มะขามถือเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีอายุยืน แผ่กิ่งก้านสาขาเป็นพุ่มทรงกลมแน่น รากลึกทนแล้งได้ดี มีทั้งสายพันธุ์ลักษณะหวานและเปรี้ยว ส่วนอีกสายพันธุ์จะเป็นมะขามแดง เป็นชื่อสายพันธุ์มะขามเปรี้ยวเนื้อในเป็นสีแดง แตกต่างจากมะขามเปรี้ยวที่ใช้แกงปรุงอาหารเห็นได้ทั่วไป มีการนำเข้ามาปลูกในแถบเอเชีย ปัจจุบันกำลังเป็นที่สนใจของเกษตรกร เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูง และยังมีสรรพคุณใช้ในทางยารักษาโรค เช่น เป็นยาขับเสมหะ บรรเทาอาการท้องผูก ลดความดันโลหิต แก้ร้อนใน ใช้แก้อาการอาหารไม่ย่อยและปัสสาวะลำบาก 

นอกจากนี้ ยังมีสารตานอนุมูลอิสระที่เรียกว่า แอนโทไซยานิน สภาวะเป็นกรดช่วยลดไขมันในเลือด หลอดเลือด บำรุงผิวพรรณ บำรุงเลือด ด้วยคุณประโยชน์ที่มีในมะขามแดงมากมายทำให้ จึงทำให้นายธนัญชัย พลไทย อายุ 62 ปีและนางสาวสุวสา พ่วงโต อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/1 หมู่ 6 ต.วัดแก้ว อ.บางแพ จ.ราชบุรี สองสามีภรรยา เคยประกอบอาชีพเลี้ยงสุกรมาก่อนหน้านี้และธุรกิจประสบปัญหา จึงได้ทดลองนำกิ่งพันธุ์มะขามแดงกว่า 100 ต้น มาปลูกในพื้นที่เกือบ 12 ไร่ปลูกได้ประมาณ 3 ปี ก็เริ่มให้ผลผลิตออกฝักมีลักษณะไม่ใหญ่มาก เมื่อแกะเปลือกด้านในจะมีสีแดงสด รสชาติเปรี้ยว มีคุณประโยชน์ดีต่อร่างกายและถือเป็นน้ำผลไม้อีกทางเลือกหนึ่งของกลุ่มคนรักสุขภาพ  

นางสาวสุวสา พ่วงโต เปิดเผยว่า ครอบครัวประสบปัญหาการทำฟาร์มสุกร เมื่อประมาณปี 2539 - 2540 มาแล้วต่อมาได้ไปอบรมและพบเพื่อนรุ่นพี่ทำพันธุ์มะขามแดงขายและได้นำน้ำมาให้ดื่ม จึงเก็บมาให้สามีที่บ้าน ต่อมาได้ปรึกษากันในการนำพันธุ์มะขามแดงมาปลูกที่บ้าน 100 ต้น 

ส่วนคุณลักษณะของมะขามแดงนั้นจะมีลักษณะสีแดงตั้งแต่ใบจนถึงฝักที่แก่จะไปเด็ดมะขามที่ยังอ่อนอยู่ในช่วงของการตำน้ำพริก มาแปรรูป ส่วนมะขามแดงสามารถนำไปทำยาได้ เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระมีชื่อว่า #แอนโทไซยานิน ช่วยบรรเทาอาการไอเจ็บคอ ช่วยระบายท้องผูกและช่วยได้อีกหลายเรื่อง ตอนนี้มีจำหน่ายอยู่ที่ ณ สัทธา อุทยานไทย อ.บางแพ หรือ หากมีลูกค้าโทรศัพท์สั่งจองก็สามารถส่งได้ ส่วนพื้นที่มีปลูกยังไม่ค่อยแพร่หลายมากนัก ซึ่งจะอยู่ที่ จ.ราชบุรี จ.นครปฐม จ.เพชรบุรี และ จ.สระบุรี  

สำหรับการแปรรูปฝักอ่อนใช้ทำน้ำมะขามแดง ส่วนฝักแก่ปานกลางใช้ทำมะขามแช่อิ่ม ส่วนฝักแก่ ใช้ทำมะขามคลุก โดยขั้นตอนการต้มน้ำมะขามแดงนั้นให้ใช้น้ำประมาณ 16 ลิตรจะใช้มะขามแดงประมาณ 1 กิโลกรัม ใส่เกลือเล็กน้อย เมื่อน้ำเดือดเต็มที่ให้ใส่มะขามแดงลงไปใช้เวลาต้มอีกประมาณ 30 นาที สีของน้ำก็จะออกมาเป็นสีแดงสด จากนั้นใส่น้ำตาลลงไปชิมได้รสชาติหวานกลมกล่อมแล้วจึงยกหม้อลงทิ้งไว้ให้เย็น เตรียมขวดบรรจุ แล้วติดสติ๊กเกอร์ให้สวยงาม นำไปแช่เย็นพร้อมส่งให้กับลูกค้าที่สั่งจอง นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถไปหาซื้อได้ มีวางจำหน่ายที่ ณ สัทธาอุทยานไทย อ.บางแพ จ.ราชบุรี 

หรือสนใจที่จะศึกษาเรียนรู้การทำน้ำมะขามแดง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่นางสุวสา พ่วงโต เบอร์ 091-6146456 

- 003