“อะไรกันนักกันหนากับพาราควอต”..หมอสมชัย บวรกิตติ (ดร.นพ.สมชัย บวรกิตติ ราชบัณฑิตสำนักวิทยาศาสตร์ ราชบัณฑิตยสภา) บ่นพึมพำเมื่อไปบอกเล่าข่าวโหมพาราควอตในระยะนี้ว่าเขาจะห้ามนำพาราควอตเข้าประเทศอีกแล้ว เขาจะไม่ให้เกษตรกรใช้พาราควอตกำจัดวัชพืช และจะห้ามใช้สารเคมีอีกหลายตัวที่จำเป็นในการประกอบอาชีพ
คุณหมอบอกว่า “เห็นได้ชัดว่าเป็นการดำเนินการโดยกลุ่มบุคคลซ้ำๆ ที่ไม่มีความรู้จริงเรื่องสารเหล่านี้” และ โดยคนอีกกลุ่มที่ไม่หางานทำที่เป็นสาระประโยชน์ ท่านว่า “คนที่รู้ความแล้วคงพอรู้ว่าสารทุกชนิดที่คนนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ใช้ทางเกษตรกรรมหรือทางแพทย์เป็นสารพิษทั้งนั้น” มากน้อยแล้วแต่ชนิดสาร “แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้สารพิษจริงๆ ก็หาวิธีการควบคุมการใช้ให้ถูกต้อง” ยาที่หมอใช้รักษาคนไข้ก็มีพิษ แต่เขามีเอกสารแจ้งวิธีใช้ที่ถูกต้อง ถ้าคนไข้เอาไปใช้อย่างถูกต้องก็ได้ประโยชน์และไม่เกิดโทษ มีข่าวบ่อยๆ ที่คนเอายาไปกินฆ่าตัวตายกัน
สารทางเกษตรกรรมก็เช่นกัน ถ้ามีการกำกับดูแลอย่างถูกต้อง การใช้ก็เป็นประโยชน์ไม่เกิดโทษ อย่างเช่น “พาราควอตที่คนเอาไปดื่มฆ่าตัวตายหรือดื่มเพราะความเผลอเรอก็ป้องกันได้ หากมีวิธีการอื่น” เช่น ให้จำหน่ายสารเจือจางบรรจุถังที่เปิดใช้ไม่ได้แบบถังแก๊สหุงต้ม ให้ขายทั้งถังชนิดความเข้มต่างๆ ตามที่เกษตรกรใช้กัน เมื่อจะใช้ก็เสียบสายพ่นที่พ่นละอองขนาดใหญ่ไม่ให้สูดหายใจเข้าปอด โดยวิธีนี้เกษตรกรไม่ต้องซื้อสารเข้มข้นไปเจือจางเองที่เกิดอันตรายได้ และไม่ต้องกลัวใครในบ้านเอาไปดื่มไปอาบฆ่าตัวตาย ไม่ต้องกลัวว่าจะหายใจเข้าปอด
“และถ้าแต่งเนื้อแต่งตัวป้องกันถูกต้องและรู้จักฉีดตามทิศทางลมที่ถูกต้องก็ไม่กลัวการเปียกปอนเสื้อผ้า และที่จริงแล้วพาราควอตที่นำมาฉีดก็เจือจางมากถูกตัวก็ไม่มีอันตราย พอไปอาบน้ำล้างตัวก็ปลอดภัย ที่ว่าพ่นลงดินแล้วลงไปปนเปื้อนแหล่งน้ำก็ไม่น่ากลัว เพราะสารเจือจางมากแล้วลงไปในน้ำก็ยิ่งเจือจางมากขึ้น ไม่เป็นอันตรายกับสิ่งมีชีวิตอะไร และก็อยู่ในน้ำไม่กี่วันก็สิ้นความเป็นพาราควอต”
หมอสมชัยว่าพอรู้เรื่องพาราควอตทางการแพทย์บ้าง “เคยพบคนไข้ที่ดื่มพาราควอตฆ่าตัวตาย แต่ยังไม่เคยพบเกษตรกรเป็นโรคพิษพาราควอต เคยอ่านรายงานพบพาราควอตในเลือดหญิงท้องแก่มาคลอดลูกและพบในเลือดสายสะดือ แต่ไม่ได้รายงานอาการพิษพาราควอตในแม่และเด็ก คงไม่มีจึงไม่บอกไว้” ถ้าจะให้คิดว่าพาราควอตมาจากไหนก็ว่าคงดื่มกินพาราควอตเจือจางปริมาณน้อยๆ ก่อนมาโรงพยาบาลไม่นาน เพราะตอนท้องแก่มากๆ คงออกไปทำงานพ่นพาราควอตไม่ไหว และถ้าได้รับมากๆ ก็คงต้องไปโรงพยาบาลแล้ว และลูกในท้องก็น่าจะเสียชีวิตก่อนคลอดแล้ว
เรื่องโรคพาร์ฅินสันในเกษตรกร ตัวเองไม่ใช่หมอโรคประสาท และอาจไม่ได้ติดตามเอกสารวิชาการเพียงพอ เลยไม่เคยพบเห็นรายงานโรคพาราควอตในเกษตรกรในประเทศไทย ถ้ามีก็อยากได้รายงานมาอ่านประดับความรู้บ้าง ใครมีเอกสารกรุณาทำบุญคุณ เรื่องโรคพาร์ฅินสันถ้าพบในเกษตรกรก็ต้องดูอายุผู้ป่วยด้วย เพราะผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปไม่ต้องสัมผัสพาราควอตก็เป็นโรคพาร์ฅินสันได้
อ่านรายงานข่าวเรื่องผู้ป่วยติดเตียงเยอะขึ้น ทำไมต้องเอาไปเกี่ยวกับพาราควอต ผู้ป่วยที่ป่วยจนขี่เตียงเกิดจากโรคอื่นมากกว่า ไม่เชื่อใครเป็นหมอที่ยังเป็นหมอรักษาคนไข้ลองไปศึกษาผู้ป่วยขี่เตียงดูว่าเป็นโรคอะไรบ้าง น่าจะได้ผลงานวิชาการสวยๆ สักเรื่อง
ลงท้ายอยากแบนโน่นแบนนี่กันนัก ขอร้องให้ช่วยรณรงค์หรือไปกราบอ้อนวอนนายกรัฐมนตรีท่านปัจจุบันที่ทำงานแข็งขัน ขอให้ท่านใช้มาตรา 44 ไปห้ามคนสูบบุหรี่ในประเทศไทย เหมือนที่ท่านจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ให้เลิกการสูบฝิ่น!!!
มูลนิธิวิทยาศาสตร์การเกษตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี