เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบหญิงสาวป่วยเป็นโรคอ้วน และโรคประจำตัวรุมเร้า ต้องการความช่วยเหลือ จึงเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 137/2 หมู่ 7 ต.ท่าฉนวน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย พบ น.ส.ฐิตินันท์ ภู่ขำ แม่ม่ายวัย 34 ปี ล้มป่วยเป็นโรคอ้วนน้ำหนักมากถึง 201 กิโลกรัม และมีโรคประจำตัวทั้งโรคหัวใจ ความดันสูงและโรคหอบ ต้องการความช่วยเหลือด้านการรักษา
น.ส.ฐิตินันท์เปิดเผยชีวิตความเป็นอยู่ให้ทราบว่า ตนเป็นแม่ม่ายมีลูกสาว 2 คน คนเล็กอายุ 8 ขวบ คนโตอายุ 12 ขวบ ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านกับพ่อแม่ มีอาชีพขายผ้าตามตลาดนัด รายได้แค่พอเลี้ยงชีพวันต่อวัน เมื่อก่อนตนรับจ้างทำครัวตามงานบุญต่างๆ เพื่อหาเงินเลี้ยงลูก กระทั่ง 4 ปีที่แล้วมาป่วยเป็นโรคอ้วน จึงไม่สามารถทำงานอะไรได้อีก ภาระทั้งหมดจึงไปตกอยู่กับพ่อแม่ที่แก่แล้ว
“หนูมีพี่น้องฝาแฝด แต่อีกคนไม่อ้วนและเคยเป็นผู้ช่วยเลขาธิการสภาวัฒนธรรมตำบล เคยเป็นวิทยากรลูกเสือชาวบ้าน ทำงานด้านสังคมมาตลอดเพราะใจรัก แต่ปัจจุบันทำอะไรไม่ได้แล้ว แค่จะเดินก็ยังลำบากทรมานเหลือเกิน เคยพยายามอดอาหารลดความอ้วนแต่ก็ไม่สำเร็จ อยากหายป่วย อยากทำงานหาเงินเลี้ยงลูกๆ เพราะสงสารพ่อแม่ที่แก่แล้ว แต่ต้องมาแบกภาระแทน” น.ส.ฐิตินันท์ กล่าวทั้งน้ำตา
สำหรับผู้มีจิตเมตตาสามารถติดต่อช่วยเหลือหญิงสาวรายนี้ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 080-517-3393 หรือบริจาคเงินช่วยเหลือ โดยโอนผ่านบัญชีธนาคารออมสิน สาขากงไกรลาศ ชื่อนางสาวฐิตินันท์ ภู่ขำ บัญชีเผื่อเรียกเลขที่ 020017027861 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาต่อไป
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวประจำจ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีเด็กพิการทางสมองแขนขาลีบ ครอบครัวฐานะยากจน ต้องการความช่วยเหลือเช่นกัน จึงเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 100/3 ม.3 ต.ช้างซ้าย อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าว พบด.ช.สุรเดช สุขสุรัตน์ หรือน้องดรีม อายุ 13 ปี นั่งอยู่บนรถเข็นคันเล็กสภาพเก่า มีน.ส.สาคร สุขสุรัตน์ อายุ 37 ปี มารดายืนอยู่ข้างๆ สภาพร่างกายของน้องดรีม มีความผิดปกติแขนขาลีบ ลำตัวซูบผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แม้กระทั่งขยับตัวยังลำบาก และไม่สามารถพูดคุยได้ เพราะสมองผิดปกติ
น.ส.สาครกล่าวว่า ปัจจุบันตนมีอาชีพรับจ้างเก็บหัวมัน มีบุตร 3 คน สามีเสียชีวิตไปแล้วและมีนางสุ่ย อัมมาตยเอก อายุ 66 ปี มารดา อยู่บ้านหลังติดกับตน โดยด.ช.สุรเดชนั้น เป็นเด็กปกติตั้งแต่แรกเกิดเหมือนเด็กทั่วไป กระทั่งอายุ 4 ขวบ ขณะวิ่งเล่นอยู่กับเพื่อนแล้วเกิดหกล้มสองครั้ง ทำให้เดินไม่ได้ ประกอบกับมีอาการชักเกร็งร่วมด้วย หลังเกิดเหตุ ตนพาไปหาหมอ ผลตรวจร่างกายแพทย์แจ้งว่า ร่างกายของเด็กได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนัก ส่งผลไปถึงเส้นประสาททางสมอง ไม่สามารถรักษาให้หายได้ ทำได้เพียงกายภาพบำบัดและฟื้นฟู จะทำให้ร่างกายเด็กดีขึ้น ซึ่งการรักษาต้องมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ทำให้ตนไม่สามารถพาลูกไปรักษาให้ดีขึ้นได้ ในที่สุดสภาพร่างกายก็มีความผิดปกติมากขึ้น แขนขาลีบ ลำตัวซูบผอม หายใจไม่ค่อยสะดวกต้องหายใจทางปาก
“สงสารลูกที่เป็นแบบนี้ อยากให้ลูกกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ก็คงสิ้นหวัง ตอนนี้เพียงจะเลี้ยงดูให้ดีที่สุด ครั้นจะพาไปรักษาที่ไหนคงไม่มีปัญญา เนื่องจากฐานะยากจน ไม่มีรายได้ที่แน่นอน เพียงใช้ชีวิตให้อยู่รอดกับลูกไปวันๆก็พอแล้ว” น.ส.สาครกล่าว และว่า ที่ผ่านมาไม่มีแม้แต่หน่วยงานเดียวที่จะเข้ามาช่วยเหลือ โดยเฉพาะท้องถิ่น มีอยู่ครั้งหนึ่งเจ้าหน้าที่ อสม.ในพื้นที่เข้ามาดูพร้อมกับขอข้อมูลเอกสารหลักฐานต่างๆ แต่สุดท้ายก็เงียบหายไป ปัจจุบันได้รับการช่วยเหลือเพียงเงินคนพิการเดือนละ 500 บาทเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวดังกล่าว ค่อนข้างลำบาก บ้านที่อยู่อาศัย ปลูกสร้างด้วยการก่ออิฐถือปูน มุงหลังคาแบบง่ายๆ ให้เพียงอยู่อาศัยได้เท่านั้น ตรวจสอบภายในบ้าน ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆ นอกจากทีวีเครื่องเล็กๆ และพัดลมเก่าๆ 1 ตัว บริเวณพื้นปูนนำผ้ายางและแผ่นป้ายโฆษณาไวนิลมาปูวางไว้ มีผ้าผืนบางๆกับหมอน 1 ใบ และมุ้ง 1 หลัง สำหรับเป็นที่นอน
ทั้งนี้ หากผู้ใจบุญประสงค์บริจาคช่วยเหลือน้องดรีม ร่วมสมทบทุนการช่วยเหลือได้ที่ บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลขบัญชี 749-2-33287-3 ชื่อบัญชี น.ส.สาคร สุขสุรัตน์ หรือจะร่วมบริจาคสิ่งของจำเป็นแก่ผู้ป่วยและครอบครัว ซึ่งมีความต้องการเป็นอย่างมาก เช่น รถเข็นผู้ป่วย ที่นอน อาหารเครื่องอุปโภคบริโภค สามารถร่วมบริจาคได้ที่บ้านเลขที่ 100/3 ม.3 ต.ช้างซ้าย อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี