ในการพัฒนาแหล่งน้ำแห่งใหม่ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำการเก็บกักให้เพียงพอกับความต้องการ นับวันที่จะยากขึ้น จากเดิมมีปัญหาเฉพาะโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ แต่ขณะนี้แม้แต่โครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง ขนาดเล็กก็เริ่มมีปัญหา ทั้งถูกต่อต้านคัดค้านในรูปแบบต่างๆ จนทำให้หลายโครงการต้องถูกชะลอออกไปอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งตรงกันข้ามกับความต้องการใช้น้ำทุกภาคส่วนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กรมชลประทาน ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบเรื่องน้ำ รับรู้ รับทราบปัญหาดังกล่าวดี จึงได้พยายามทุกวิถีทางที่จะจัดหาน้ำให้เพียงพอกับความต้องการของทุกภาคส่วน มีการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำใหม่ เพื่อให้มีการใช้น้ำที่มีอยู่ในเกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมปรับแผนการพัฒนาแหล่งน้ำในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งหนึ่งในโครงการที่กรมชลประทานได้ให้ความสำคัญก็คือ การพัฒนาแหล่งเก็บกักน้ำเดิมที่มีอยู่ให้สามารถใช้งานเต็มศักยภาพ ด้วยการเพิ่มปริมาณการเก็บกัก
การเพิ่มปริมาณการเก็บกักของอ่างเก็บน้ำที่มีอยู่แล้วนั้น เป็นการพัฒนาแหล่งน้ำที่แทบจะไม่ได้รับการต่อต้านเลย รวมทั้งยังมีการพัฒนาแหล่งน้ำในลุ่มน้ำนั้นๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และที่สำคัญเป็นการขยายผลหรือต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอีกด้วย
กรมชลประทานได้ขยายผลนำโครงการเพิ่มปริมาณการกักเก็บน้ำ มาใช้กับโครงการพัฒนาแหล่งน้ำหลายโครงการ ทั้งที่ดำเนินการแล้วเสร็จไปแล้ว อาทิ โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำ อ่างเก็บน้ำลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยได้เพิ่มปริมาณการเก็บกักจาก 1,430 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 1,980 ล้านลูกบาศก์เมตร นอกจากนี้ยังได้วางแผนที่จะพัฒนาแหล่งน้ำในลักษณะดังกล่าวอีกหลายโครงการ โดยเฉพาะในพื้นที่ ที่ต้องการความมั่นคงในเรื่องน้ำอย่างเช่น ภาคตะวันออก
นายประสานต์ พฤกษาชาติ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานระยอง กรมชลประทาน กล่าวว่า การใช้น้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นในทุกภาคส่วน ไม่ว่าภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และการอุปโภคบริโภค ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงในเรื่องน้ำ กรมชลประทานจึงได้วางแผนเพิ่มปริมาณการเก็บกักของอ่างเก็บน้ำที่สำคัญๆในพื้นที่จังหวัดระยองจำนวน 4 แห่ง คือ
1.อ่างเก็บน้ำดอกกราย ต.แม่น้ำคู้ อ.ปลวกแดง เพิ่มปริมาณการเก็บกักอีก 10 ล้านลูกบาศก์เมตรจาก 72 ล้านลูกบาศก์เมตร ในปัจจุบัน เป็น 82 ล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมทำถนนรอบอ่างฯ ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ใช้งบในการลงทุนประมาณ 130 ล้านบาท
2.อ่างเก็บน้ำประแสร์ ต.ชุมแสง อ.วังจันทร์ เพิ่มปริมาณการเก็บกักอีก 47 ล้านลูกบาศก์เมตร จาก 248 ล้านลูกบาศก์เมตรในปัจจุบัน เป็น 295 ล้านลูกบาศก์เมตร ใช้งบในการลงทุนประมาณ 92.6 ล้านบาท โดยการยกระดับทางระบายน้ำล้น (spillway) ให้สูงขึ้นอีกประมาณ 1 เมตร
ส่วนแห่งที่ 3 และแห่งที่ 4 อยู่ระหว่างการศึกษา คือ อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ และอ่างฯหนองปลาไหล ต.ละหาร อ.ปลวกแดง ซึ่งจะดำเนินการพร้อมๆกัน ซึ่งจะสามารถเพิ่มปริมาณการเก็บกับอีกประมาณ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปัจจุบันที่อ่างฯทั้ง 2 แห่งมีปริมาณการเก็บกักรวมกันประมาณ 204 ล้านลูกบาศก์เมตร. ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถบรรจุเข้าในแผนการก่อสร้างประมาณปี 2559
การเพิ่มปริมาณการกักเก็บของอ่างเก็บน้ำทั้ง 4 แห่งดังกล่าวนั้น จะไม่กระทบต่อพื้นที่ป่าและพื้นที่ของราษฎรแต่อย่างใด เพราะได้กันพื้นที่ไว้ตั้งแต่การก่อสร้างอ่างฯแล้ว นอกจากนี้การเพิ่มปริมาณการเก็บกักน้ำในอ่างฯสำคัญๆ ของจังหวัดระยอง ไม่ได้สร้างประโยชน์ให้กับพื้นที่ระยองเท่านั้น ยังช่วยเสริมความมั่นคงในเรื่องน้ำให้กับพื้นที่จังหวัดชลบุรีด้วย เพราะปัจจุบันปริมาณน้ำส่วนหนึ่งถูกผันไปช่วยพื้นที่เศรษฐกิจในจังหวัดชลบุรี อีกด้วย
อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง จังหวัดนครราชสีมา เป็นแหล่งน้ำอีกแห่งที่กำลังดำเนินการเพิ่มปริมาณการเก็บกักของอ่างฯให้เต็มศักยภาพ ตามที่ประชาชนในพื้นที่ร้องขอ เพื่อให้น้ำมีน้ำเพียงพอกับความต้องการในทุกๆด้าน
นายชิตชนก สมประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 8 กรมชลประทานเปิดเผยว่า กรมชลประทานมีแผนที่จะเพิ่มปริมาณการเก็บกักน้ำของอ่างเก็บน้ำ ลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา อีก 50 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปัจจุบัน 110 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 160 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อบรรเทาปัญหาอุทกภัยในเขต อ.ปักธงชัย และบริเวณใกล้เคียง ซึ่งนอกจากจะช่วยลดค่าความเสียหายจากภาวะน้ำท่วมได้ประมาณ 300 ล้านบาทต่อปีแล้ว ยังช่วยเพิ่มพื้นที่ชลประทานใน อ.ปักธงชัย อ.โชคชัย และ อ.เมือง จ.นครราชสีมา อีกประมาณ 38,000 ไร่
นายชิตชนก กล่าวต่อว่า การก่อสร้างเพื่อเพิ่มปริมาณการเก็บกักของอ่างฯลำพระเพลิงเริ่มดำเนินการในเดือนพฤศจิกายน 2557 โดยจะปรับปรุง spillway ให้มีความสูงขึ้นอีก 4 เมตร และขยายทางน้ำล้นให้กว้างขึ้น จากนั้นจะปรับปรุงความสูงและความแข็งแรงให้ตัวเขื่อน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2560 อย่างไรก็ตามในช่วงก่อสร้างจะต้องพร่องน้ำในอ่างฯลำพระเพลิงให้เหลือ 25-28 ล้านลบ.ม. โดยได้ผันน้ำไปเก็บไว้ที่อ่างฯลำสำลาย ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน ดังนั้นฤดูแล้งปีนี้จึงต้องประกาศงดส่งน้ำทำนาปรัง แต่เมื่อดำเนินการเสร็จแล้ว เกษตรกรในพื้นที่ชลประทานของอ่างฯลำพระเพลิงจะมีน้ำใช้อย่างพอเพียงในทุกๆด้าน และยังสามารถขยายพื้นที่ชลประทานได้เพิ่มชึ้น จาก 75,000 ไร่ในฤดูฝน และ 40,000 ไร่ในฤดูแล้ง เป็น 93,000 ไร่ในฤดูฝน และเป็น 60,000 ไร่ในฤดูแล้ง ตามลำดับ ครอบคลุมพื้นที่ อ.ปักธงชัย อ.โชคชัย และ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นอกจากนี้ยังสามารถส่งน้ำเพื่อการประปาได้อีกหลายแห่ง
โครงการนี้ประชาชนในพื้นที่สนับสนุนอย่างเต็มที่ ไม่มีการต่อต้าน มีผลกระทบก็ไม่มาก เพราะอยู่ในพื้นที่ที่กันเอาไว้แล้ว
เมื่อการพัฒนาแหล่งน้ำแห่งใหม่ทำได้ยาก การเพิ่มปริมาณการเก็บกักของแหล่งน้ำเดิมที่มีอยู่ ให้เต็มศักยภาพ นี่แหละจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยสร้างความมั่นคงในเรื่องน้ำให้กับประเทศไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี