วันที่ 27 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "ภัทร เหมสุข" นักวิชาการอิสระ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊คส่วนตัว "Pat Hemasuk" แสดงความคิดเห็นกรณี “แจ๊ค หม่า” ประธานกลุ่มบริษัทอาลีบาบา ของจีน เดินทางเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งประกาศการลงทุนธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยคล้อยหลังการประกาศได้ไม่นาน ก็ปรากฏข่าวครึกโครมว่า แจ๊ค หม่า สามารถขายทุเรียนไทยผ่านระบบออนไลน์ได้ 8 หมื่นลูกภายในเวลาแค่ 1 นาที โดยนักวิชาการคนดังได้ให้ความเห็นไว้ดังนี้
"ผมอยากให้หยุดคิดกันสักนิดนะครับ ไม่มีพ่อค้าคนไหนเห็นผลประโยชน์ของคนอื่นมากกว่ากระเป๋าตัวเองหรอกครับ ในกรณีของ แจ๊ค หม่า ก็เช่นเดียวกัน โดยอยากให้ดูตัวเลขชุดนี้ว่า ในปี 2560 ประเทศไทย มีผลผลิตทุเรียน 616,121 ตัน ปี 61 ไทยมีผลผลิตทุเรียน 734,284 ตัน (ข้อมูลจากคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพข้อมูลด้านการเกษตร)
ถ้าเฉลี่ยน้ำหนักทุเรียนลูกละ 2.5 ก.ก. เท่ากับปีนี้ประเทศไทยจะมีผลผลิตทุเรียนมากถึงเกือบ 300 ล้านลูก การที่มีการตีข่าวว่า แจ๊ค หม่า ขายทุเรียนออนไลน์ได้ 8 แปดหมื่นลูกในหนึ่งนาทีนั้นสิวๆ มากเลยกับผลผลิตตามตัวเลขของทางราชการ เพราะหลังจากออกข่าวแล้วจะขายได้อีกเท่าไร แจ๊ค หม่า ไม่ได้ให้ข่าว และชาวสวนทุเรียนก็ไม่ได้สนใจอีกด้วย เพราะมีการสั่งจองเต็มผลผลิตหมดแล้วตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ แม้กระทั่งล้งจีนก็เข้ามากดราคาเหมือนผลผลิตการเกษตรตัวอื่นไม่ได้อีกด้วย เพราะผลผลิตมีน้อยกว่าความต้องการ ทุเรียนยังมีอนาคตอีกไกลครับไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอาลีบาบาหรือล้งจีนแต่อย่างไร
การค้าขายออนไลน์ของจีนนั้นไม่ใช่มีแต่ "อาลีบาบา" ยิ่งใหญ่แต่เพียงเจ้าเดียวแต่อย่างไร เพราะ "เถาเป่า" และ "ทีมอล" ก็ใหญ่ไม่ใช่เล็ก และยังมีอีกหลายเจ้าที่ขายของแบบอี-คอมเมิร์ซของจีนที่มีส่วนแบ่งตลาดที่มากระดับพันล้านหยวน และเว็บอี-คอมเมิร์ซเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะไม่มีสินค้าไทยไปขาย มีจำนวนรายการสินค้าไม่น้อยกว่าอาลีบาบา เพียงแต่ว่ายอดขายน้อยกว่าเท่านั้น และพวกเขาไม่ตีข่าวใหญ่ให้คนไทยรู้แบบอาลีบาบาของ แจ๊ค หม่า
ย้อนกลับมาตามที่จั่วหัวเอาไว้ว่า ไม่มีพ่อค้าคนไหนเห็นผลประโยชน์ของคนอื่นมากกว่ากระเป๋าตัวเองนั้น เรามาดูกันว่าเราต้องให้อะไรกับข้อเรียกร้องของ แจ๊ค หม่า ที่มาครั้งนี้บ้าง
สินค้าจีนทะลักเข้ามาในประเทศไทยมากกว่าไทยขายไปจีน เรื่องนี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรอีกแล้ว เวลานี้สินค้าจีนเต็มบ้านเราไปหมดตั้งแต่ เครื่องปรับอากาศ ทีวี เครื่องซักผ้า สินค้าคอนซูเมอร์ในครัวเรือน ผมเชื่อว่าทุกบ้านในประเทศไทยต้องมีสินค้าจีนในบ้านอย่างน้อยก็ชิ้นสองชิ้น แต่บ้านของคนจีนไม่มีสินค้าไทยในปริมาณเท่าๆกันหรอกครับ เพราะเราไม่มีทางไปสู้ราคาอะไรเขาได้เลย
Alipay ทำธุรกรรมการเงินในการซื้อสินค้าและบริการแทนระบบธนาคารของไทย เวลานี้ไปไหนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวจะมีป้าย Alipay หมดแล้ว แต่ก่อนเราเคยคิดกันว่าฟินเทคของเรากันเองจะทำธนาคารไทยตาย แต่ตอนนี้ Alipay ที่แม้แต่ร้าน 7-11 ก็ยังรับทุกร้านนี่แหละครับคือตัวจริงที่กำลังโตแบบหยุดไม่อยู่ เร็กกูเรเตอร์ระบบการเงินของไทยจะรับมือเงินไหลเปลี่ยนทางจนธนาคารไทยอาจจะตายอย่างไรกับเรื่องนี้
ผมเชื่อว่าเรื่องหนึ่งที่ แจ๊ค หม่า ต้องเข้ามาเจรจาคือเรื่องปลอดภาษี BOI ของผู้ประกอบการ และผมคาดว่าจะขอระยะยาวมากกว่าสิบปี ซึ่งเรื่องนี้ผมมองจีนไม่เหมือนที่ญี่ปุนและเกาหลีเข้ามาตั้งโรงงานแล้วขอ BOI นะครับ เพราะเขาได้เราก็ได้สมประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย มีการจ้างงานทั้งจ้างตรงและจ้างซับคอนแทครวมแล้วนับหลายแสนคำแหน่ง แต่กับอี-คอมเมิร์ซเราคงได้อะไรจากจีนให้คนไทยที่ต่างกัน เพราะจีนเองก็คงเอาบริษัทลอจีสติกส์ของจีนมาเองด้วย ไม่ต่างกับทัวร์จีนที่เวลานี้มีรถทัวร์เป็นของตัวเอง ร้านจีนขายอาหารไทยเป็นของตัวเอง ร้านจีนขายสินค้าไทยเป็นของตัวเอง เรียกว่ากินรวบตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำเลยทีเดียว
ทุกวันนี้จีนมีศูนย์กระจายสินค้าอี-คอมเมิร์ซอยู่ในบ้านเราเงียบๆ มาไม่ต่ำกว่าห้าปีแล้ว ผมเคยประมูลของได้ในอีเบย์ราคา 50 เซ็นต์จากร้านที่เซินเจิ้น คิดเป็นเงินไทยก็ไม่ถึงยี่สิบบาท แต่ของส่งมาถึงผมตามที่ผมประมูลเอาไว้ และไม่ใช่ครั้งเดียวที่ผมได้ของราคาถูกแบบนี้บนอีเบย์ ผมซื้อหลายครั้งมาก ถ้าจีนไม่มีศูนย์กระจายสินค้าในบ้านเราก็ไม่มีทางหรอกครับที่จะส่งสินค้าในราคานี้ได้แล้วมีกำไร
ภาษีนำเข้าของสินค้า eCommerce ซึ่งแต่เดิมศุลกากรกำหนดราคาไม่เกิน1500บาทจะไม่คิดภาษี แจ๊คหม่า น่าจะเจรจาขอเพิ่มเป็นไม่เกิน 3,000 บาท ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาของศุลกากรในการเก็บภาษีให้ตรงเป้าพอสมควร ผมเคยซื้อของในอีเบย์ราคาไม่ถึง 1,500 บาท ในใบ CN22 ที่แปะมาหน้ากล่องบอกราคาและภาษีจากทางร้าน ก็ยังไม่ผ่านมาตราฐานของศุลกากรไทย ผมยังต้องโดนแกะกล่องประเมินราคาใหม่ ทั้งที่ผมมีหลักฐานว่าจ่ายเงินซื้อของออนไลน์ไปเท่านั้นจริงๆ ตรงกับใบCN22 ของทางร้านยังไม่รอดเลยครับ
แต่ถ้าครั้งนี้อาลีบาบาขอใช้ CN22 ของทางร้านแล้วไทยต้องยกเว้นภาษีตามที่ต่อรองนั้น เราคงขาดทุนภาษีขาเข้าไปไม่ใช่น้อย
ผมถามหน่อยว่าถ้าเจ้าอื่นๆ ที่ทำอี-คอมเมิร์ซ ทั้งฝรั่งและจีนหรือแม้กระทั่งไทยด้วยกันเอง ขอทุกอย่างเท่าอาลีบาบาแล้วรัฐบาลจะให้ไหม แล้วถ้าปฎิเสธจะให้เหตุผลอย่างไรที่จะไม่ให้ทุกอย่างเหมือนที่เคยให้ แจ๊ค หม่า
ผมขอจบด้วยประโยคนี้ครับ ไม่มีพ่อค้าคนไหนเห็นผลประโยชน์ของคนอื่นมากกว่ากระเป๋าตัวเองหรอก ดังนั้นการเจรจาคงต้องมีข้อเสนอ "ได้สูงสุด" จากทางฝั่งจีนอยู่แล้วไม่ใช่ทางไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี