“เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นหลักปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตและการปฏิบัติตนแก่พสกนิกรชาวไทยทุกระดับตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชนจนถึงระดับประเทศ มาโดยตลอดนานกว่า 30 ปี ตั้งแต่เกิดวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ เมื่อปี พ.ศ. 2540 โดยให้ดำเนินไปตามสายกลาง และความไม่ประมาท คำนึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันในตนเอง ตลอดจนใช้ความรู้ ความรอบครอบ และคุณธรรมประกอบการวางแผนการตัดสินใจ และการกระทำ
การพัฒนาโดยส่งเสริมให้ประชาชนมีแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง จะทำให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในวิถีชีวิตที่ควรเป็นและจะเป็นพลังสำคัญที่จะขับเคลื่อนแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงให้ขยายครอบคลุมทุกหมู่บ้าน ตำบลซึ่งจะทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและสามารถพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน
นายธง กาฬภักดี นายกเทศบาลตำบลหนองกระทุ่ม อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่าเศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาที่ชี้แนวทางการดำรงชีวิต ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระราชดำรัสแก่ชาวไทยนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2517เป็นต้นมาและถูกพูดถึงอย่างชัดเจนในวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2540 เพื่อเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทยให้สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในกระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เศรษฐกิจพอเพียงมีบทบาทต่อการกำหนดอุดมการณ์การพัฒนาของประเทศ โดยปัญญาชนในสังคมไทยหลายท่านได้ร่วมแสดงความคิดเห็น อย่างเช่นศ.นพ.ประเวศ วะสี, ศ.เสน่ห์ จามริก, ศ.อภิชัย พันธเสน, และศ.ฉัตรทิพย์ นาถสุภาโดยเชื่อมโยงแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงเข้ากับวัฒนธรรมชุมชนซึ่งเคยถูกเสนอมาก่อนหน้าโดยองค์กรพัฒนาเอกชนจำนวนหนึ่งนับตั้งแต่พุทธทศวรรษ 2520 และได้ช่วยให้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในสังคมไทย เศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาที่ยึดหลักทางสายกลางที่ชี้แนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติของประชาชนในทุกระดับให้ดำเนินไปในทางสายกลาง มีความพอเพียงและมีความพร้อมที่จะจัดการต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงซึ่งจะต้องอาศัยความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวังในการวางแผนและดำเนินการทุกขั้นตอน ทั้งนี้เศรษฐกิจพอเพียงเป็นการดำเนินชีวิตอย่างสมดุลและยั่งยืนเพื่อให้สามารถอยู่ได้แม้ในโลกโลกาภิวัตน์ที่มีการแข่งขันสูง
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่ทรงปรับปรุงพระราชทานเป็นที่มาของนิยาม "3 ห่วง 2 เงื่อนไข" ที่คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตินำมาใช้ในการรณรงค์เผยแพร่ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งประกอบด้วยความ "พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน"บนเงื่อนไข "ความรู้" และ "คุณธรรม"ระบบเศรษฐกิจพอเพียงมุ่งเน้นให้บุคคลสามารถประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน
และใช้จ่ายเงินให้ได้มาอย่างพอเพียงและประหยัด ตามกำลังของเงินของบุคคลนั้นโดยปราศจากการกู้หนี้ยืมสิน และถ้ามีเงินเหลือ ก็แบ่งเก็บออมไว้บางส่วนช่วยเหลือผู้อื่นบางส่วน และอาจจะใช้จ่ายมาเพื่อปัจจัยเสริมอีกบางส่วนสาเหตุที่แนวทางการดำรงชีวิตอย่างพอเพียงได้ถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวางในขณะนี้เพราะสภาพการดำรงชีวิตของสังคมทุนนิยมในปัจจุบันได้ถูกปลูกฝัง สร้างหรือกระตุ้น ให้เกิดการใช้จ่ายอย่างเกินตัวในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินกว่าปัจจัยในการดำรงชีวิต เช่นการบริโภคเกินตัว ความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ ความสวยความงามการแต่งตัวตามแฟชั่น การพนันหรือเสี่ยงโชค เป็นต้นจนทำให้ไม่มีเงินเพียงพอเพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านั้นส่งผลให้เกิดการกู้หนี้ยืมสินเกิดเป็นวัฏจักรที่บุคคลหนึ่งไม่สามารถหลุดออกมาได้ถ้าไม่เปลี่ยนแนวทางในการดำรงชีวิต
เพื่อเป็นการส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงตามโครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบอำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ทุกครัวเรือนได้น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม และเกิดการปรับเปลี่ยนทัศนคติ/ค่านิยมในการดำรงชีวิตและการปฏิบัติ เทศบาลตำบลหนองกระทุ่ม จึงจัดทำโครงการส่งเสริมอาชีพตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง (ตำบลต้นแบบด้วยวิถีพอเพียง)ให้กับประชาชนตำบลหนองกระทุ่มและครอบครัวขึ้น เพื่อให้ ผู้เข้าร่วมโครงการมีความรู้ ความเข้าใจในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้เข้าร่วมโครงการมีขวัญกำลังใจในการนำดำเนินชีวิตตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง เกิดแกนนำชุมชนที่มีองค์ความรู้และมีทักษะ เข้าใจในวิถีเศรษฐกิจพอเพียง ในการช่วยเผยแพร่ความรู้สู่ชุมชนหนองกระทุ่ม
ในการจัดทำโครงการส่งเสริมอาชีพตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง(ตำบลต้นแบบด้วยวิถีพอเพียง) จะเป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าร่วมอบรมทุกๆท่าน ทำให้ชุมชนบ้านหนองปอ หมู่ 3 ต.หนองกระทุ่ม และชาวบ้านทุ่งกฐิน หมู่ 5 ต.บ่อกรุ ซึ่งมาร่วมในการอบรมด้วยมีความเข้มแข็งขึ้น รวมทั้งจะเกิดประโยชน์โดยตรงต่อชาวบ้านทุกคนรวมถึงประชาชนผู้ที่ได้ดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงต่อไป
มัจฉา ท่าจีน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี