ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ปรีชา เถาทอง เปิดเผยถึงหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาทัศนศิลป์ที่เน้นการสร้างองค์ความรู้ด้านงานสร้างสรรค์แห่งแรกในหน้าประวัติศาสตร์ไทย ว่า หลักสูตรดังกล่าวนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งนักศึกษารุ่นแรกใกล้จบออกมาแล้ว โดยหลักสูตรนี้จะเป็นศิลปะสร้างสรรค์โดยมีกระบวนการวิจัย วิเคราะห์ สังเคราะห์มาประกอบกัน เน้นงานปฏิบัติที่คงความเป็นอัตลักษณ์ของตัวผู้เรียนเป็นหลัก และการวิเคราะห์หาเหตุผลร่วมกันไป ฝึกการค้นคว้าและอ้างอิงหลักคิดของศิลปินที่มีวิธีคิดคล้ายกันให้มากกว่าการอ้างอิงแต่ทฤษฎี เพื่อการสังเคราะห์และต่อยอดให้เกิดเป็นองค์ความรู้ใหม่ที่ผู้เรียนได้สร้างสรรค์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานจิตกรรม งานประติมากรรม ดนตรี การแสดง และศิลปะแขนงต่างๆ เพื่อให้เกิดผลงานระดับดุษฎีนิพนธ์ที่เป็นองค์ความรู้เฉพาะทางที่เป็นสุดยอดของศิลปินผู้สร้างหรือ ผู้เรียน
ศ.เกียรติคุณปรีชา กล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มคนที่มาเรียน ส่วนใหญ่เป็นอาจารย์สอนศิลปะจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่ต้องการนำองค์ความรู้ไปต่อยอดและกลับไปบ่มเพาะเด็กรุ่นใหม่ที่สนใจด้านศิลปะของไทยต่อไป ซึ่งหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาทัศนศิลป์ รุ่นที่ 1 ที่กำลังจะจบในอีกหนึ่งปีข้างหน้านี้มีจำนวนผู้เรียนทั้งสิ้น 13 คน แต่ละคนได้สร้างสรรค์ผลงานดุษฎีนิพนธ์ในแบบที่ตนถนัดแตกต่างกันออกไป อาทิ ผลงานที่ชื่อว่า “ไตรภูมิล้านนา ศิลปะการจัดวางภายใน วิหารพระเจ้าหมื่นองค์ จังหวัดเชียงราย” ของคุณดอยธิเบศร์ ดัชนีซึ่งปัจจุบันเป็นศิลปินอิสระ ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าผลงานของคุณดอยธิเบศร์มีส่วนจากอิทธิพลทางหลักคิดของผู้เป็นพ่ออาจารย์ถวัลย์ ดัชนี และจากการติดตามพ่อเข้าวัดตั้งแต่เด็กๆ ทำให้แนวคิดในการสร้างสรรค์ผลงานดุษฎีนิพนธ์เกิดจากการออกแบบและสร้างศาสนสถานในปัจจุบัน เกิดเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานภายในวิหารพระเจ้าหมื่นองค์ วัดมุงเมือง จังหวัดเชียงรายซึ่งเป็นวัดประจำตระกูล โดยนำหลักธรรมคำสอน คติธรรมในทางพระพุทธศาสนาเรื่องจักรวาลวิทยาวิถีพุทธ “ไตรภูมิล้านนา” และได้ทำการศึกษาไตรภูมิจากสถาปัตยกรรมในหลายยุคทั้งอยุธยา ธนบุรี และล้านนา รวมทั้งรูปแบบเชิงสัญญลักษณ์ทางศาสนาที่ตีความใหม่เพื่อสร้างเป็นปริศนาธรรมโดยมุ่งเน้นการใช้ศิลปะสื่อผสมในรูปแบบการจัดวางภายในซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะตัว เพื่อสื่อสารไปยังผู้ชมให้พิจารณาและตรึกตรองจนเกิดความเชื่อมโยงระหว่างหลักธรรมคำสอนกับการดำเนินชีวิตตามแนวทางพระพุทธศาสนาผ่านผลงานศิลปะในการสร้างสรรค์ผลงานในแบบของตัวเองและนอกจากนั้นยังให้ความสำคัญกับการเลือกใช้สีโดยเน้นที่สีแดง สีดำ และสีทอง เป็นจุดดึงดูดความสนใจของชาวบ้านและคนทั่วไปให้มาที่วัดแห่งนี้
ศ.เกียรติคุณ ปรีชา ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่าหลักสูตรนี้เป็นการก้าวไปอีกขั้นของวิชาการศิลปะไทยที่จะทำให้ผู้เรียน หรือศิลปินมีองค์ความรู้ในด้านที่ตนนั้นถนัดเข้มแข็งและโดดเด่นขึ้นมาจนสามารถต่อยอดเป็นองค์ความรู้ใหม่ๆ ทั้งนี้ศิลปะสามารถนำมาเป็นองค์ความรู้ให้คนได้ตระหนัก ไตร่ตรอง เพราะคนเราใช้ชีวิตด้านเดียวไม่ได้ ยังมีเรื่องของสภาวะทางจิต เป็นเรื่องของ EQ ที่ต้องเป็นส่วนเติมเต็มในชีวิตซึ่งศิลปินก็มีหน้าที่เติมเต็มในด้านนั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี