“ความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้งส่งผลบวกต่อภาคการลงทุนและเศรษฐกิจ” หากมีการเลือกตั้งภายในเดือน ก.พ. 2562 ค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งและกิจกรรมทางการเมืองกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะทำให้เงินสะพัดตั้งแต่ไตรมาส 4/2561 ต่อเนื่องไปยังต้นปีหน้าไม่ต่ำกว่า 50,000 - 65,000 ล้านบาท มีการกระจายตัวของกิจกรรมในพื้นที่ต่างๆในขอบเขตทั่วประเทศ เม็ดเงินจะกระจายตัวมากกว่าการใช้จ่ายงบประมาณตามปรกติ การกระจายเชิงพื้นที่จะลดการกระจุกตัวของการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกัน “หากการเลือกตั้งเลื่อนออกไปมากเท่าไหร่จากเดือน ก.พ. ไปเดือน พ.ค. ย่อมทำให้ข้าราชการจำนวนหนึ่งเกียร์ว่าง” และรอดูความชัดเจนว่า พรรคการเมืองใดจะชนะการเลือกตั้ง ใครจะมาเป็นรัฐบาลและบริหารกระทรวงใดบ้าง “อาจทำให้งบลงทุนมีการเบิกจ่ายลดลง” แต่การไม่เปิดเสรีภาพ (ไม่ปลดล็อกทำเพียงแค่คลายล็อก) ให้พรรคการเมืองและประชาชนในการทำกิจกรรมทางการเมืองจะลดทอนผลบวกของการเลือกตั้งต่อเศรษฐกิจ และหักล้างผลดีที่เกิดขึ้นกับตลาดการเงินรวมทั้งกระแสเงินทุนไหลเข้าของนักลงทุนต่างชาติ
“อีกทั้งทำให้เกิดความไม่มั่นใจว่าจะมีระบบการเลือกตั้งและการจัดการเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรมและเป็นไปตามมาตรฐานสากลหรือไม่ การเลือกตั้งที่เป็นเพียงพิธีกรรมย่อมไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ ภาคการลงทุนในระยะยาว การทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยกลับคืนสู่ประชาธิปไตยตามเจตนารมณ์ของประชาชน มีเสรีภาพในการทำกิจกรรมทางการเมือง ย่อมทำให้คุณภาพ ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการเลือกตั้งดีขึ้น”
ระบบนิติรัฐและความน่าเชื่อถือของรัฐบาลมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภาคการลงทุนและการตัดสินใจ ยิ่งเลือกตั้งเร็วเท่าไหร่ และสามารถจัดการเลือกตั้งได้อย่างโปร่งใส เป็นธรรมและน่าเชื่อถือมากเท่าไหร่ จะยิ่งลดความเสี่ยงในการจะเกิดวิกฤตการณ์การเมืองรอบใหม่มากเท่านั้น และเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะยาว การเลือกตั้งที่โปร่งใสเป็นธรรมเป็นปัจจัยพื้นฐานที่นำมาสู่ระบอบประชาธิปไตยที่มั่นคงและมีเสถียรภาพ
“หลังการเลือกตั้งต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและปรับเปลี่ยนระบบและกลไกบางอย่างเพื่อให้ประเทศไทยก้าวข้ามจากระบอบกึ่งประชาธิปไตยสู่ ระบอบประชาธิปไตยโดยฉันทามติของประชาชน” เมื่อมีประชาธิปไตยที่มั่นคงแล้ว การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของกลุ่มทุนไทย (Outward Direct Investment) เพื่อลดความเสี่ยงจากปัจจัยการเมืองในประเทศจะลดลง และจะไหลย้อนกลับมาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ส่วนนักลงทุนไทยออกไปลงทุนในต่างประเทศเพื่อขยายฐานการผลิต สร้างเครือข่ายการค้า ขยายฐานลูกค้า และแสวงหาทรัพยากร วัตถุดิบและเทคโนโลยีจะยังคงเติบโตต่อไป
การเติบโตส่วนหนึ่งเป็นผลจากนโยบายการผ่อนคลายและการเปิดเสรีการออกไปลงทุนในต่างประเทศด้วย อัตราการเติบโตของ Thailand’s outward direct investment ในหลายปีที่ผ่านมายังคงสูงกว่าการลงทุนภาคเอกชนในประเทศ การลงทุนในต่างประเทศของกลุ่มทุนไทยอยู่ที่ 2.921 ล้านล้านบาท เทียบ การลงทุนเอกชนในประเทศอยู่ที่ 2.555 ล้านล้านบาท การลงทุนในประเทศจึงค่อนข้างซบเซาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพิ่งจะกระเตื้องขึ้นบ้างในปีนี้
“การคืนอำนาจให้ประชาชนผ่านรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะทำให้เกิดการกระจายอำนาจมากขึ้น การกระจายอำนาจจะเป็นปัจจัยจำเป็นต่อการลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ การกระจายตัวของรายได้และผลประโยชน์ทาง เศรษฐกิจ ระบบการเมืองที่ส่งเสริมและเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมและมีเสรีภาพจะช่วยลดการผูกขาดในระบบเศรษฐกิจลง สามารถใช้เสรีภาพโดยไม่ถูกปิดกั้นในการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศจะเป็นสภาวะแวดล้อมที่จะทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมได้ดีกว่า”
เมื่อพิจารณาผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจมหภาค พบว่าความไม่แน่นอนทางการเมืองอาจเพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งที่ไม่เสรีไม่เป็นธรรมหรือการสืบทอดอำนาจโดยไม่ยึดหลักการประชาธิปไตย (นายกฯ คนนอก) ส่งผลในเชิงลบต่อ เศรษฐกิจทั้งในระยะสั้น โดยเฉพาะการลงทุนภาคเอกชน และต่อศักยภาพการเจริญเติบโตระยะยาว ความไม่แน่นอนทางการเมืองมีหลายลักษณะและมีนัยสำคัญทางสถิติและขนาดของผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจที่ค่อนข้างแตกต่างกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของปัจจัยทางการเมืองต่อพลวัตของเศรษฐกิจไทย
เราหวังว่าจะเกิดความแน่นอนทางการเมืองด้วยการจัดการเลือกตั้งให้เสรีและเป็นธรรมรวมทั้งเคารพต่อเจตนารมณ์ของประชาชนอย่างแท้จริง ด้วยการสนับสนุนให้พรรคการเมืองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนฯ จัดตั้งรัฐบาลและสมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช. งดออกเสียงในการเลือกนายกรัฐมนตรี!!!
ผศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ
คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี