'สนช.ประสาร'นำทีมบุกปากช่อง ตรวจสอบที่ดินหลวงโยง'ธาริต'
วันพุธ ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2557, 15.35 น.
Tag :
22 ต.ค. 57 พ.อ.สมหมาย บุษบา คณะทำงานด้านกฎหมาย กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 2 ได้นำนายประสาร มฤคพิทักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และคณะเข้าตรวจสอบที่ดินของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) 2 จุดที่บ้านมอทรายทอง ต.วังไทร อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และที่ดินที่ใช้สำหรับฝึกภาคสนามของศูนย์สงครามพิเศษลพบุรี บริเวณชะง่อนผา เขาหนองเชื่อม ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง ซึ่งปรากฏชื่อนายธาริต และนายเสฏฐวุฒิ เพ็งดิษฐ์ น้องชายมีชื่อเป็นเจ้าของรวมกับคนอื่นๆ อีกหลายคน โดยพื้นที่ดังกล่าวมีสภาพทางกายภาพลาดชันเกิน 35 องศา เป็นพื้นที่หลวงที่ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ได้
พ.อ.สมหมาย กล่าวว่า จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการได้มาของที่ดินแปลงดังกล่าวพบว่าอยู่ในพื้นที่ของนิคมสร้างตนเองลำตะคอง ซึ่งนายธาริต ได้มาขณะที่รับราชการในตำแหน่งพนักงานอัยการ จ.นครราชสีมา โดยมีการทำคำร้องขอหนังสือแสดงการทำประโยชน์ (นค.2) เพื่อขอออกหนังสือแสดงการทำประโยชน์ (นค.3) และอ้างว่ามีอาชีพเกษตรกรรม และมีรายได้ปีละ 80,000 บาท เพื่อให้เข้าเงื่อนไขที่จะมีที่ดินในนิคมสร้างตนเองลำตะคอง ตาม พ.ร.บ. จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ 2511 ต่อมานายธาริต ได้มอบอำนาจให้นางวรรษมน เพ็งดิษฐ์ นำ น.ค.3 มายื่นขอออกโฉนดที่ดิน เลขที่ 61365 ต.วังไทร เนื้อที่ 10 ไร่ 1 งาน 12 ตารางวาและขยายพื้นที่บุกรุกเพิ่มอีก 30 ไร่จากพื้นที่ขอออกโฉนด
พ.อ.สมหมาย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังพบอีกว่ามีที่ดินแปลงติดกับของนายธาริต ยังมีการก่อสร้างรีสอร์ท โดยนายเสรษฐวุฒิ น้องชายนายธาริต ได้รับมอบอำนาจจากบุคคลอื่น มายื่นขอออกโฉนดที่ดินด้วย โดยรีสอร์ทได้มีการกินพื้นเข้ามายังเขตนิคมลำตะคอง ซึ่งยังไม่ได้มีการจัดสรรที่ดินให้กับราษฎรกว่า 400 ไร่ ซึ่งการกระทำดังกล่าวของนายธาริต ถือว่าเป็นการแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา รวมทั้งมีความผิดตาม พ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพและความผิดตามมาตรา 15 และมาตรา 41 เพราะมีการเข้าไปปลูกสร้างแผ้วถางทำลายทรัพยากรธรรม ชาติในเขตพื้นที่นิคมฯ
นายประสาร กล่าวว่า การดำเนินการของนายธาริต ถือเป็นการแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา รวมถึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 และ พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511 ซึ่งหลังจากนี้ตนจะติดตามการแก้ไขปัญหาของทางนิคมฯ และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (สปก.) ว่าจะมีขั้นตอนอย่างไรในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะการเพิกถอนพื้นที่คืน อย่างไรก็ตาม ตนจะเสนอในที่ประชุม สปช.ให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบการทุจริต และเสนอให้แยกการปฏิรูปด้านสิ่งแวดล้อมออกจากด้านสาธารณสุขด้วย
“จากการตรวจสอบการได้มาซึ่งเอกสารสิทธิ์พบว่า ไม่ชอบด้วยกฎหมายตั้งแต่ต้น และมีการใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์ โดยมีการนำที่ดินไปขายเพื่อทำบ้านพักตากอากาศและรีสอร์ท และยังมีการไถปรับพื้นที่ทั้งๆ ที่กฏหมายไม่ได้อนุญาตไว้” นายประสาร กล่าว
ขณะที่นายอภิชาติ นาทวี ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองลำตะคอง กล่าวว่า กรณีดังกล่าวนี้เกิดขึ้นจากความผิดพลาดในการวัดที่เขตพื้นที่นิคม เมื่อปี 2537 ที่มีการวัดพื้นที่เกินกว่าพื้นที่จริงกว่า 30,000 ไร่ และมีการออก นค.3 ให้กับชาวบ้านไปบางส่วน ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อมูลจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าจะให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างไรกับพื้นที่ทับซ้อนดังกล่าว