รายงานพิเศษ : กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จัดประชุม‘ผู้นำวิทย์’
เตรียมความพร้อมสู่‘ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน’
ประเทศไทย โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วท.) จะมีงานใหญ่และมีความสำคัญระดับอาเซียน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดเสรีอาเซียนหรือ AEC ในช่วงปลายปีนี้
นั่นคือ การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในอาเซียน ครั้งที่ 69 หรือ ASEAN COST ครั้งที่ 69 ระหว่างวันที่ 28-29 พฤษภาคม 2558 ที่ จ.ภูเก็ต เพื่อใช้การประชุมครั้งนี้ผลักดันให้เกิดการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาในภูมิภาคอาเซียน โดยจะมีตัวแทนรัฐบาล 10 ประเทศอาเซียน ประกอบด้วย บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนามและไทย เข้าร่วมประชุมใน 8 สาขา คือ ความมั่นคงทางพลังงาน ความมั่นคงทางอาหาร ความหลากหลายทางชีวภาพ สังคมดิจิตอล นวัตกรรมอาเซียนเพื่อการค้า การบริหารจัดการน้ำ การส่งเสริมเยาวชนและนวัตกรรมสีเขียวเพื่อให้ความความร่วมมือและมีการสร้างเครือข่ายและโครงการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสำหรับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของทั้งภาคราชการและภาคเอกชน ตลอดจนเพื่อให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม และยกระดับความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในประเทศสมาชิกอาเซียน
นอกจากนี้ ยังจะมีการประชุมความร่วมมือในส่วนของคณะอนุกรรมการอาเซียนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในอีก 9 สาขา
ได้แก่ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร อุตุนิยมวิทยาและธรณีฟิสอกส์ ไมโครอิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศ วัสดุศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนชีวภาพ การวิจัยพลังงานอย่างยั่งยืน วิทยาศาสตร์ทางทะเล การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและทรัพยากรวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและเทคโนโลยีอากาศและการประยุกต์ใช้ เพื่อทบทวนสถานะความร่วมมือที่ทั้ง 10 ประเทศ เคยมีร่วมกันรวมทั้งระหว่างประเทศคู่เจรจาว่าจะมีการปรับทิศทาง การทำงานอย่างไรหรือไม่ งานที่ทำร่วมมือได้ผลมากน้อยแค่ไหน จะมีการปรับตัวกันอย่างไร
“การประชุม ASEAN COST ครั้งที่ 69 ถือเป็นงานใหญ่ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยประเด็นสำคัญที่จะมีการหารือการจัดแผนปฏิบัติการด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม 2015-2020 (ASEAN Plan of Action on Science,Technology and Innovation 2015-2020) เพื่อปรับเปลี่ยนโครงสร้างของคณะกรรมการอาเซียนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(ASEAN Committee on Science and Technology:COST) ที่มีการจัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2521
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือระหว่างประเทศอาเซียนในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและยกระดับความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในประเทศสมาชิกอาเซียนให้เปลี่ยนมาเน้นความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพิ่มขึ้นรวมทั้งเน้นการมีส่วรร่วมของภาคเอกชนด้วยทั้งเพื่อเตรียมความพร้อมของทั้ง 10 ประเทศในการเข้าสู่เขตเศรษฐกิจเสรีอาเซียนในช่วงปลายปีนี้ ที่สำคัญจะมีการคุยกันถึงสถานะของกองทุนวิทยาศาสตร์อาเซียน ที่แต่เดิมทั้ง 10 ประเทศเคยลงขันกันประเทศละ 1 ล้านเหรียญสหรัฐแต่มีเงื่อนไขว่าให้นำไปฝากกับธนาคารแล้วให้ใช้เฉพาะดอกเบี้ยมาทำงานจะต้องมีการปรับกันใหม่หรือไม่ เพราะหากมีการทำงานร่วมกันใรนการผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมจะต้องมีการใช้งบประมาณมากกว่าที่ใช้จากดอกเบี้ยของกองทุนวิทยาศาสตร์อาเซียนอย่างเดียว หรืออาจจะต้องมีการลงขันกันใหม่ เป็นต้น” ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าว และว่า
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตนอยากเน้นในการประชุมครั้งนี้ คือ การใช้ทรัพยากรร่วมกันระหว่าง 10 ประเทศ โดยประเทศไทยพร้อมที่จะให้ประเทศอาเซียนใช้ทรัพยากรร่วมกับประเทศไทย ในเรื่องของดาวเทียมโดยไทยยินดีสนับสนุนการใช้พื้นที่และทรัพยากรที่อุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หรือในเรื่องพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ มาตรวิทยา การใช้ประโยชน์จากแสงซินโครตรอนแม้กระทั่งเรื่องน้ำ อาจจะร่วมมือในรูปแบบของการวิจัยร่วมกัน การแลกเปลี่ยนบุคลากร เป็นต้น
“การใช้ทรัพยากรร่วมกันใน 10 ประเทศอาเซียนจะทำให้อาเซียนมีความแข็งแกร่ง เป็นเอกภาพ เพราะประเทศอย่างจีน ญี่ปุ่น อินเดีย หรือกระทั่งหลายประเทศในยุโรปกำลังจับตาและให้ความสำคัญกับอาเซียน โดยมองว่า 10 ประเทศอาเซียน คือ ดาวรุ่งดวงใหม่ในเรื่องของเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน” ดร.พิเชฐ ระบุ
ขณะที่ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ในฐานะประธาน COST ประเทศไทย (National COST Chairman-Thailand) เจ้าภาพจัดการประชุม ASEAN COST ครั้งที่ 69 กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ นับเป็นโอกาสดีในการผลักดันให้ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมในเวทีอาเซียน และผลักดันกิจกรรม/โครงการที่ไทยเป็นผู้ริเริ่ม ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน นำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชนในภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปลายปี 2558 นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี