ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตสุ่มเสี่ยง หรือจากพันธุกรรม แต่ทุกปัญหาหัวใจมีทางออกเสมอ
นายแพทย์ ทวนทศพร สุวรรณจูฑะ ผู้อำนวยการศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลพญาไท 2 กล่าวถึง สถานการณ์โรคหัวใจในปัจจุบันว่า สถิติการเสียด้วยชีวิตโรคหัวใจ และหลอดเลือดของคนไทยใน ปัจจุบันเฉลี่ยที่ 150 คนต่อวัน หรือปีละ 54,530 คน สถิติผู้เสียชีวิต ทั่วโลกอยู่ที่ 17.7 ล้านคนต่อปี และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับแรก ๆ ของคนไทย รองจากมะเร็ง และอุบัติเหตุ ทั้งนี้ สาเหตุของโรคหัวใจที่คนไทยเป็นมากที่สุด คือ หลอดเลือดหัวใจตีบ โดยทั่วไปเมื่อกล่าวถึงโรคหัวใจ มักหมายถึง โรคที่เกิดจากการสะสมของไขมันในผนังหลอดเลือดหัวใจ และการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน หลอดเลือดหัวใจเฉียบพลัน ทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจตาย จึงทำให้มีอัตราเสียชีวิตสูง และต้องการ การรักษาอย่างเร่งด่วนเฉียบพลัน
ทั้งนี้ โรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นโรคของผู้ใหญ่ตั้งแต่วัยหนุ่ม-สาวไปจนถึงในผู้สูงอายุ โดยพบได้สูงตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป ในช่วงวัยเจริญพันธุ์พบโรคหลอดเลือดหัวใจในผู้ชายได้สูงกว่าในผู้หญิง แต่หลังจากวัยหมด ประจำเดือนถาวรแล้ว ทั้งผู้หญิง และผู้ชายมีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้ใกล้เคียงกัน
กินอยู่อย่างไรให้ใจแข็งแรง นายแพทย์ ทวนทศพร กล่าวถึง วิธีดูแลป้องกันก่อนป่วยว่า โรคหลอดเลือดหัวใจตีบนี้ มักไม่แสดงอาการเมื่อเริ่มเป็นโรค หรือเมื่อหลอดเลือดยังตีบไม่มาก ฉะนั้น วิธีป้องกันและดูแลหัวใจที่ดีที่สุดคือ ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เรื่องอาหาร การออกกำลังกาย และจัดการความเครียด จำกัดอาหารไขมัน กินอาหารมีประโยชน์ ควบคุมน้ำหนัก ควบคุมโรคต่างๆ ที่เป็นสาเหตุ ปัจจัยเสี่ยง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันอุดตันในเส้นเลือด และควรตรวจสุขภาพประจำปีสม่ำเสมอ สามารถตรวจได้ตั้งแต่อายุ 18 ปี ขึ้นไป
แต่ถ้าใจอ่อนแอแล้วทำอย่างไร แน่นอนว่าการปรับวิถีการใช้ชีวิต ยังเป็นเรื่องสำคัญ แต่ต้องระมัดระวังเรื่องการออกกำลังกายที่ต้องเป็นไปตามสุขภาพร่างกาย กินยาตามแพทย์สั่งสม่ำเสมอ เช่น ยาขยายหลอดเลือดหัวใจ ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยาลดไขมันในเลือด แพทย์อาจวินิจฉัยการขยายหลอดเลือดด้วยเทคนิคต่างๆ และอาจเป็นการผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจ พบแพทย์ตรงตามนัดเสมอ และรีบพบแพทย์ก่อนนัด เมื่อมีอาการผิดปกติไปจากเดิม ที่สำคัญพบแพทย์ หรือไปโรงพยาบาลเป็นการฉุกเฉิน เมื่อเจ็บแน่นหน้าอกมาก อาจเจ็บร้าว ขึ้นขากรรไกร ไปยังหัวไหล่หรือแขน เหนื่อย หายใจขัด ชีพจรเต้นอ่อน เต้นเร็ว เหงื่อออกมาก วิงเวียนจะเป็นลม หยุดหายใจ หรือโคม่า
ด้าน รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ กิตติชัย เหลืองทวีบุญ ผู้อำนวยการศูนย์ศัลยศาสตร์หลอดเลือดและทรวงอก โรงพยาบาลพญาไท 2 ให้ข้อมูลเรื่อง โรคลิ้นหัวใจเออร์ติกส์ตีบ ว่าเป็นโรคทางหัวใจที่ทำให้ ลิ้นหัวใจเออร์ติกเปิดได้ไม่เต็มที่ ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักกว่าปกติ เพื่อให้สูบฉีดเลือดออกไปเลี้ยงทั่วร่างกายได้เท่าเดิม อาจเกิดภาวะ หัวใจล้มเหลว และอาจเสียชีวิตตามมาได้ หากไม่ได้รับ การรักษา
ปัจจุบันช่วงอายุของผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจตีบ ที่พบอยู่ในช่วงวัยกลางคนถึงวัยสูงอายุ เนื่องจากมาจาก พฤติกรรมการใช้ชีวิตเปลี่ยนไปจากเดิม ทั้งเรื่องของอาหาร อารมณ์ ความเครียด ในขณะเดียวกัน คนไข้อายุมากมักมีโรคร่วมต่างๆ เช่น ความดันโลหิตสูง ไตวาย อัมพาต เบาหวานทำให้ความยุ่งยาก ในการรักษาโรคหัวใจมากขึ้น และอันตรายจากโรคนี้ก็สูงขึ้นด้วย การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมทางสายสวน หรือ TAVI เป็นนวัตกรรมทางเลือกนอกเหนือจากการผ่าตัดเปิดช่องอก ใช้ในผู้ป่วยที่มีภาวะการตีบรุนแรงของลิ้นหัวใจเออร์ติกส์ ส่วนใหญ่การตีบมักเกิด จากความเสื่อม ของลิ้นหัวใจที่มักเกิดในผู้ป่วยสูงอายุ หรือมีโรคอื่นๆ ร่วมด้วยหลายโรคทำให้สภาพร่างกายไม่สามารถทนต่อการผ่าตัดใหญ่ที่ต้องดมยาสลบ และการใช้เครื่องปอดและ หัวใจเทียมระหว่าง ผ่าตัดได้ วิธีการนี้จะช่วยต่อชีวิตผู้ป่วยที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ให้ยืนยาว และมีคุณภาพ ชีวิตที่ดีขึ้น
4 สัญญาน เสี่ยงโรคหัวใจควรปรึกษาแพทย์ คือ เหนื่อยง่ายเมื่อออกแรงหรือออกกำลังกาย เจ็บแน่นหน้าอกเมื่อใช้กำลังเพิ่มขึ้น หรือเมื่อมีความเครียด ในผู้หญิงมักไม่ค่อยพบมีอาการนี้ อาการอาจร้าวไปที่ขากรรไกร ไหล่ และ/หรือ แขนด้านใดก็ได้ แต่มักเป็นด้านซ้าย ขณะที่อาการของโรคหัวใจล้มเหลว (หัวใจวาย) เช่น เหนื่อยง่าย หัวใจเต้นเร็ว บวมหน้าแขน/ขา มีความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
ทั้งนี้ โรงพยาบาลพญาไท 2 ได้จัดทำคู่มือ “รู้ทันความจริง เลี่ยงโรคหัวใจ” ในฉบับออนไลน์ สามารถดาวน์โหลดได้ที่https://www.phyathai.com/page.php?id=99 หรือสามารถนัดรับคำปรึกษาจากทีมแพทย์ศูนย์หัวใจของโรงพยาบาลได้ที่โทร.02-617-2444/ Call Center 1772 และ FaceBook Page : Phyathai2 Hospital
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี