26 เม.ย.58 เมื่อเวลา 15.00 น. พลเรือโท สุชีพ หวังไมตรี ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 และผู้อำนวยการศูนย์ไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล เขตทัพเรือภาคที่ 1(ศรชล.เขต 1) ได้รับการประสานจากกลุ่มประมงพื้นที่ตำบลสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่าได้มีเรือประมงอวนลากมีไต๋เรือ และลูกเรือ เป็นคนสัญชาติกัมพูชาและเมียนมาร์ ล่องเรือทำประมงอยู่บริเวณปากอ่าวสัตหีบ จึงสั่งการให้นาวาเอก จรัญวีร์ ญาดี เสนาธิการกองเรือปฏิบัติการ พร้อม เรือเอก เจษฎา ตาลลักษมณ์ ผู้บังคับการเรือตรวจการณ์ 111 นำเรือออกจากท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ ออกลาดตระเวนค้นหาเรือเป้าหมาย
ต่อมาได้รับรายงานจากเรือตรวจการณ์ 111 ว่า ได้พบเรือเป้าหมายชื่อ โชคชัยนาวี 22 และโชคชัยนาวี 11 ตัวเรือสีเทา คาดขาว กำลังจอดลอยลำคู่กัน ด้านทิศตะวันตกของเกาะคราม อยู่ห่างจากชายฝั่ง อำเภอสัตหีบ ออกไปประมาณ 2 ไมล์ทะเล จึงได้เข้าควบคุมพร้อมตรวจสอบพบเรือทั้ง 2 ลำพบ ไต๋เรือเป็นชาว สัญชาติกัมพูชา โดยเป็นลูกเรือชาวกัมพูชา จำนวน 5 และเมียนมาร์ 11 คน รวม 16 คน จึงได้ตรวจยึดตัวเรือ และควบคุมตัวไต๋เรือพร้อมลูกเรือมาทำการสอบสวน ยังท่าเทียบเรือกลางอ่าว กองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
พลเรือโท สุชีพ หวังไมตรี ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 และผู้อำนวยการศูนย์ไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล เขตทัพเรือภาคที่ 1 (ศรชล.เขต 1) กล่าวว่า ตรวจสอบแล้วพบว่า ไต๋เรือ และลูกเรือ รวม 16 คน ได้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติการประมง โดยให้ผู้ควบคุมเรือเป็นชาวต่างด้าว ซึ่งถือมีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และตามยุทธศาสตร์ข้อกำหนด IUU เพื่อแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย จึงได้ตั้งข้อหากับ นายสนชัย เชื่ยนมั่น อายุ 65 ปี เจ้าของเรือ โทษฐาน ฝ่าฝืนบทแห่งพระราชบัญญัติ เจ้าของเรือซึ่งอยู่ในเรือขณะที่มีการฝ่าฝืน หรือผู้ควบคุมเรือในกรณีที่เจ้าของเรือไม่อยู่ในเรือต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท ถ้าไม่มีตัวเจ้าของเรือหรือผู้ควบคุมเรือ หรือไม่ปรากฏว่าผู้ใดเป็นเจ้าของเรือหรือผู้ควบคุมเรือให้ถือว่าคนประจำเรือทุกคนซึ่งอยู่ในเรือขณะที่มีการฝ่าฝืน มีความผิดต้องระวางโทษตามกำหนดไว้ ส่วนลูกเรือทั้งหมดได้ตรวจสอบหลักฐานพบว่ามีบัตรอณุญาติทำงานถูกต้องทั้งหมด
พลเรือโท สุชีพ กล่าวอีกว่า ตามมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ร่วมกับคณะทำงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของ คสช. เมื่อวันที่ 20 ก.พ.58 โดยมีรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานได้สั่งการให้หน่วยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหา และการบูรณาการระหว่างหน่วยงานในการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย หรือ IUU Fishing โดยกำหนดให้ ศรชล.เป็นหน่วยดำเนินการบูรณาการแผนการตรวจเรือประมงในท่า และในทะเลอย่างเข้มงวด ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-31 พ.ค.58 หากไม่สามารถดำเนินการได้ ประเทศไทยอาจถูกขึ้นบัญชีเป็นประเทศที่ไม่ให้ความร่วมมือต่อสหภาพยุโรป ภายใต้กฎระเบียบ IUU Fishing ส่งผลทำให้ประเทศไทยไม่สามารถส่งออกสินค้าประมงไปยังสหภาพยุโรปได้อีกต่อไป ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการค้า สินค้าประมงไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี