เตือนBRNจ่อป่วน
วันตั้ง‘เบอร์ซาตู’
ผู้ว่ายะลาคุมเข้ม
สกัด‘คาร์บอมบ์’
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม หลังจากเกิดเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์หน้าโรงแรมฮอลิเดย์ฮิลล์ มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ จำนวนมาก นายเดชรัฐ สิมศิริ ผวจ.ยะลา ได้สั่งกำชับถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยพื้นที่ อ.เบตงโดยเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาทบทวนแผนปฏิบัติการทั้งหมด ซึ่งแผนเดิมที่มีความรัดกุมอยู่แล้วจะคงไว้ แต่เหตุที่เกิดขึ้นเป็นส่วนที่คาดไม่ถึงซึ่งคนร้ายใช้เส้นทางตามหมู่บ้านที่ไม่ผ่านด่านตรวจ มีการลัดเลาะ หาช่วงจังหวะที่การตรวจตรามีน้อย อาศัยจุดอ่อนตรงส่วนนี้นำระเบิดเข้ามา จนเข้าไปถึงในเขตเมืองเบตง ในส่วนนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งแก้ปัญหาแล้วโดยระดมกำลังขึ้นมาใหม่และขอกำลังเพื่อตั้งจุดตรวจถาวรเพิ่ม พร้อมได้วิเคราะห์ในจุดอื่นๆเรียบร้อยแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายหาเส้นทางลัดเลาะเข้าไปในพื้นที่อ.เบตง ก่อเหตุซ้ำพร้อมได้เสริมกำลังปิดช่องว่างตามจุดต่างๆโดยทุกฝ่ายของ อ.เบตง ได้มีการวางกำลังเข้มแข็งขึ้น
ขณะที่หน่วยข่าวความมั่นคง ได้แจ้งเตือนให้เพิ่มความเข้มงวดหลังได้รับรายงานว่า สมาชิกขบวนการบีอาร์เอ็น จำนวน10 คน โดยมี นายมะแซ อุเซ็ง อายุ 54ปี สมาชิกระดับแกนนำDKPเป็นประธานการประชุม ส่วนอีก9คนเป็นสมาชิกในพื้นที่ จ.ยะลา ปัตตานีและนราธิวาสโดยประชุมที่มัสยิดอ.ปาเสมัส รัฐกลันตัน มาเลเซีย มีสรุปสาระสำคัญ นายมะแซ สั่งการให้สมาชิกปฏิบัติการในพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้ สร้างสถานการณ์พร้อมกันหลายจุดโดยใช้รูปแบบเผายาง พ่นสี แขวนป้าย วางวัตถุต้องสงสัย ปักธงชาติมาเลเซีย การยิงโจมตี วางระเบิดและการก่อกวนฯลฯ
ส่วนพื้นที่ จ.ยะลา ให้ปฏิบัติการเขตรอบนอกเขตอำเภอเมืองยะลา จ.ปัตตานี ให้ปฏิบัติการในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี และเขตรอบนอก จังหวัดนราธิวาส ให้ปฏิบัติการในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส และอำเภอรอบนอก โดยจะใช้กำลังของสมาชิกที่จะใช้ปฏิบัติการจังหวัดละ50 คนรวมเฉพาะสมาชิกปฏิบัติการ ประมาณ150 คน โดยมีเป้าหมาย จะก่อเหตุช่วงก่อนวันที่ 31สิงหาคม ซึ่งเป็นวันฉลองครบรอบการประกาศเอกราชของมาเลเซีย และเป็นวันก่อตั้ง”ขบวนการเบอร์ซาตู”ซึ่งอยู่เบื้องหลังกลุ่มแบ่งแยกดินแดน 3 จังหวัดภาคใต้ของไทย
ด้าน พล.ต.ต.ทรงเกียรติ วาทะกุล ผบก.ภ.จ.ยะลา สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสถานีตำรวจภูธรจังหวัดยะลา17สถานี เพิ่มความระมัดระวังในการออกปฏิบัติหน้าที่ และให้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วพร้อมออกปฏิบัติการ รวมทั้งให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลาในการดูแลฐานที่ตั้งเป็นกรณีพิเศษ และพร้อมปฏิบัติการตอบโต้กับคนร้ายอย่างทันท่วงที หากมีสถานการณ์การซุ่มโจมตีฐานที่ตั้ง พร้อม ให้เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะต้องสงสัย เป้าหมายจำนวน 8 คัน ที่ได้แจ้งเตือนเป็นกรณีพิเศษ คาดว่าคนร้ายจะนำเข้ามาก่อเหตุสร้างสถานการณ์ความรุนแรงโดยเฉพาะในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา ย่านชุมชน ย่านการค้า และพื้นที่อำเภออื่นๆ
ขณะที่ พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้แจ้งเตือนหน่วยกำลังในพื้นที่ทั้ง 12 อำเภอให้เพิ่มความเข้มดูแลความปลอดภัยทุกพื้นที่ เนื่องจากเชื่อว่ากลุ่มแนวร่วมอาจจะมีการตอบโต้เจ้าหน้าที่ และเป้าหมายอ่อนแอ หวังแสดงศักยภาพในการสร้างสถานการณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 29ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคดีสำคัญ ศปก.ตร.ส่วนหน้า จ.ยะลา ได้สนธิกำลังกับทหารพราน43และชุดสืบสวน จ.ปัตตานี นำกำลังเข้าปิดล้อมพื้นที่เป้าหมายบริเวณ ม.4 บ้านดอนยาง ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อเข้าจับกุมบุคคลเป้าหมาย สามารถจับกุม และควบคุมตัว นายหะซัน สะแต (มะรอฟี) ได้ที่บ้านพักไม่มีเลขที่ตามหมายจับ ป.วิอาญาคดีความมั่นคงในพื้นที่ระดับสั่งการก่อความไม่สงบในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ หนองจิก จ.ปัตตานี และพื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา หลังสืบทราบมีผู้ต้องหาหลบซ่อนตัวในพื้นที่ช่วงเทศกาลวันฮารีรายอ
ระหว่างควบคุมตัวผู้ต้องหาได้อ้างชื่อตัวเองเป็น” มะนาเซ” หลังควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาตรวจสอบหาสารวัตถุระเบิดตามร่างกายที่ สภ.หนองจิก เบื้องต้น พบมีสารระเบิดประเภท 1 ติดตามร่างกาย ที่จึงได้ตัวไปเข้าที่ศูนย์ซักถามเพื่อขยายผลต่อไปที่กรมทหารพราน 41ตามอำนาจกฎอัยการศึก จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหา เป็นแกนนำระดับสั่งการร่วมกับ นายเสรี มามุ วางแผนถล่มฐานปฏิบัติการที่เกาะแลหนัง อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 24ตุลาคม2554
สำหรับความคืบหน้าคนร้ายได้นำรถกระบะส่งนมที่ปล้นนำระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนักกว่า 100 กิโลกรัมซุกไว้ในรถแล้วขับมาจอดไว้หน้าสภ.ปะนาเระจ.ปัตตานี แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่เข้าเก็บกู้ไว้ได้ทัน เหตุเกิดเมื่อวันที่23 ก.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุด เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคง ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทุกตัวทั้งในเขตเทศบาลตำบลปะนาเระ ไปจนถึงรอยต่อสายบุรีและถนนสายต่างๆกล้องสามารถจับภาพผู้ต้องสงสัยได้ชัดเจน ในภาพจะมีผู้ต้องสงสัยสวมหมวกกันน็อกสีขาวขับขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนอยู่หน้า สภ.ปะนาเระ เพื่อดูเจ้าหน้าที่ ก่อนที่จะโทรศัพท์บอกให้เพื่อนขับรถคันกระบะมามาจอด เพียง15นาที รถยนต์คาร์บอมบ์ได้ขับผ่านกล้องมาจอดไว้หน้า สภ.ปะนาเระ โดยมีคนขับเพียง1คน แต่งกายในชุดดาห์วะสีดำปิดใบหน้าเดินออกจากรถแล้ว มาขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีทางเส้นทางสายปะนาเระ-จะรัง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำภาพไปตรวจสอบกับเครื่องมือขยายภาพเพื่อเปรียบเทียบกับแฟ้มภาพในคดีความมั่นคงว่าเป็นใคร
ส่วนการสืบสวนสอบสวนพยานจนถึงขณะนี้คดีมีความคืบหน้าจนสามารถเชื่อมโยงและรู้กลุ่มที่ก่อเหตุ เบื้องต้นกลุ่มที่ก่อเหตุมาจากหลายกลุ่มทั้งกลุ่มบางแก้ว กลุ่มป่าทุ่ง กลุ่มน้ำบ่อซึ่ง
เชื่อว่าน่าจะมี นายอัสมาน นายอารียาสะ นายอิสมาแอ นายปาตะ นายมะรูดิน นายสุไลมาน และนายซาการียา โดยทั้ง7ราย มีหมายจับคดีความมั่นคงและมาจากหลายกลุ่ม ขณะนี้กำลังรอผลตรวจจากวัตถุพยานในที่เกิดเหตุว่าจะตรงกับดีเอ็นเอหรือไม่ ซึ่งหากตรงตามข้อมูลพยานหลักฐานก็จะสามารถออกหมายจับทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี