27 พ.ย.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางบุญตา สุขสุวรรณ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/48 ม.2 ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง พร้อมด้วย นายพายัพ เฮาค์ประมง ทนายความ และผู้เสียหายรวมทั้งหมด 40 คน เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองระยอง ว่าถูกหลอกให้ไปร่วมลงทุนในลักษณะเครือข่ายธุรกิจแชร์ลูกโซ่ กับ หจก.พรนภาเซอร์วิส 2556 ซึ่งเป็นบริษัท รับงานซ่อมเครื่องจักร อุตสาหกรรม
โดย นางบุญตา กล่าวว่า ตนมีอาชีพค้าขายอยู่ที่ตลาดวัดลุ่ม อ.เมือง จ.ระยอง ก่อนหน้า หจก. ดังกล่าว ซึ่งมี นายตันติกร หรือโอม เกตกินทะ และนางพรนภา หรือตาล สุขสุวรรณ ซึ่งเป็นหลานแท้ๆ มาชวน น.ส.วิริยา สุขสุวรรณ หรือตั๊ก ลูกสาวของตน ให้ลงทุนซ่อมอะไหล่เครื่องจักรโรงงาน โดยอ้างว่าบริษัทมีออเดอร์รับเครื่องจักรจากโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศเข้าซ่อม การรับงานแต่ละครั้งสามารถเข้ามาลงทุนได้ โดยจะมีเงินปันผลจากกำไรในการซ่อม ซึ่งไม่มีอัตราที่แน่นอนว่าเท่าไหร่ แต่ก็จะมีปันผลให้ทุกครั้ง ยิ่งลงมากยิ่งได้มาก
ทั้งนี้ ครั้งแรกลูกสาวของตน ลงทุนไป 30,000 บาท เพียงแค่ 7 วัน ได้เงินคืนมาทั้งหมด 37,000 บาท เห็นว่าเงินปันผลดี 7 วัน ได้เงิน 7,000 บาท ต่อมาจึงชวนให้ตนลุงทุนดูบ้าง ซึ่งตนเห็นว่าเป็นญาติแท้ๆ นามสกุลเดียวกัน ก็จ่ายไปครั้งแรก 440,000 แค่ 7 วัน ได้เงินคืนถึง 620,000 บาท เท่ากับว่าได้ปันผลถึง 180,000 บาท ต่อมาจึงได้ชักชวนญาติ เพื่อน และแม่ค้าในตลาด ให้มาลงทุนด้วยกัน ทุกคนก็เชื่อถือเพราะเป็นญาติของตน ต่างพากันนำเงินมาลงทุน และหาสมาชิกมาเพิ่มเรื่อย ส่วนตนตั้งแต่ครั้งแรกๆ เวลา 1 ปี จนถึงวันนี้ ลงไปประมาณ 5 ล้านบาท เมื่อ 2 เดือนก่อนหน้านี้ เริ่มเห็นลูกสาวมีอาการเครียด จึงได้สอบถามและคาดคั้น จนลูกสาวร้องไห้และสารภาพว่า สงสัยจะถูกญาติแท้ๆ คือ นางพรนภา สุขสุวรรณ หลอก เพราะไม่มีเงินเข้าบัญชีทั้งต้นทั้งปันผล และติดต่อไม่ได้ พยายามสืบหาก็ไร้วี่แวว สอบถามไปที่สมาชิกคนอื่นๆ ก็ถูกหลอกเหมือนๆ กัน จึงได้ติดต่อทนายความ ให้ช่วยดำเนินการตามกฎหมาย
ด้าน นายพายัพ ทนายความ กล่าวว่า ในวันนี้ได้รวบรวมผู้เสียหายที่ติดต่อกันได้ ที่เข้าเป็นสมาชิกรวม 40 คน เข้าพบพนักงานสอบสวน ที่ สภ.เมืองระยอง เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ และให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามนายตันติกร หรือโอม เกตกินทะ และนางพรนภา หรือตาล สุขสุวรรณ มาสอบสวนหาข้อเท็จจริง เนื่องจากสมาชิกติดต่อไม่ได้ เพราะแต่ละคนสูญเงินไปคนละหลายล้านบาท บางคนไปกู้หนี้ยืมสินมา จนหมดเนื้อหมดตัว และยังมีสมาชิกในพื้นที่อื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก ล่าสุดได้ข่าวว่าทั้งสองคน กำลังลงไปที่ภาคใต้เพื่อหาสมาชิกเพิ่มอีก จึงอยากให้ข่าวนี้เผยแพร่ออกไป เพื่อไม่ให้ใครต้องตกเป็นเหยื่อสูญเงินอีก หลังจากนี้ หากยังไม่มีความคืบหน้า ก็จะพาผู้เสียหายไปร้องที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี