เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ(ในยาง) อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ตั้งแต่ช่วงเช้า นายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อม นายสมัคร ดอนนาปี ผู้อำนวยการ สำนักอุทยานแห่งชาติฯกรมอุทยานฯได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามผลการปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า พร้อมร่วมประชุมกับ นายกิตติพัฒน์ ธาราภิบาล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถเพื่อตรวจสอบและหาแนวทางโต้แย้ง และคัดค้านกรณีที่กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ได้แจ้งว่ามีการออกเอกสารโดยชอบให้กับโรงแรมหรู 8 ราย รวม52แปลง
ทั้งนี้ นายกิตติพัฒน์ และนายสุจิต จันทร์สว่าง ผู้เชี่ยวชาญ ด้านการแปรภาพถ่ายดาวเทียม ได้ชี้แจงภาพถ่ายดาวเทียมซึ่งเป็นบริเวณที่ตั้งของโรงแรมทั้ง 8 แห่ง โดยนำภาพถ่ายทางอากาศฉบับแรกตั้งแต่ปี 2493 เป็นต้น มาแสดงต่อที่ประชุม ซึ่งปรากฏว่าทุกพื้นที่เป็นป่าเกือบ 100 % ที่ไม่มีการใช้ประโยชน์มาก่อน โดยภาพถ่ายที่ปรากฏว่ามีการใช้ประโยชน์ในพื้นที่จะเริ่มตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา คือ มีการบุกรุก สร้างโรงแรม และสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ เกิดขึ้น
จากนั้น นายนิพนธ์ พร้อม นายสมัครได้เข้าประชุมร่วมกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นำโดยนายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนคดีการออกโฉนดโดยมิชอบในพื้นที่อุทยานฯ สิรินาถ และนายณรงค์ รัฐอมฤต กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะอนุกรรมการไต่สวนฯ
โดยนายกิตติพัฒน์ได้นำเอกสารหลักฐานภาพถ่ายของป่าสงวนแห่งชาติป่าเขารวกเขาเมืองและอุทยานฯ สิรินาถ รวมทั้งได้นำภาพถ่ายดาวเทียม ที่ตั้งอุทยานฯ ของอุทยานฯทั้ง 8 แห่งที่กรมที่ดินระบุว่าออกโฉนดโดยถูกต้องมาแสดงต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช.โดยพื้นที่ทุกแปลงซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม ล้วนเป็นสภาพป่าทั้งสิ้น
“โดยเฉพาะในส่วนของโรงแรมของบริษัทลายัน ภูเก็ต ปรากฏว่ามีการออกโฉนดในส่วนที่เป็นพื้นที่น้ำทะเลถึง70%ซึ่งสร้างความตกตะลึงให้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช.เป็นอย่างยิ่งเพราะคิดไม่ถึงว่าจะมีการนำพื้นที่น้ำทะเลไปออกโฉนดได้ รวมทั้งพื้นที่ที่เป็นป่าดั้งเดิมตั้งแต่ปี 2493”
ทั้งนี้ นายนิพนธ์ ได้มอบเอกสารหลักฐานทั้งหมดรวมทั้งสำนวนคดีของบริเวณทรีดอลฟินซ์ จำกัดซึ่ง ป.ป.ช. กำลังอยู่ระหว่างการไต่สวนคดีให้กับนายประสาทด้วย
ด้านนายประสาท กล่าวว่า ป.ป.ช.ได้ลงพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบการบุกรุกอุทยานฯ สิรินาถ และตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ของบริษัททรีดอลฟินซ์ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รัฐระดับรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ รวม 16 คนเข้าไปเกี่ยวข้อง ยืนยันว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด เพราะว่าคดีดังกล่าวเป็นที่สนใจของสังคม และจะขยายผลสอบสวนไปถึงลูกหลานของผู้ครอบครอง ส.ค.1 ด้วย เพราะถ้ารู้จุดเริ่มต้นของ ส.ค.1 ก็จะรู้ว่าการออกโฉนดในอุทยานฯ มีลักษณะถูกต้องหรือไม่อย่างไร
นอกจากนี้ป.ป.ช.มีกฎหมายใหม่คือกฎหมายคุ้มครองพยานดังนั้นอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องให้การเป็นพยานกับ ป.ป.ช.โดยยืนยันว่าจะได้รับความคุ้มครองอย่างเต็มที่ ขณะที่ในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐก็ควรมาให้การด้วยเพราะป.ป.ช.สามารถเสนอ ครม.เพื่อเลื่อนขั้นหรือเลื่อนซีได้ด้วย ถ้าให้การที่เป็นประโยชน์หรือแม้กระทั่งเสนอนายกรัฐมนตรีให้สามารถย้ายไปอยู่ในตำแหน่งที่ตนเองถนัดและสบายใจได้ด้วย
ด้านนายณรงค์ กล่าวว่า ถ้ารัฐไม่จัดการกับ ส.ค.1 ซึ่งมีเกลื่อนกลาดทั่วประเทศ เราจะไม่สามารถรักษาผืนป่าไว้ได้เลย ดังนั้นตนขอเรียกร้องให้ คสช. ยกเลิก ส.ค.1 ทั่วประเทศ โดยอาจจะมีเงื่อนไข ว่าให้ผู้ที่มี ส.ค.1 มาขึ้นทะเบียนเพื่อ จำกัดและรู้จำนวนที่แท้จริง จะได้หาวิธีในการกำจัด ส.ค. 1 ที่จะบินหรือบวมในพื้นที่อุทยานฯ หรือป่าสงวนฯ ทั่วประเทศได้ เพราะต้องยอมรับว่ากลุ่มนายทุนที่บุกรุกป่า มีทั้งเงิน มีทั้งกฎหมายอยู่ในมือ มีทั้งพวกพ้อง ถ้าไม่สามารถจัดการกับ ส.ค.1 หรือแก้กฎหมายได้ ไม่มีทางที่จะรักษาป่าไว้ได้แน่นอน
นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า กรมอุทยานฯ ได้ส่งสถาปนิกมาออกแบบปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณหาดในยาง เพื่อสร้างอนุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีหรือสมเด็จย่าของชาวไทย ซึ่งเคยเสด็จมาเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และเคยประทับในพื้นที่บริเวณหาดในยาง ตรงจุดที่มีการรื้อถอนร้านค้า เพื่อทำเป็นสถานที่สักการะและพักผ่อนหย่อนใจแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั่วไป
นอกจากนี้จะผนวกพื้นที่ด้านขวามือของถนนชายหาดในยาง อ่าวปอ ส่วนที่อยู่นอกเขตอุทยานฯ สิรินาถ เพื่อประกาศเป็นพื้นที่อุทยานฯ ต่อไป รวมทั้งควบคุมและดำเนินการตามระเบียบการเข้าอุทยานฯ โดยเคร่งครัดต่อไป เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้ใช้ประโยชน์จากอุทยานฯ อย่างเต็มที่ เพื่อเป็นการคืนความสุขให้ประชาชนตามนโยบาย คสช.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี