ความคืบหน้าการตรวจสอบที่ดินพื้นที่หมู่ 4 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตรงข้ามภูพบฟ้าใกล้ทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีการออกโฉนดที่ดินรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กว่า 130 ไร่ อย่างไม่ถูกต้อง และมีเจ้าหน้าที่ของ ส.ป.ก. เข้าไปเกี่ยวข้อง โดยต่อมามีคำสั่งย้าย นางพรทวี สุตันติราษฎร์ นายช่างรังวัด ส.ป.ก.นครราชสีมา ให้ไปช่วยราชการที่ ส.ป.ก. ใน กทม. เอาไว้ก่อนนั้น
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบช.ภ.3) ในฐานะประธานคณะทำงานควบคุมการปฏิบัติเกี่ยวกับคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตำรวจภูธร ภาคที่ 3 เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ สปก.นครราชสีมา ยังไม่ได้เข้ามาแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องเลย โดยจะรออีก 2-3 วัน หากส.ป.ก.ยังนิ่งเฉย ตนจะทำหนังสือทวงถามกลับไปยัง ส.ป.ก. อีกครั้งว่า จะให้ดำเนินการอย่างไร เพราะก่อนหน้านี้มีการพาเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารเข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ แล้วออกสื่อพูดกันเป็นตุเป็นตะว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร แต่พอจะทำเป็นคดีกลับไม่ยอมมาแจ้งความ ซึ่งตนก็ถูกผู้ใหญ่ทวงถามมาเช่นกันว่า สรุปแล้วเรื่องนี้เป็นอย่างไร
พล.ต.ต.ธเนษฐ กล่าวต่อว่า ภายหลังจากพนักงานสอบสวนได้แจ้งดำเนินคดีกับ นางภัคมน กิจศิริกุล ซึ่งมาแสดงตนเป็นเจ้าของที่ดินที่มีปัญหาบริเวณตรงข้ามกับภูพบฟ้า ในข้อหาร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่นั้น จากการสอบสวน นางภัคมน ให้การว่า ไม่รู้จักกับ นางพรทวี สุตันติราษฏร์ นายช่างรังวัด ส.ป.ก.นครราชสีมา แต่พนักงานสอบสวนยังไม่เชื่อในคำให้การ และต้องสอบสวนหาพยานหลักฐานอื่นๆ มาประกอบด้วย อาทิ บุคคลผู้ขอเลขที่บ้าน และบุคคลผู้ขอมิเตอร์ไฟฟ้า รวมทั้งชาวบ้านแวดล้อมว่า นางภคมน เป็นเจ้าของพื้นที่จริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่นอมินีให้บุคคลอื่น
ด้าน นายชำนาญ กลิ่นจันทน์ ส.ป.ก.นครราชสีมา เปิดเผยว่า สำหรับกรณีพื้นที่ตรงข้ามภูทับฟ้า ส.ป.ก. กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก. เพิ่มเติมภายในสัปดาห์หน้า โดยแจ้งความว่า มีการปลูกสร้างที่พักอาศัยในพื้นที่ที่เราไม่ได้จัดให้ใครเข้าทำประโยชน์ ซึ่งเราไม่แน่ใจและไม่ทราบว่าของใคร เพียงแต่ขณะนี้มีคนมาบอกว่าเป็นของเขา เราก็แจ้งความตรงนั้นไว้เท่านั้นเอง แต่ไม่ได้แจ้งความช่างรังวัด เพราะกรณีช่างรังวัดเป็นเรื่องของทางราชการที่จะต้องว่าไปตามระเบียบว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และมีตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งต้องดูก่อนว่าอะไรคืออะไร ราชการไม่ใช่อยู่ดีๆ จะไปลงโทษใครได้ทันทีโดยอาศัยข้อมูลจากข่าวคงไม่ใช่
นายชำนาญ กล่าวอีกว่า ได้เข้าพบ นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อขอย้ายกลับไปประจำที่ จ.อุดรธานี ตามเดิม ภายหลังจากมารับตำแหน่ง ส.ป.ก.นครราชสีมา เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาการบุกรุกที่ดินของ ส.ป.ก. บริเวณเขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีความซับซ้อนมาก จึงควรใช้คนที่รู้จักพื้นที่จะทำให้แก้ปัญหาได้ดีกว่า โดยตนได้เสนอให้ย้ายนายเลิศศักดิ์ สุขสวัสดิ์ อดีต ส.ป.ก.นครราชสีมา ที่ย้ายไปอยู่ จ.อุดรธานี ซึ่งการย้ายที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้เป็นการย้ายเนื่องจากมีความผิด เพราะคำสั่งมีมาตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมแล้ว ดังนั้นจึงเห็นว่าควรให้ นายเลิศศักดิ์ เป็นผู้กลับมาดูแลน่าจะเหมาะสมกว่า
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวแจ้งว่า การเข้าพบดังกล่าว นายชำนาญ ได้ให้เหตุผลกับ นายชวลิต ว่า จากปัญหาการบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก. บริเวณเขาใหญ่ มีความซับซ้อน จึงควรใช้คนที่รู้จักพื้นที่ดีอย่าง นายเลิศศักดิ์ เข้ามาดูแล แต่ นายชวลิต ยังไม่ตัดสินใจเรื่องดังกล่าว โดยบอกว่าให้เวลาอีก 2 เดือนไปปรับปรุงการทำงานก่อน แล้วรอให้ถึงช่วงการโยกย้ายใหญ่ประจำปีในเดือนตุลาคม จะกลับมาพิจารณาอีกครั้ง
ด้าน นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส เลขาธิการ ส.ป.ก. เปิดเผยว่า ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้ง นางเปรมจิต สังขพงษ์ รองเลขาธิการ ส.ป.ก. เพื่อให้ไปตั้งทีมเฉพาะกิจชุดใหญ่ เร่งรัดตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ ส.ป.ก.ทั้ง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และส่งข้อมูลชี้เป้าให้กับฝ่ายความมั่นคงโดยเร็ว โดยเฉพาะบริเวณที่ดินของ ส.ป.ก. ที่ยังไม่มีการรังวัดประมาณ 4.3 หมื่นไร่ บริเวณรอยต่ออุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่มีโครงการขนาดใหญ่ทั้งรีสอร์ทและโรงแรมเกิดขึ้นจำนวนมาก ซึ่งเป็นลักษณะที่ดินมีปัญหาทับซ้อนหลายหน่วยงาน เป็นที่มาของปัญหารุกที่ส.ป.ก.เขาใหญ่ เช่น รีสอร์ทโบนันซ่า มูนแดนซ์ ที่ตั้งบ้านพักพิธีกรดัง คีรีมายา และนายช่างรังวัดแอบขายที่ รวมทั้งรีสอร์ทอื่นจำนวนมาก ดังนั้นจึงต้องไล่ตรวจสอบเอกสารการถือครองที่ดินของทุกราย โดยมีประเด็นสำคัญ คือ ไปดูว่ามีการออกนส.3ก.และออกโฉนดทับที่ส.ป.ก. โดยใช้หลักฐานอะไร ส่วนยังไม่ได้ออกมีเกษตรกรถือครองเท่าไหร่ ต้องไปไล่ตรวจพื้นที่ส.ป.ก.ทั้งอำเภอ
“พื้นที่เขต ส.ป.ก. ต้องตรวจให้หมด หากมีการเปลี่ยนมือหรือขายให้นายทุน จะต้องถูกฟ้องไล่ออกจากพื้นที่ เพื่อนำไปจัดสรรให้เกษตรกรรายใหม่ และหากพบเปลี่ยนสภาพการทำประโยชน์ให้แจ้งความดำเนินคดีทันที ฟ้องรื้อถอน หรือพบลักษณะโฮมสเตย์ ต้องแจ้งให้รื้อ และแก้ไข เพราะเปลี่ยนสภาพพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งในปากช่อง และโคราช มีโฮมสเตย์ 50-60 แห่ง เข้าข่ายต้องรื้อถอน ส่วนกรณีมีที่การร้องเรียนว่า พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีต ผบ.ตร. บุกรุกที่ส.ป.ก.หลายร้อยไร่ ซึ่งผู้ถือครองได้ยินยอมคืนมาแล้วและไม่มีพบชื่ออดีตผบ.ตร. ครอบครองที่ดิน” นายสรรเสริญ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี