วันที่ 25 กรกฎาคม นางวันเพ็ญ ยาอุด พี่สาว นายนรากร กิตติยังกุล แรงงานไทยชาว จ.น่าน ที่เสียชีวิตจากเหตุโจมตีทางอากาศที่ประเทศอิสราเอล เปิดเผยว่า ได้รับการประสานงานจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศว่า ศพของ นายนรากร จะมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ในวันที่ 28 กรกฎาคม แต่ยังไม่ทราบเวลาแน่นอน ซึ่งตนจะเป็นผู้ไปรับศพน้องชาย ทั้งนี้หน่วยงานรัฐได้แจ้งว่าจะจัดรถตู้เพื่อนำศพกลับไปทำพิธีศพที่บ้าน โดยจัดพิธีศพแบบชาวเขาเผ่าม้ง นอกจากนี้ได้รับแจ้งจากกรมการกงสุลว่า ทางการอิสราเอลจะมีเงินชดเชยการเสียชีวิตให้
วอนช่วยดูแลแรงงานไทย
นางวันเพ็ญ กล่าวว่า อยากให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทางการอิสราเอล สถานทูตไทยในอิสราเอล รวมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในไทย ร่วมกันดูแลความปลอดภัยของแรงงานไทยให้มากขึ้น อย่าให้เข้าไปทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย และหากแรงงานไทยประสบเหตุบาดเจ็บหรือเสียชีวิตก็ต้องให้ความช่วยเหลือและจ่ายเงินชดเชยให้ หากคนใดไม่ต้องการทำงานแล้ว ควรส่งกลับประเทศไทย ส่วนคนที่ต้องการทำงานต่อ ก็ควรอพยพไปทำงานในพื้นที่ที่ปลอดภัย
แรงงานยันอิสราเอลช่วยเต็มที่
ด้าน นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากการหารือกับ นายไซมอน โรเดด เอกอัครราชทูตอิสราเอล ประจำประเทศไทยได้รับการยืนยันว่า ทางการอิสราเอลจะให้ความดูแลครอบครัวของแรงงานไทยที่เสียชีวิตอย่างเต็มที่ ส่วนการส่งร่างผู้เสียชีวิตกลับประเทศไทยนั้น คาดว่าจะเดินทางมาถึงในวันอาทิตย์ หรือวันจันทร์นี้
300คนไทยขอย้ายหนีจุดปะทะ
สำหรับการเคลื่อนย้ายแรงงานพื้นที่เสี่ยงในอิสราเอล ทางการอิสราเอลยืนยันจะให้การช่วยเหลือในการเคลื่อนย้ายอย่างเต็มที่ โดยขณะนี้มีแรงงานไทยแจ้งความประสงค์แล้วประมาณ 300 คน จากจำนวนแรงงานไทยทั้งหมด กว่า 4,000 คน และสามารถแจ้งเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่เพิ่มเติมได้ตลอดเวลา ส่วนในกรณีที่นายจ้างขอให้ลูกจ้างออกไปทำงานทั้งที่มีการประกาศเตือนนั้น ต้องให้ทางสถานทูตตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง
มุสลิมแม่สะเรียงร้องยุติรุนแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวมุสลิมในอำเภอแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 300 คน นำโดยนายสุริยา อร่ามวงศ์ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้นำชาวชุมชนออกมาเรียกร้องสันติภาพและยุติความรุนแรงต่อชาวปาเลสไตน์ หลังทำพิธีละหมาดเนื่องในเดือนรอมฎอน โดยผู้ชุมนุมได้ร่วมกันประณามการกระทำของอิสราเอล ที่โจมตีฉนวนกาชา ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้เด็ก สตรี คนชรา และพลเรือนชาวปาเลสไตน์ ได้รับบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัย ทั้งๆ ที่ไม่ใช่คู่สงครามแต่อย่างใด
คสช.สั่งอพยพคนไทยรอบกาซา
วันเดียวกัน พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ได้รับแจ้งจากสถานทูตไทยประจำประเทศอิสราเอลว่า มีคนไทย 38 คนยื่นเรื่องต่อสถานทูตเพื่อขอย้ายออกจากพื้นที่ซึ่งเจ้าหน้าที่ของสถานทูตไทยได้ประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศของประเทศอิสราเอล รวมถึงนายจ้างของแรงงานไทยในนิคมการเกษตรทั้ง 96 แห่งที่ตั้งอยู่ใกล้ฉนวนกาซาแล้ว นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กำชับให้ย้ายคนไทยออกมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ให้มีรัศมีห่างจากจุดปะทะประมาณ 10-20 กม.โดยไม่มีข้อแม้ และขอให้แรงงานยุติการทำงานชั่วคราวด้วยเพื่อความปลอดภัย
สื่อนอกตีข่าวไทยร้องอพยพ
ด้าน นสพ.เดอะเยรูซาเลมโพสต์ รายงานว่า จากกรณีที่คนงานไทยเสียชีวิตจากการโจมตีของกลุ่มฮามาสทางตอนใต้ของอิสราเอล ทำให้รัฐบาลไทยภายใต้การบริหารของ คสช.เรียกร้องให้รัฐบาลอิสราเอล นำโดยนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ช่วยจัดหาที่อยู่ใหม่ให้คนงานไทยร่วม 4,000 คนที่ทำงานอยู่ทางใต้ติดฉนวนกาซา
แฉอิสราเอลขวางละทิ้งงาน
ขณะที่ ประธานสภาเมืองแอชคีลอน มีความเห็นว่า การต้องให้คนงานละทิ้งโมชาฟ หรือฟาร์มในเวลานี้ถือเป็นหายนะทางเศรษฐกิจ และความขาดแคลนด้านอาหาร และยังแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของแรงงานไทย แต่ทางเราได้เตรียมพร้อมถึงความเป็นไปได้ที่จะมีสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น และเราจะส่งสารแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิตต่อไป
NGOเผยแรงงานไทยอยู่ลำบาก
นอกจากนี้สื่อออนไลน์NGO เว็บไซต์ Activestills.org รายงานเมื่อเดือนมกราคม2014 ถึงความเป็นอยู่ชีวิตแรงงานไทยในภาคเกษตรกรรมที่ฟาร์มในอิสราเอล ที่เรียกว่าโมชาฟว่า มีความเป็นอยู่อย่างยากลำบาก ไม่ได้รับค่าจ้างที่เหมาะสม รวมถึงขาดการเหลียวแลจากนายจ้างชาวยิว โดยแรงงานไทยต้องอาศัยในตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกดัดแปลงเป็นที่พักสำหรับคนงานต่างด้าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี