8 ก.ย.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อวันนี้ 26 ก.ค.57 ที่ผ่านมา นายธัญญา เนติธรรมกุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วย นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ผอ.สำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายเชิดชัย จริยะปัญญา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายธรรมรัฐ วงศ์โสภา ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมคณะ บินสำรวจผืนป่าในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม และอุทยานแห่งชาติลำคลองงู จ.กาญจนบุรี และสั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานทั้ง 4 แห่ง สำรวจพื้นที่อย่างละเอียดว่าพื้นที่บ้านพักตากอากาศ รีสอร์ต รวมทั้งพื้นที่ปลูกสวนปาล์ม ยางพาราที่ตรวจพบเป็นพื้นที่ครอบครองตามมติ ครม.30 มิ.ย.2541 หรือไม่อย่างไร
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น.ที่ผ่านมา นายธรรมรัฐ วงศ์โสภา ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบ ร่วมกับ นายวัฒนา มาปุก ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 3 นานวิโรจน์ โรจนจินดา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม นายฐิติ โสมภีร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ นายปรยุษณ์ ไวว่อง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ นายพงศ์สรรค์ ดิษฐานุพงศ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำคลองงูนายอนุกูล ลำไย หัวหน้าชุดเฉพาะกิจ อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ชุดที่ 3 นายกฤติน หลิมตระกูล นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ช่วยปฏิบัติราชการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า กรรมการ ผู้ช่วยเลขานุการ ร.ท.ศักดิ์ดา ชนะหาญ ผบ.มว.ลว.ฉก.ลาดหญ้า ค่ายสุรสีห์ พร้อมกำลังกว่า 100 นาย
นำกำลังตรวจยึดพื้นที่ปลูกพืชอาสิน พร้อมบ้านพักหลังขนาดใหญ่ ก่อสร้างด้วยไม้แดงและไม้ประดู แบบยกสูง ไม่มีเลขที่ หมู่ 1 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เมื่อไปถึงพบ นายสมชาย เย็นฤทัย อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89/27 หมู่ 7 ต.ท่าจีน อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร เป็นผู้ดูแล และนายจันทร์ดี แรงงานชาวกะเหรี่ยง เป็นผู้ดูแล
สำหรับบ้านไม้หลังดังกล่าวมีห้องพักรวมกันประมาณ 10 ห้อง 2 ใน 10 ห้องล็อกด้วยกุญแจ เจ้าหน้าที่จึงขอให้นายสมชาย เปิดประตูห้องเพื่อตรวจสอบภายใน ซึ่งปรากฏว่านายสมชายไม่มีกุญแจ อ้างว่ากุญแจอยู่กับ นายประกอบ จันทร์ทิพย์ อยู่บ้านเลขที่ 27/3 หมู่ 2 ต.บางบอน อ.บางขุนเทียน กทม.ตำแหน่ง สข.เขตบางบอน จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ประสานางโทรศัพท์พูดคุยกับนายประกอบ เพื่อแจ้งให้ทราบว่าจะทำการงัดประตูบ้านเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งนายประกอบได้อนุญาต หลังจากงัดประตูเข้าไปได้ ไม่พบสิ่งของหรือของผิดกฎหมายแต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงให้นายสมชาย เป็นคนนำพาสำรวจพื้นที่เพื่อวัดพิกัดทางดาวเทียม เพื่อตรวจยึดพื้นที่คืนเป็นสมบัติของชาติ โดยจะกันนายสมชายเอาไว้เป็นพยาน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดเดียวกันไปไปตรวจยึดบ้านพักหลังขนาดใหญ่ เลขที่ 103/1 หมู่ 1 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง มองเห็นอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณอย่างเด่นชัด บ้านหลังดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่จำนวน 116 ไร่ พื้นที่ทั้งหมดปลูกพืชอาสิน เต็มพื้นที่ โดยมี นายครองธรรม ศรีเทพ อายุ 55 ปี หัวหน้าแผนกพัสดุ เขื่อนวชิราลงกร พร้อมพื้นที่ปลูกพืชอาสินกว่า 116 ไร่ เป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวไปสอบปากคำที่ บริเวณจุดชมวิวป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
นายธรรมรัฐ วงศ์โสภา ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพื้นที่ทั้งสองแห่ง พบว่ามีการเปลี่ยนมือผู้ครอบครอง ซึ่งไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของมติ ครม.วันที่ 30 มิ.ย.2541 เมื่อมีการเปลี่ยนมือเจ้าหน้าที่จึงต้องยึดคืนกลับคืนมาเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ซึ่งหาก นายครองธรรม ศรีเทพ และนายประกอบ จันทร์ทิพย์ ต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ก็สามารถนำเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ ซึ่งเราก็จะให้ความเป็นธรรม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี