วันพฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ

ปรัชญาหลังอานมอ’ไซค์ของ'ใช้ ดอนคิง' 'วิถีไบค์เกอร์'...คนไทยคนแรกที่'บิด'รอบโลกสำเร็จ (2)

วันพุธ ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2561, 13.38 น.
Tag : การเดินทาง ใช้ ศุภเศรษฐอนันต์ มอเตอร์ไซค์รอบโลก รอบโลก วิถีไบค์เกอร์ SHAI DON KING
  •  

วิถีการเดินทาง... มันจะเลือกผู้คนให้มาพบปะเรา

เส้นทางการเดินทาง...มันจะบ่งบอกว่าคุณอยากเป็นเพียงแค่ผู้ชนะ หรือเป็นผู้แสวงหาสิ่งใดๆ


อย่าปล่อยให้ทุกสิ่งเลือนราง และห่างออกไป...

เชื่อเถอะ เรานำมันกลับมาได้

เพียงเรา...เดินทาง!!

นี่คือ “บางสิ่ง” ที่ “ใช้ ดอนคิง” ถ่ายทอดลงในเพจ SHAI DON KING และในบางสิ่งยังมีอะไร “บางอย่าง” ที่ “ใช้” ได้รับจากการเดินทางอีกมาก อาจจะเรียกให้สวยหรูว่า “ปรัชญา” ก็คงจะได้ และในวันนี้ “คนไทยคนแรกที่(กำลัง)บิดมอ’ไซค์รอบโลกสำเร็จ” จะมาถ่ายทอดให้ผู้คนที่ล้วนมี “ฝัน” แต่ยังไม่อาจทลาย “กำแพงกั้น” ได้รับรู้

 “ใช้” เล่าย้อนถึง “จุดเริ่มต้น” ของการ “สานฝัน” ความคิด “บิด...รอบโลก” ว่า ตอนเด็กๆเขาเป็นคนชอบเดินทาง เริ่มโบกรถทัวร์ รถไฟ รถเมล์แดง เที่ยวไปทั่วแบบเรื่อยเปื่อย ชอบตรงไหน ก็กระโดดลงรถ จากความเรื่อยเปื่อย แปรผันเป็น “เป้าหมาย” เมื่อทุกที่ในประเทศไทยที่อยากไปได้ไปหมดแล้ว “ใช้” เริ่มขยับออกไปตะลุยเขมร ลาว เวียดนาม

กระทั่ง “เส้นแบ่งขอบฟ้า” ไม่อาจ “กักฝัน”...

“ใช้” บอกว่า ช่วงหนึ่งช่วงวัยรุ่นอยากไปต่างประเทศ แต่ไม่มีศักยภาพด้านการเงิน แต่ด้วยความคิดที่จะเที่ยวรอบโลก ซึ่งเป็นความฝันมาตั้งแต่เด็กยังไม่ “มอด” จึงเริ่มมองหาแนวทางการ “เที่ยว” แบบใหม่ ด้วยความที่ชอบ “มอเตอร์ไซค์” จึงเปลี่ยนการเดินทางมาลองใช้มอเตอร์ไซค์ดูบ้าง ก็ทดลองดู หลังจากนั้นก็เปลี่ยนใช้อยู่หลายรุ่น กระทั่งปัจจุบันใช้ BMW R1200GS เป็นรถมือสองที่ซื้อด้วยเงินตัวเอง

“ใช้ “บอกว่า เมื่อมีมอเตอร์ไซค์ก็เริ่มออกไปไกลขึ้น ทั้งในและต่างประเทศ เช่น ลาว เขมร เมียนมา ช่วงแรกๆก็ยังคิดว่ามันใช่ “ทางของเรา” หรือไม่ ที่ทำอยู่มันเป็น “วิถีของไบค์เกอร์” ที่เราชอบจริงหรือไม่ เมื่อมี “คำถาม” เกิดขึ้นกับตัวเอง จึงหาคำตอบด้วยการลองขับมอเตอร์ไซค์เที่ยวไปเรื่อยอยู่ 10 กว่าวัน ออกเช้าค่ำนอน ไปเรื่อยๆขับไปเกือบหมื่นกิโลเมตร ก็ได้คำตอบว่า...

“มันใช่ว่ะ...นี่แหล่ะทางของเรา”

                “ใช้” เล่าต่อว่า หลังจากนั้นจึงเที่ยวด้วยมอเตอร์ไซค์มาตลอด เพราะรู้แล้วว่าชอบมัน ซึ่งในการเดินทางแต่ละครั้งนั้นไม่ได้วางแผนอะไร เพราะเป็นคน “ไม่ซับซ้อน” ไม่ได้เตรียมการอะไรมาก หยิบอะไรได้ก็ไป เพราะปกติเป็นคนที่ตื่นเช้ามา ถ้าอยากจะไปไหนก็ไป ไม่รู้จุดหมายด้วย ไม่เคยหาอ่านหนังสือล่วงหน้า หรือเที่ยวตาม “แลนด์มาร์ค” ที่เขาแชร์ๆกัน ตนเที่ยวแบบไปตรงไหนเจออะไรก็เจอเลย มัน Pure ดี มันได้ฟิลลิ่ง อะไรที่มัน “ดิบ” จะสนุก ตนสนุกกับทุกการเดินทาง จน...

มองต้นหญ้าข้างทาง...สวย!!!

“เพราะนี่คือสิ่งที่เราอยากเห็น ไม่ใช่ไปเที่ยวตามแลนด์มาร์ค แค่ไปเจอคนพื้นถิ่น นุ่งซิ่น ก็ถือว่านี่คือความประทับใจสุดๆละ ตรงนี้ผมเรียกมันว่าความเจริญทางจิตวิญญาณ”

อย่างไรก็ตาม “สิงห์นักบิด” ผู้นี้ เล่าต่อว่า หลายๆครั้งที่เขามีโอกาสได้ขับมอเตอร์ไซค์ ย้อนกลับไปเที่ยวในจุดเดิมเมื่อครั้ง “โบกรถ” เที่ยว และนั่นทำให้ได้พบ “ความเปลี่ยนแปลง...ทางวัตถุ” อย่างมาก โดยเฉพาะในเมืองไทย ซึ่ง “ใช้” ยกตัวอย่างเช่น “เกาะเต่า” ที่ทุกวันนี้มีทุกอย่าง ไม่เว้นกระทั่งผับ-บาร์ , “เชียงใหม่” เคยไปพักแถวคูเมือง ราคาคืนละ 80 บาท , “ปาย” เคยไปตั้งแต่ไม่มีอะไร ยัง “ดิบ” , “เชียงคาน” ไปตั้งแต่มีโรงแรมแค่ที่เดียว แต่ทุกวันนี้หลายๆสถานที่กลายเป็น “มหรสพ”

“บ้านเราเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่าน่ากลัว เป็นการเจริญเติบโตอย่าไร้ทิศทาง เมืองไทยปล่อยให้เกิดการเติบโต โดยไม่รักษาสภาพดั้งเดิม เอาใกล้ๆแค่อัมพวา เดิมเกิดจากการรวมกลุ่มอาร์ทติสต์ นักวาดรูปถ่ายรูป กลุ่มที่ชอบศิลปะ แต่ทุกวันนี้ไม่ใช่ หลายๆสถานที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าเสียดาย”

 “ใช้” ถ่ายทอดประสบการณ์ต่อว่า “ทริปรอบโลก” ล่าสุดของเขาทำให้เริ่มจากประเทศไทย ออกจากไทยทางแม่สอด เข้าเมียนมา อินเดีย อิหร่าน ตุรกี จากนั้นเข้าบัลแกเรีย โรมาเนีย ฮังการี เข้ายุโรปทางออสเตรีย เยอรมัน ฝรั่งเศส สวิสเซอร์แลนด์ โปรตุเกส เบลเยียม ลักเซมเบิร์ก ลิกเตนสไตน์ จากนั้นก็ “ชิปรถ” ไปที่อเมริกา เข้าเม็กซิโก กัวเตมาลา ฮอนดูรัส นิการากัว ลงอเมริกาใต้ถึง ชิลี ราว 30 ประเทศ ตอนนี้ “ชิปรถ” จากชิลี ไปออสเตรเลีย แล้วกลับมาทำวีซ่ารอเดินทางต่อ

“สิงห์นักบิด” ผู้นี้ บอกว่า บางเส้นทาง “อันตราย” ขนาดต่างชาติยังส่ายหัว เช่น อิหร่าน ค่อนข้างจะโหดมาก แต่เราอยากไป เพราะชอบอ่านหนังสือจึงพอทราบว่า “เอเชียไมเนอร์” เป็นรากเหง้าของวัฒนธรรมโลก จึงอยากเห็นอยากสัมผัส และได้เห็น “รากเหง้า” จริงๆ และค่อนข้างจะลึกซึ้งกับมันด้วย เช่น ตนเคยแบ็คแพ็คไปอินเดีย และบินไปเที่ยวอินเดีย 4 ครั้ง ไปมาหมด จนมาครั้งล่าสุดนี้เดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์ผ่านเมืองที่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวเลย สิ่งที่เห็นได้เปลี่ยน “ทัศนคติ” ของเราอย่างสิ้นเชิง

อย่างจุดแรก คือ “นากาแลนด์” ผมเคยอ่านหนังสือสารคดีนากาแลนด์ เคยเป็นอาณาเขตของชนเผ่าที่มีความห้าวหาญในการรบสูง เป็นชนเผ่าที่ “ตัดหัวมนุษย์” แล้วก็เสียบหัวไว้หน้าบ้าน เพื่อข่มขวัญชนเผ่าอื่น แต่ตอนนี้เขาเป็นเขตปกครองพิเศษของอินเดีย

“ผมเชื่อว่าชนเผ่าเหล่านี้มีวิธีคิด มีศิลปะอื่นๆของเขา แต่ภาพที่เราชินตา คือ การตัดหัวเท่านั้น มองเขาด้านมืดด้านเดียว เมื่อผมได้ไปสัมผัสจริงๆพบว่าเขามีความเจริญ มีความงดงามทางจิตวิญญาณสูง ไม่แพ้ชาติที่เจริญแล้ว หรืออย่างในอินเดีย เราจะเข้าใจเสมอว่าอินเดียเป็นประเทศยากจน และสกปรก แต่ไปรอบล่าสุดปีที่ผ่านมานี้เอง ความคิดเปลี่ยน อยากน้อยผมไปคราวล่าสุดนี้ ผมไม่เห็นขอทานในอินเดียเลย และทุกวันผมจะได้กินอาหารฟรีอย่างน้อย 1 มื้อ จากชาวบ้าน”

หลายๆเมืองที่ “ใช้” มีโอกาสได้ “สัมผัส” ให้แง่มุมคิดหลายๆอย่างต่อเขา แต่เมืองที่มี “อิทธิพล” ต่อเขามากที่สุด เห็นจะเป็นที่...

“ทิเบต”!!!

“ใช้” ยอมรับว่า “ทิเบต” มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเขามากที่สุดที่หนึ่งในโลก เพราะคุณจะเห็น “แรงศรัทธา” อย่างแรงกล้าต่อศาสนาและวัฒนธรรมจากที่นี่ บางประเทศความศรัทธาต่อศาสนา ศูนย์รวมจะอยู่ในวัด แต่ที่ “ทิเบต” คุณจะเห็นแรงศรัทธาต่อศาสนาจาก “ทุกลมหายใจ” ของคนทิเบต ทุกห้วงวินาทีของคนที่นี่ ทั้งคนหนุ่มคนสาว ทุกเพศวัย เขาจะมี “ลูกประคำ” กับ “กงล้อมนตรา” หรือกงล้ออธิษฐาน ซึ่งในภาษาทิเบตเรียกว่า “มานี” อันมีความหมายเดียวกับ “มณี”

“มานี” เขาจะหมุนเพื่อสะท้อนให้เห็นถึง “วัฏสงสาร” การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเครื่องเตือนสติของเขา ส่วน “ลูกประคำ” ให้ระลึกถึงจังหวะทำนองของการมีชีวิตอยู่ การดำรงไว้ซึ่งสติ เวลาเขากินข้าวเขายังถืออย่างหนึ่งอย่างใดไว้ในมือ  

นอกจากนี้ “แรงศรัทธา” ของทิเบตยังพบเห็นได้ตลอดเส้นทาง โดย “ทิเบต” อยู่ในที่สูง เป็นหลังคาโลก เส้นทางที่ “ใช้” ขับเข้าไปค่อนข้างจะโหด เป็นภูเขาสูง บางจุดมีอากาศหนาวเหน็บ แต่ระหว่างทาง “ใช้” ได้มีโอกาสได้เห็น “ภาพแห่งศรัทธา” เขาเห็นชาวทิเบตที่กราบแบบ “อัษฎางคประดิษฐ์”(การกราบโดยให้องคาพยพทั้ง 8 ตำแหน่งของร่างกาย อันได้แก่ หน้าผาก 1 หน้าอก (บางแห่งว่าหน้าท้อง) 1 ฝ่ามือทั้ง 2 เข่าทั้ง 2 และปลายเท้าทั้ง 2 สัมผัสธรณี) เดิน 3 ก้าว กราบ “หน้าผาก” ติดพื้นตลอดเส้นทาง

“ใช้” เคยถามชาวทิเบตว่ากราบไปถึงไหน เขาบอกว่ากราบไปถึง “กรุงลาซา” ระยะทางกว่า 1,000 กม. กว่าจะถึง ไม่ใช่เฉพาะผู้ใหญ่ บางจุดเราเห็นมากันเป็นครอบครัว ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ บางกลุ่มก็เดิน บางกลุ่มมากับรถเทียมเกวียน เทียมลา เทียมวัว…

เมื่อไรจะถึง.????

นี่คือภาพสะท้อนของแรงศรัทธา โดยแรงศรัทธาของชาวทิเบตเห็นได้จาก “หน้าผาก” ถ้าหน้าผากที่ด้าน ก้อนเนื้อก้องหนังนูนขึ้นมา นี่แหล่ะ “แรงศรัทธา” ที่แท้จริง

ฉะนั้น...เมื่อมนุษย์เราอยู่ในแรงศรัทธา ซึ่งมันไม่มีศรัทธาไหนถูกหรือผิด ถ้าศรัทธานั้นอยู่ในความเชื่อของเขา ตรงนี้เห็นได้ที่ทิเบต ซึ่ง “ใช้” มองว่ามันคือแรงศรัทธาที่น่า “อัศจรรย์”

“ที่เปลี่ยนผม คือ มันทำให้เราเกิดความเชื่อมั่นในสิ่งที่เรารัก ผมเป็นคนศรัทธาในเรื่องของความฝัน แต่เมื่อผมไปทิเบต ทำให้เห็นว่าสิ่งที่เราพยายามทำเพื่อแรงศรัทธาของเรานั้น มันยังด้อย เป็นแค่เศษธุลี เมื่อเทียบกับแรงศรัทธาที่คนทิเบตมีต่อศาสนา เมื่อกลับมาจากทิเบต ทำให้ผมคิดว่าเมื่อเราฝัน หรือศรัทธาต่ออะไรก็ตาม จงทำให้มันชัดเจนมากขึ้น จงทำมันซะ...”

นี่อาจเป็นแรงผลักดันต่อชีวิตของผม…

มันทำให้ผม “ดุเดือด” กับความฝัน!!!

“ใช้” บอกว่า การขับมอเตอร์ไซค์รอบโลก ไม่ใช่ “ความฝันสูงสุด” ของเขา โดยเขาฝันไว้ 2 อย่าง คือ เดินทางไปในเส้นทางที่ตัวเองอยากจะไป ซึ่งก็ได้ทำแล้ว และอีกอย่าง คือ เป็นคนชอบบ่นเรื่องการไม่รักษา “วิถีชุมชน” ชอบตำหนิเรื่องการทำลายล้างชุมชนด้วยเรื่องของ “การท่องเที่ยว” แต่ถ้าตนตายไปพร้อมกับคำด่า โดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลย ตนจะมองว่าตนเองเป็น

“คนกระจอก”!!!

 “ใช้” บอกว่า หลังจากคิดได้ดังนั้น วันนี้จึงมุ่งมั่นมากว่าเมื่อเราด่าเขาแล้ว เราก็ต้องทำบางอย่างให้มันเกิดขึ้น ให้ตัวเองเห็นว่าตัวเราไม่ใช่คนกระจอกในสายตาตัวเอง จึงมุ่งทำให้ “ตลาดน้ำท่าคา” ซึ่งแทบจะเหลืออยู่เพียงที่เดียวที่ยังรักษาไว้ซึ่ง “การแลกเปลี่ยน” ยังพบการพายเรือเอาของมาแลกเปลี่ยนกัน “ใช้” ทำทุกอย่างเพื่อให้ชุมชนนี้รักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียม และวิถีชุมชนเอาไว้ให้ได้ “ทุกทาง” อย่างน้อยก็ “ตายตาหลับ” แล้ว เพราะทำทั้ง 2 อย่างนี้ไว้ได้ระดับหนึ่งแล้ว นี่เองจึงเป็นที่มาของการ “เนรมิต” ที่พักชื่อ “นิทานคำกลอน 2” ขึ้นที่ตลาดน้ำท่าคา

“ใช้” บอกว่า “นิทานคำกลอน 2” ถือเป็นอีกหนึ่ง “ศูนย์รวม” ความฝันที่เขาทำไว้ ตัวอาคารถูกออกแบบไว้ให้เข้ากับท้องถิ่น เชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบัน เพราะมีการนำ “บ้านทรงไทย” มาปรับให้เข้ากับความเป็นอยู่ในปัจจุบัน จนกลายเป็น “โมเดล” ทางสถาปัตยกรรม ที่สถาบันการศึกษาชื่อดังหลายแห่งพานักศึกษามาเรียนรู้ มาดูว่าจะสร้างบ้านทรงไทยให้น่าอยู่ หรือเข้ากับวัฒนธรรมร่วมสมัยได้อย่างไร เป็นต้น

“ใช้ ดอนคิง” เผยถึงทริปตะลุยรอบโลกครั้งต่อไปของเขา ว่า เวลานี้ขับมอเตอร์ไซค์ไปถึงอเมริกาใต้ จนถึงชิลีแล้ว และตอนนี้กำลังชิปรถมาที่ออสเตรเลีย โดยประมาณ “เดือนกุมภาพันธ์” คาดว่าจะขับจากออสเตรเลีย เข้าอินโดนีเชีย มาเลเซีย และเข้าไทย

“ที่ผ่านมาทุกทริปใช้เงินส่วนตัวมามากพอสมควร เงินหมดแล้ว ขายทรัพย์สินทุกอย่างเพื่อเอาเงินมาใช้ในการเดินทาง มันไม่สำคัญ แต่มันต้องทำ ไม่ยิ่งใหญ่อะไร แต่ฝันไว้ก็ต้องทำ อย่าไปตีค่ามันสูง แต่อย่าทำให้มันต่ำเกินไปนัก ผมอยากให้คนไทยฝ่าความฝันของตัวเองไปให้ได้”  

“ใช้” บอกว่า ถ้ามีโอกาสก็อยากเป็นวิทยากรไปบรรยาย เพื่อแนะแนวทางความคิด ไม่ใช่แค่กับนักเดินทาง หรือนักแทรกเกอร์ แต่รวมถึงการใช้ชีวิตอยู่ และการทำงานโดยทั่วไป อยากวางตัวเองไว้จุดนี้ ที่ทำๆมาได้อะไรบ้าง มันก็ได้ “ความสุข” อยากไปได้ทุกที่เท่าที่มีแรง อยากอยู่กับมัน ยังอยากไป “แอฟริกา-มองโกเลีย” แต่ตอนนี้มี “ข้อจำกัด” เรื่องการเงิน ถ้ามีใครพร้อมสนับสนุน ก็พร้อมที่จะไป อย่างน้อยก็เพื่อช่วยส่งเสริมให้คนไทยคนหนึ่งได้เปิด “ทัศนคติ” ให้กับคนไทยอีกหลายๆคนที่ “ฝัน” อยู่ ตอนนี้ต่างชาติให้ความสำคัญกับการเดินทางของตนมาก

เขา “ทึ่ง” มากที่คนไทยคนเดียวทำได้อย่างไร

เพราะต่างชาติอย่างเขายังไม่กล้าทำ

เมื่อคนไทยทำ มันจึงกลายเป็นเรื่อง “วิเศษและพิเศษ” ในสายตาชาวโลก!!!

(ติดตามตอนต่อไปกับเรื่อง “ที่สุด” ที่เขาพบเจอ)

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

'ลูกท็อปไม่ทิ้ง!! 'เปิดเหตุผล'ชทพ.'ยังร่วม'รัฐบาลหลานอิ๊งค์'

อาจผิด‘พรบ.คอมฯ’ ‘ตร.ไซเบอร์’ลุยสอบคลิปเสียง‘นายกฯ’คุย‘ฮุนเซน’

‘รทสช.’อุบมติพรรคถอน-ไม่ถอน นำคุย‘แพทองธาร’ก่อน

อุ้มซากรัฐบาล!‘ชาติไทยพัฒนา’แถลงไม่ถอนตัวรัฐบาลแพทองธาร

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved