อุตรดิตถ์ “เปิดบ้านพักเด็กคืนวามสุขให้ประชาชน”
คุ้มครอง-ป้องกัน-ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคม
ด้วยสภาพสังคมไทยในปัจจุบันได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากจากกระแสยุคโลกาภิวัตน์ ทั้งในสื่อสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ทำให้เกิดปัญหาสังคมขึ้นหลายประการ เช่น การว่างงาน ยาเสพติด อาชญากรรม การค้าประเวณี ความยากจน ซึ่งปัญหาเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุให้ เด็ก สตรี และ ครอบครัวตกเป็นเหยื่อของปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น อาทิ การใช้ความรุนแรงในครอบครัว การล่วงละเมิดทางเพศ การทารุณกรรมทางร่างกาย และ จิตใจ การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ กรมพัฒนาสังคม และ สวัสดิการ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงดำเนินการจัดตั้งบ้านพักเด็ก และ ครอบครัวใน 76 จังหวัด
“ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุตรดิตถ์ ” เป็นสถานแรกรับโดยดำเนินการตามกฎหมาย 3 ฉบับ พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 , พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 ซึ่งมีบทบาทหน้าที่จัดสวัสดิการสังคมให้แก่กลุ่มเป้าหมายและผู้ประสบปัญหาทางสังคม จัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2552 ตั้งอยู่อาคารสำนักงานเช่าจากเอกชน เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ เลขที่ 101/1 หมู่ 5 ถ.ศรีชาววัง ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์
ภารกิจหลักสำคัญ คือ 1.เป็นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับเด็กและครอบครัวที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน 2.เป็นศูนย์แจ้งข้อมูลข่าวสารให้คำแนะนำปรึกษาปัญหาแก่เด็กและครอบครัว 3. เป็นศูนย์ประสานความร่วมมือระหว่าง ภาครัฐและเอกชน ในการให้ความช่วยเหลือเด็กและครอบครัวบ้านพักเด็ก และ ครอบครัวจังหวัดอุตรดิตถ์ สังกัดสำนักป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้าหญิงและเด็ก (สปป.) โดยมียุทธศาสตร์ที่สำคัญในหลาย ๆ ด้าน คือ 1.ส่งเสริมคุ้มครอง ป้องกัน และ ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคม 2.การเสริมสร้างพลังทางสังคม 3.การพัฒนาและปรับสภาพผู้มาใช้บริการให้กลับคืนสู่ครอบครัวสังคมอย่างมีสุข 4.การยกระดับขีดความสามารถขององค์กร
กลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มเด็ก เช่น เด็กแรกเกิด ถึง 18 ปี ที่ถูกทอดทิ้ง กำพร้า ขาดผู้อุปการะเลี้ยงดู , เด็กเร่ร่อน ขอทาน จรจัด ประพฤติตนไม่เหมาะสมกับวัย , เด็กที่ถูกละเมิดสิทธิ ถูกกระทำทารุณกรรม ถูกละเมิดทางเพศ , กลุ่มสตรี เช่น สตรีตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ,ถูกทารุณกรรมทางเพศ ทางร่างกาย และ อื่น ๆ , บุคคลที่ประสบปัญหาอื่น ๆ เช่น ประสบปัญหาด้านที่พักอาศัย , ประสบปัญหาด้านครอบครัว , ครอบครัวที่อยู่ในระหว่างติดตามหาสามี ภรรยา หรือบุตรที่หาย หรือ พลัดหลง แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการหาที่พักพิง หรือเดินทางกลับภูมิลำเนา
นายชัช กิตตินภดล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ประสบปัญหาทางสังคมที่เข้ามาใช้บริการของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุตรดิตถ์ พบว่าเด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ มีปัญหาที่ตรงตามภารกิจของบ้านพักเด็กและครอบครัวเป็นจำนวนมาก แต่ไม่ทราบบทหน้าที่แหล่งที่จะขอรับความช่วยเหลือ ทำให้เด็กและเยาวชน ตลอดจนประชาชนที่ตกอยู่ในสภาวะยากลำบากต้องตกอยู่ในภาวะจำยอม ไม่สามารถเป็นเครือข่ายในการป้องกันและช่วยเหลือผู้อื่นในชุมชน หรือ ที่เกี่ยวข้องได้
“การป้องกันและช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาที่ดี หวังว่าพวกเราจะเป็นเครือข่ายในการป้องกัน และ แจ้งเบาะแสให้กับบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุตรดิตถ์ หากท่านประสบกับปัญหาหรือ เพื่อน ๆ บุคคลในชุมชนประสบปัญหาก็สามารถแนะนำให้มาขอรับความช่วยเหลือได้ ตามสิทธิของการเป็นพลเมืองไทย ที่สำคัญข้าราชการ และ เจ้าหน้าที่ของจังหวัดอุตรดิตถ์ เราพร้อมที่จะรับใช้ หรือ ให้บริการประชาชนทุกคน เพื่อเป็นการคืนความสุขให้กับประชาชน”
ด้านนายประยุทธ เต่าแก้ว หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า จากสถิติการให้บริการสายด่วนศูนย์ประชาบดี 1300 พบว่ามีผู้เข้ารับการสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพที่อยู่ในความดูแลของสำนักงานบ้านพักเด็ก และ ครอบครัว ฯ จำนวน 40ราย คือ เด็กที่ผู้ปกครองไม่สามารถอุปการะเลี้ยงดูได้ เช่น ยากจน ผู้ปกครองมีอาการทางจิตประสาท จำนวน 20 ราย เด็กถูกทารุณกรรมทางร่างกาย จิตใจ และ ทางเพศ จำนวน 8 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้บริการมาจากอำเภอท่าปลา ลับแล และ อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ส่วนผู้ประสบปัญหาทางสังคมอื่น ๆ รวม 7 ราย และ ส่งกลับภูมิลำเนา จำนวน 13 ราย เป็นต้น
กิตติพงษ์ ทุนเพิ่ม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี