28 มิ.ย.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีข่าวพบมี 2 แม่ลูก ชาว อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ เดินทางกลับจากประเทศเกาหลี จากนั้นเด็กมีอาการเป็นหวัด น้ำมูกไหล เจ็บคอ ทางโรงพยาบาล จึงแยกผู้ป่วยไว้ในห้องคัดแยกกับมารดา และนำตัวอย่างสารคัดหลั่งไปตรวจในห้องปฏิบัติการ ทำให้ประชาชนแตกตื่น ไม่กล้ามาใช้บริการที่โรงพยาบาลเพราะหวั่นติดเชื้อเมอร์ส สคร.5 ขอให้ประชาชนมั่นใจเนื่องจาก 2 แม่ลูกไม่ติดเชื้อเมอร์สอย่างแน่นอน ส่วนที่ จ.บุรีรัมย์ มีผู้เข้าข่ายเฝ้าระวังสัมผัสเชื้อเมอร์ส 83 ราย หนึ่งในจำนวนนี้เป็น ด.ช.10 ขวบ กลับจากเกาหลีใต้ ผลตรวจยืนยันไม่มีเชื้อเมอร์ส ขณะหญิงวัย 40 ปี ชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ ที่นั่งเครื่องบินกลับมาพร้อมชาวโอมาน ผู้ป่วยเมอร์สรายแรกของไทย ยังอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
นพ.ธีรวัฒน์ วลัยเถียร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นครราชสีมา เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ว่า หลังพบมี 2 แม่ลูก ชาว อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ เดินทางกลับจากประเทศเกาหลี โดยเดินทางกลับประเทศไทยมาตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.58 และได้มอบหมายให้โรงพยาบาลแก้งคร้อ กักตัว 2 แม่ลูก เพื่อดูอาการตรวจหาเชื้อเมอร์สอย่างใกล้ชิดไว้ก่อนตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อไว้ก่อนเป็นเวลา 14 วันนั้น ผลการกักตัว 2 แม่ลูกชาว จ.ชัยภูมิ ไม่พบเชื้อเมอร์สแต่อย่างใด พร้อมฝากประชาชนในพื้นที่อย่าแตกตื่น ซึ่งการกักตัวดำเนินการตามขั้นตอนสากล ทาง สสจ.และ รพ.ชัยภูมิ มีมาตรการควบคุมที่ดีและไม่มีการแพร่ระบาดในพื้นที่อย่างแน่นอน
ส่วนที่ จ.บุรีรัมย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) บุรีรัมย์ ได้ออกมาแถลงถึงความคืบหน้าในการเฝ้าระวังป้องกันโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ โรคเมอร์ส ว่า จากที่ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดได้ติดตามผู้สัมผัสโรคเมอร์ส ตั้งแต่วันที่ 15 - 26 มิ.ย.58 ล่าสุดพบมีผู้เข้าข่ายเฝ้าระวังรวมจำนวน 83 ราย เป็นชาย 54 ราย หญิง 29 ราย ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มสัมผัสเสี่ยงต่ำ 78 ราย เป็นพนักงานโรงงานเอกชน และสถาบันการศึกษา ที่เดินทางไปศึกษาดูงานจากประเทศเกาหลีใต้แล้วกลับมา ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดได้ให้ความรู้และวิธีสังเกตอาการผิดปกติแนะนำให้พักอยู่บ้าน ซึ่งกำหนดให้มีเจ้าหน้าที่โทรศัพท์สอบถามอาการทุกวันจนสิ้นสุดระยะเฝ้าระวัง แต่ไม่ได้มีการกักตัวเฝ้าระวังที่โรงพยาบาลเพียงโทรศัพท์สอบถามติดตามอาการเท่านั้น
ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงทั้ง 83 คน ที่มีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ที่เจ้าหน้าที่ต้องกักตัวไว้เฝ้าระวังอาการที่โรงพยาบาล จำนวน 5 ราย เป็นชาย อายุ 33 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ อ.ลำปลายมาศ , หญิง อายุ 46 ปี และ อายุ 58 ปี ภูมิลำเนาอยู่ อ.หนองกี่ , หญิงอายุ 40 ปี อ.เฉลิมพระเกียรติ และเด็กชาย อายุ 10 ปี ภูมิลำเนาอยู่ อ.กระสัง ซึ่งทั้ง 5 ราย ขณะเฝ้าระวังอยู่ที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่จะมีการตรวจวัดไข้และสารคัดหลั่ง เพื่อดูว่ามีเชื้อไวรัสเมอร์สหรือไม่ ขณะนี้ผลการตรวจทั้ง 4 ราย ออกมาเป็นผลลบเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดา รวมถึงเด็กชายวัย 10 ขวบด้วย แต่หญิงวัย 40 ปี ชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ ที่โดยสารมาในเครื่องบินลำเดียวกันกับผู้ป่วยชาวโอมาน ยังอยู่ในกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง เจ้าหน้าที่จึงแยกตัวไปพักที่ห้องแยกโรคในโรงพยาบาลตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
ส่วนกรณีโรงเรียนอนุบาลกระสัง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งได้สั่งปิดโรงเรียนอย่างไม่มีกำหนด เพื่อเฝ้าระวัง ป้องกันโรคที่อาจจะเกิดขึ้น หลังจากมีเด็กชายซึ่งเดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้พร้อมผู้ปกครองแล้วมีอาการป่วย เป็นไข้ เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือโรคเมอร์สนั้น หลังจากทราบผลว่าไม่ติดเชื้อเมอร์ส ทางโรงเรียนจึง มีกำหนดเปิดการเรียนการสอนอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 29 มิ.ย.นี้
นพ.ธีรวัฒน์ กล่าวว่า ขอฝากประชาชนว่าอย่าตื่นตระหนกจนเกินไป โรคติดเชื้อไวรัสเมอร์สไม่ได้ร้ายแรงมากหรือเป็นแล้วตายทุกราย แต่สามารถป้องกันได้ โดยการกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และกลุ่มเสี่ยงคือ ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 - 65 ปีขึ้นไป รวมทั้งผู้เป็นโรคเบาหวาน ผู้ที่ป่วยด้วยโรคปอดอุดตันเรื้อรัง และผู้ป่วยมะเร็ง สุขภาพไม่แข็งแรง อย่าเดินทางไปในประเทศหรือพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคอย่างเด็ดขาด
สำหรับสถานการณ์ผู้ป่วยในประเทศไทยขณะนี้ ประเทศไทยพบผู้ป่วยยืนยัน จำนวน 1 ราย พบผู้สัมผัสโรค 156 ราย หากสงสัยว่าป่วยติดเชื้อไวรัสเมอร์ส ไม่ต้องเดินทางมาพบแพทย์ด้วยตนเองหรือขึ้นรถโดยสารประจำทางมา ขอให้โทรแจ้ง 1669 จะมีรถพยาบาลออกไปรับผู้ป่วยถึงที่ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่สาธารณชน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี