บุกจับนายทุนกาฬสินธุ์
ฮุบที่สปก.กว่า1.8พันไร่
เด้ง‘ชัยวัฒน์’พ้นแก่งกระจาน
‘ดาว์พงษ์’ขู่ฟันรีสอร์ทรุกป่า
กองกำลังรักษาความสงบจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอดอนจานสนธิกำลังปฏิบัติการทวงคืนพื้นที่ส.ป.ก.พร้อมจับกุมนายทุน ซึ่งกว้านซื้อที่ส.ป.ก.กว่า 1,800 ไร่ จากชาวบ้าน เพื่อปลูกต้นยูคาลิปตัสส่งขายโรงงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม นายภุชงค์ โพธิกุฏสัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ สั่งการให้พ.อ.ฉกาจพงษ์ หงษ์ทอง รองผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 6 ที่ปรึกษากองกำลังรักษาความสงบจังหวัดกาฬสินธุ์ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ปฎิรูปที่ดินจังหวัด เจ้าหน้าที่ป่าไม้ สมาชิกอส.กว่า 100 ในนามศูนย์ดำรงธรรมอ.ดอนจาน ออกปฏิบัติการทวงคืนพื้นที่ ส.ป.ก.ในเขตป่าสงวนแห่งชาติดงแม่เผด อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ หลังรับร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีนายทุนเข้ามากว้านซื้อที่ดินส.ป.ก. นำไปปลูกต้นยูคาลิปตัสหลายพันไร่ เพื่อตัดไม้ส่งขายให้โรงงาน
เมื่อไปตรวจสอบพบพื้นที่ ส.ป.ก.ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงแม่เผดพบการปลูกต้นยูคาลิปตัสหลายพันไร่ ซึ่งชาวบ้านที่เป็นเจ้าของพื้นที่กรรมสิทธิ์ ส.ป.ก.ไม่ได้ปลูก กลับเป็นนายทุนปลูกแทน เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวนายสมาน ดิษสลุง อายุ 50 ปี นายทุนใหญ่ที่เป็นผู้รับซื้อพื้นที่ส.ป.ก.จากชาวบ้าน อีกทั้ง ยังพบสมุดรายชื่อชาวบ้านนำที่ดินส.ป.ก.มาขายให้นายสมานทั้งหมด 97 ราย จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานแล้วนำตัวมาสอบสวนขยายผลถึงเจ้าของในพื้นที่กรรมสิทธิ์ ส.ป.ก.ว่ามีใครที่นำมาขายบ้าง
ด้านนายสมานรับสารภาพว่า รับซื้อที่ดิน ส.ป.ก.จากชาวบ้านแล้วปลูกต้นยูคาลิปตัสจริง โดยเริ่มซื้อมาตั้งแต่ปี 2537 จนถึงขณะนี้มีชาวบ้านนำที่ส.ป.ก.มาขายให้รวมแล้ว 97 ราย 99 แปลง รวมพื้นที่ 1,768 ไร่ มูลค่ารับซื้อรวม 18,500,000 บาท ถ้ารวมกับการลงทุนทั้งค่าพันธุ์กล้า ค่าปุ๋ยและค่าใช้จ่ายอื่นแล้วมีประมาณ 30 ล้านบาท ยืนยันว่าการรับซื้อดังกล่าวเป็นชาวบ้านที่นำมาขาย ซึ่งตนซื้อสิทธิเพาะปลูกพืชเท่านั้น ไม่ได้ซื้อกรรมสิทธิ์ในที่ดินส.ป.ก.ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่นำมาขาย เพราะเดือดร้อนเงินแต่ถ้าชาวบ้านต้องการนำที่ดินส.ป.ก.คืนตนพร้อมขายให้คืนเท่าราคาเดิมที่ซื้อมา
ขณะที่พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)กล่าวภายในงานวันสถาปนากระทรวงทรัพยากรฯ ครบรอบ12 ปี โดยเน้นย้ำนโยบายรัฐบาล ซึ่งมี 3 เรื่องหลักคือ 1.รักษาป่า การทวงคืนผืนป่าและจัดหาที่ทำกินให้ราษฎรยากจนโดยไม่ให้เอกสารสิทธิ 2.การจัดการขยะมูลฝอยและ3.แก้ปัญหาน้ำ ส่วนแนวทางจัดการที่ดินเพื่อเกษตรกรยากจน โดยไม่ให้เอกสารสิทธิ์นั้น เบื้องต้นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะส่งมอบพื้นที่ ส.ป.ก.ให้ ทส. 3 ล้านไร่เพื่อนำมาดำเนินการ โดยจะเร่งสำรวจให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ในส่วนกรมป่าไม้ กรมอุทยานฯกำลังเร่งสำรวจว่ามีพื้นที่ใดที่จะให้เกษตรยากจนทำกินโดยไม่ให้เอกสารสิทธิ์ได้บ้าง เพื่อไม่ให้มีการโอนสิทธิ์ ซึ่งเรื่องนี้เป็นนโยบายสำคัญของนายกรัฐมนตรี ในการดูแลคนยากจน
ส่วนการรื้อถอนบ้านผางามรีสอร์ท ซึ่งรุกพื้นที่อุทยานฯทับลาน จ.นครราชสีมาและจ.ปราจีนบุรี ซึ่งคดีสิ้นสุดแล้วนั้น พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวว่า ตนจะตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงการใช้งบประมาณรื้อถอนรีสอร์ทบ้านพักตากอากาศในอุทยานฯทับลาน 10 ล้านบาทช่วงที่ผ่านมา จากกรณีที่หัวหน้าอุทยานฯของบประมาณรื้อถอนบ้านผางามฯจากอธิบดีกรมอุทยานฯ แต่อธิบดีฯยังไม่อนุมัติ ตนสอบถามเหตุผลที่ยังไม่อนุมัติ ทราบว่ายังไม่ตรวจสอบ ตนขอให้อธิบดีฯตรวจสอบของเดิมก่อน ส่วนของใหม่ก็แยกดำเนินการ
“ยืนยันต้องทำต่อแน่ ทั้งอุทยานฯ ทับลานและอุทยานฯ สิรินาถ จ.ภูเก็ต ต้องรื้อ แต่ต้องทำตามกฎหมาย กฎหมายให้รื้อก็รื้อไม่ให้รื้อก็ไม่รื้อ จะทำตามกระแสไม่ได้ เพราะเสี่ยงถูกฟ้องกลับ และอาจติดคุก ขอให้มั่นใจตัวเจ้าหน้าที่ว่าทำโดยไม่ได้เกี้ยเซี้ยกับใคร หัวหน้าอุทยานฯไม่ต้องกลัว ผมจะเป็นแบ๊กให้ ผมจะไม่ยอมให้ใครมารังแกลูกน้องของผมเด็ดขาด”พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าว
วันเดียวกันนายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ได้ลงนามในคำสั่งย้ายนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ไปเป็น ผอ.ส่วนจัดการต้นน้ำ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) โดยให้นายกมล นวลใย หัวหน้าอุทยานฯ ชาติตระการ จ.พิษณุโลก มาทำหน้าที่แทน โดยให้มีผลในวันที่ 6 ต.ค.
ส่วนสาเหตุการย้ายนั้นก็มาจากหลายเรื่อง รวมทั้งการร้องเรียนในพื้นที่ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ได้ตกลงกับนายชัยวัฒน์แล้ว และนายชัยวัฒน์ก็ยินยอม ซึ่งเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ให้นายชัยวัฒน์กลับไปสะสางงานที่ค้างในอุทยานฯ แก่งกระจาน การย้ายครั้งนี้ถือเป็นตำแหน่งที่สูงขึ้น ให้มีการสับเปลี่ยนการทำหน้าที่กันบ้าง เพราะนายชัยวัฒน์ก็อยู่ในตำแหน่งหัวหน้าอุทยานฯ แก่งกระจานมา 4-5 ปีแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี