ค้นบ้าน‘ไชยา’
ล้างบางมาเฟียนครปฐม
ปูพรม13จุดพร้อมกัน
จับ4ผู้ต้องหา-ยึดอาวุธอื้อ
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 29 พฤษภาคม พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการปฏิบัติหน้าที่ผู้บังคับการกองปราบปราม (รรท.ผบก.ป.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง พ.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ พ.ต.อ.สยาม บุญสม รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รรท.ผกก.ปพ.บก.ป. นำกำลังตำรวจคอมมานโด พร้อมอาวุธครบมือ จำนวน 220 นาย พร้อมยานพาหนะกว่า 30 คัน บุกเข้าปิดล้อมตรวจค้นกลุ่มผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้างภายในพื้นที่ จ.นครปฐม ภายใต้“ยุทธการปฐมเจดีย์”รวมทั้งสิ้น13 จุดเป้าหมาย
โดยเป้าหมายที่ 1 บ้านในซอยมานิต หมู่ 2 ต.ถนนขาด อ.เมือง จ.นครปฐม,เป้าหมายที่ 2 บ้าน หมู่1ใน ต.ถนนขาด อ.เมือง จ.นครปฐม ,เป้าหมายที่ 3 บ้าน ต.บ่อพลับ อ.เมือง จ.นครปฐม ,เป้าหมายที่4 บ้านบริเวณถนนจันทคามพิทักษ์ หมู่ 1 ต.สนามจันทร์ อ.เมือง จ.นครปฐม,เป้าหมายที่ 5 บ้าน หมู่2 ใน ต.บ่อพลับ อ.เมือง จ.นครปฐม, เป้าหมายที่ 6 บ้าน หมู่ 7 ต.บางแขม อ.เมือง จ.นครปฐม , เป้าหมายที่ 7 บ้าน ถนนราชมรรคา ต.สนามจันทร์ อ.เมือง จ.นครปฐม,เป้าหมายที่ 8 บ้าน ซอยตรอกโรงธูป ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ,เป้าหมายที่ 9 บ้าน หมู่ 8 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม, เป้าหมายที่ 10 บ้าน หมู่ 6 ต.หนองงูเหลือม อ.เมือง จ.นครปฐม ,เป้าหมายที่ 11 บ้านใน หมู่บ้านศรีสามพราน หมู่ 4 ต.ท่าตลาด อ.สามพราน จ.นครปฐม,เป้าหมายที่ 12 บ้าน หมู่ 5 ต.ดอนพุทรา อ.ดอนตูม จ.นครปฐม และ เป้าหมายที่ 13 บ้าน ต.ลำพยา อ.เมือง จ.นครปฐม
ทั้งนี้ เป้าหมายทั้ง13 จุดเป็นบ้านบุคคลที่มีชื่อเสียงทั้งนักการเมืองระดับประเทศ บ้านอดีตรัฐมนตรีบ้านอดีต ส.ส. บ้านอดีตนายก อบจ.บ้าน ส.จ. บ้านอดีตนายก อบต.บ้านกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและคนสนิทอดีตรัฐมนตรีรวมทั้งบ้านของ เสี่ยล. ราชาตู้ม้าที่อ.ดอนตูม และอ.สามพราน
โดยจุดสำคัญในการตรวจค้น คือจุดที่13 เป็นบ้านพักของนายไชยา สะสมทรัพย์ อดีตรมว.พาณิชย์ อดีต สส.นครปฐม พรรคพลังประชาชน ที่บ้านเลขที่ 211/2 ถนนมาลัยแมน ต.ลําพยา อ.เมือง จ.นครปฐม ทาง พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป.พร้อม เจ้าหน้าที่ ได้นำหมายค้นศาลอาญาเลขที่141/2558 ลงวันที่ 28 พฤษภาคม เข้าตรวจค้น บ้านนายไชยาซึ่งมีขนาดใหญ่ถึง 10 ไร่
ทั้งนี้นายไชยา ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีกับเจ้าหน้าที่ที่ได้แสดงหมายศาลเข้าค้นด้วยความโดยพร้อมให้นำอาวุธปืนซึ่งมีทะเบียนถูกต้องทุกอย่างนำไปตรวจสอบได้ตลอด และยืนยันว่าไม่มีคนสนิทหรือคนใกล้ชิดจะเป็นคนที่มีประวัติไม่ดีเพราะตนเป็นนักการเมือง ไม่มีทางเอาเด็กกเฬวรากมาอยู่ให้เสียชื่อ
จากการตรวจค้นเบื้องต้น พบอาวุธปืนสั้นจำนวน8 กระบอก โดยเฉพาะมีปืนทองคำด้วย รวมทั้งกระสุนปืนขนาด 9 มม. 11มม.และ.45 กว่า800 นัด วิทยุสื่อสารทางราชการ 2 เครื่องและเสื้อเกราะของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1 ตัว โดยมีนายฉัตรชัย อยู่ญาติมาก อายุ 40ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ทำหน้าที่คนขับรถของ นายไชยา เป็นเจ้าของเสื้อเกราะกันกระสุนอ้างว่ามีผู้นำมาให้นานแล้ว แต่จำไม่ได้ว่าเป็นใคร
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้น หลังมีข่าวการบุกค้นบ้านนายไชยาและผู้มีอิทธิพลสะพัดออกไป ปรากฎว่าได้มีบรรดาญาติ และคนสนิทที่ทราบข่าว ได้เดินทางเข้ามาให้กำลังใจ นายไชยา เป็นจำนวนมาก
ส่วนจุดสำคัญ อีกจุดหนึ่งที่เจ้าหน้าที่นำหมายศาลเข้าตรวจค้น ที่บ้านเลขที่ 473 ถนน.ราชมรรคา ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐมซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว เนื้อที่กว่า 1 ไร่ เป็นสำนักงานของ บริษัทไทยวุฒิพงษ์ จำกัด ประกอบกิจการรับถม ขุดบ่อดิน รวมทั้ง ห้องพักของคนงาน โดยมี นายวันชัย เอกวิชาพงษ์ เป็นเจ้าของและเป็นผู้ใหญ่บ้าน ระหว่างตรวจค้น นายรัฐกร เจนกิจณรงค์ หรือ ที่รู้จักกัน สส.เบ้ อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวได้นำตรวจค้น เบื้องต้น พบอาวุธปืนขนาด.380 จำนวน1กระบอก พร้อม กระสุนปืน ไม้คมแฝก 1 อันและป้ายทะเบียนจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดไว้และนำไปตรวจสอบแล้วว่ามีไว้ในครอบครองโดยถูกกฎหมายหรือไม่
ทั้งนี้ ตำรวจได้เชิญตัวนายไชยาและนายรัฐกร มาพูดคุยสอบถามโดยไม่ได้มีการควบคุมตัวหรือแจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด
ต่อมา เวลา11.00น. วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมชั้น 2 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ถนนเหนือวัง ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รอง ผบช.ภ.7 รรท.ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. พร้อมคณะ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป. ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการฯภายใต้“ยุทธการ ปฐมเจดีย์”พร้อมของกลางที่ตรวจยึดได้ พร้อมอาวุธปืนพกสั้นทองคำของนายไชยา สะสมทรัพย์ รวมอยู่ด้วย 1 กระบอก
โดย พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวว่าเนื่องจากได้เกิดเหตุอาชญากรรมในพื้นที่ จ.นครปฐม อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมากกว่า 29 คดี โดยเฉพาะคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายสมศักดิ์ หรือมด แสงทอง อายุ 29 ปี เสี่ยค้าหมู และเป็นเซียนพนัน และยิง ส.ต.ต.สหชาติ ถึงสุข ผบ.หมู่ กก.1 บก.ส.3 เสียชีวิต เมื่อกลางดึกวันที่ 10 พฤษภาคม และถัดไปไม่กี่วัน มีการยิงกันตายในพื้นที่อีกนำไปสู่คำสั่งโยกย้ายตำรวจในพื้นที่ภาค 7 รวมถึง ตำรวจสันติบาล และ กองปราบปราม ไปปฏิบัติราชการ รวม 21 นาย ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปก.ตร.)อีกทั้ง ผบ.ตร.ยังได้มอบหมายให้ กองบังคับการปราบปราม เข้ามาช่วยเร่งรัดคดีจนนำมาสู่การจู่โจมเข้าตรวจค้นครั้งนี้ โดยกองปราบปรามได้กำหนดไว้13จุดเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลจึงเป็นที่มาของแผนยุทธการ”ปฐมเจดีย์”
“จากการระดมปิดล้อมตรวจค้นตั้งแต่ช่วงเช้ามืด เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดอาวุธปืนได้ 25 กระบอก เป็นอาวุธปืนพกสั้น19 กระบอก อาวุธปืนยาว 6 กระบอก กระสุนกว่า1,106 นัด แมกกาซีนบรรจุกระสุน 27อัน ป้ายทะเบียนรถ 16 แผ่น เสื้อเกราะกันกระสุน 1 ตัว วิทยุสื่อสาร 2 เครื่อง โพยพนันฟุตบอล 80 แผ่นและจับกุมผู้ต้องหาได้ 4ราย ในความผิดฐานมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 3 ราย และความผิดฐานลักลอบเล่นการพนัน โพยฟุตบอล จำนวน1ราย”
ในส่วนของอาวุธปืน ส่วนใหญ่เป็นปืนที่มีทะเบียน จากนี้จะทำการตรวจยึดและนำไปยิงทดสอบเปรียบเทียบกับ และตรวจสอบประวัติปืนว่าโยงคดีอาชญากรรมและคดีสะเทือนขวัญในพื้นที่นครปฐมหรือไม่ โดยอาวุธปืนทั้งหมด25กระบอก จากการตรวจค้น มีทะเบียนควบคุมทั้งหมด จะส่งให้ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 ทำการตรวจสอบต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.สุระชัย ควรเดชะคุปต์ รอง ผบช.ภ.7 กล่าวว่าการตรวจค้นครั้งนี้ พบว่าอาวุธปืนส่วนใหญ่มีทะเบียนโดยอาวุธปืนที่ตรวจค้นพบที่บ้านของนายไชยา สะสมทรัพย์ ากการตรวจสอบพบว่ามีทะเบียนทั้งหมด และมีอาวุธปืนทองคำที่เป็นของสะสมที่เก็บไว้
“การตรวจค้นครั้งนี้ นายไชยา สะสมทรัพย์ ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆต่อการบุกยิงทั้ง2 คดี แต่เป็นการเข้าตรวจค้นตามเป้าหมายที่รับมอบมา ซึ่งคนที่มีชื่อในคดียิงนั้นส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเพื่อนๆ ลูกหลาน หรือคนสนิทที่จะไปอ้างตัวว่าเป็นคนของนายไชยาโดยอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนจาก 13 แห่ง ที่เข้าตรวจค้นจะมีการส่งตรวจทั้งหมด เพื่อให้ทราบว่าการเคยก่อคดีใดมาบ้าง และต่อไปจะเป็นจังหวัดอื่นๆที่จะเข้าตรวจค้น แบบนี้เช่นเดียวกัน”พล.ต.ต.สุระชัย ย้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเข้าตรวจค้นบ้าน นายไชยา สะสมทรัพย์ ครั้งนี้ เนื่องจากตำรวจมีข้อมูลว่า มีบุคคลใกล้ตัวของ นายไชยามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้น แต่หลังจากการบุกตรวจค้นครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลใดๆว่าผู้ต้องหาทั้ง4 รายเป็นใคร และมีส่วนเกี่ยวข้องต่อการยิงทั้ง 2 คดีอย่างไร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี