จับแก๊งจีนหลอกเหยี่อสะเดาะเคราะห์ เสียหายกว่า9ล้านบาท
วันอังคาร ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2558, 18.33 น.
Tag :
4 ส.ค. 58 เวลา 14.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ทรัพย์ละออ ผกก.สน.ยานนาวา พ.ต.ท.สัญชัย มาตรคำจันทร์ รอง ผกก.สส.สน.ยานนาวา พ.ต.ต.ณัฐ มนัส สว.สส.สน.ยานนาวา พ.ต.อ.ภพธร จิตต์หมั่น ผกก.สน.จักรวรรดิ พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท ผกก.สน.พลับพลาไชย 1 พ.ต.ท.ปรมะ ร่วมสุข รอง ผกก.สส.สน.พลับพลาไชย 1ร.ต.ท.หาญ เขียวมณี รอง สวป.สน.ดุสิต ช่วยราชการ รอง สว.สส.สน.จักรวรรดิ แถลงจับกุมแก๊งชาวจีนลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย คือ นางไซ เซียงฮัว อายุ 39 ปี สัญชาติจีน นางเหลียง ฟายิ้ง อายุ 50 ปี สัญชาติจีน และนายเฉิน มินเชง อายุ 67 ปี สัญชาติจีน พร้อมของกลางเงินสกลุหยวน 6,825 หยวน คิดเป็นเงินไทย 39,000 บาท เงินสด 13,770 บาท โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ถุงพลาสติกสีต่าง ที่ไว้ใส่ทรัพย์สิน สมุดจดรายชื่อตลาด ภาษาไทย-จีน 1 เล่ม เชิญตัวมาสอบสวนที่ สน.ยานนาวา แขวงสีลม เขตบางรัก กทม.
พล.ต.ต.ชยพล กล่าวว่า เนื่องจากได้มีกลุ่มคนร้ายชาวจีนตระเวนหลอกผู้เสียหายในตลาดต่างๆ พื้นที่นครบาล โดยผู้เสียหายทุกคนจะถูกหลอกว่าตนเองหรือลูกผู้เสียหาย กำลังมีเคราะห์ ต้องทำพิธีสะเดาะเคราะห์โดยมีอาจารย์ที่เก่ง รับทำพิธีให้จึงจะปลอดภัย จากนั้นจะหลอกผู้เสียหายให้เอาทรัพย์สินทั้งหมดใส่ถุงดำเตรียมมา เมื่อผู้เสียหาย เผลอก็จะ สลับถุงที่ภายในมีนมกับน้ำเปล่าให้กับผู้เสียหายแทน จากนั้นจะกำชับว่า ห้ามเปิดถุงจนกว่าจะครบ 15 วันและ นำไปเก็บ ไว้ที่บ้าน กระทั่งผู้เสียหายกลับมาถึงบ้านจึงรู้ตัวว่าถูกหลอก โดยได้มีการแจ้งความไว้ในท้องที่ สน.ยานนาวา สน.จักรวรรดิและสน.พลับพลาไชย1 โดยมูลค่าความเสียหายทั้งหมดประมาณ 9,000,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาไว้ได้เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มคนร้ายได้ก่อเหตุลักษณะนี้ในหลายท้องที่โดย เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 57 ได้ก่อเหตุในท้องที่ สน.ยานนาวา ซึ่งกลุ่มคนร้ายเข้ามาตีสนิทกับนางรัตติยา เอี่ยมวรวุฒิกุล อายุ 61 ปี ขณะไปเดินตลาดเซ็นหลุยส์ จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้เข้ามาตีสนิทและออกอุบายว่าผู้เสียหายและลูกสาวกำลังดวงไม่ดี ต้องทำพิธีสะเดาะเคราะห์โดยมีอาจารย์ที่เก่งรับทำพิธีให้จึงจะปลอดภัย หลอกเอาทรัพย์สินผู้เสียหายโดยนำ สร้อยคอทองคำ แหวนเพชร เงินสด มูลค่ากว่า 130,000 ผู้เสียหายได้ไปแจ้งความไว้ที่สน.ยานนาวา ต่อมา เมื่อวันที่ 14 เม.ย. เวลาประมาณ 12.30 น. ก่อเหตุในท้องที่สน.พลับพลาไชย 1 ขณะที่นางชุติมา ตรีวิทยาภูมิ อายุ 67 ปี เดินอยู่บริเวณวัดมังกร ถนนมังกร แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กลุ่มคนร้ายเข้ามาคุยตีสนิทและจับที่แขนก่อนจะนำแผ่นเหล็กขนาดเล็กปลายแหลมเจาะลงไปบริเวณข้อมือ ทำให้ผู้เสียหายเกิดอาการสะลึมสะลือคล้ายโดนป้ายยาสั่ง จากนั้นคนร้ายได้บอกว่าลูกสาวผู้เสียหายที่อยู่ต่างประเทศกำลังมีเคราะห์อาจถึงแก่ชีวิต ต้องทำพิธีสะเดาะเคราะห์กับหมอจีน ผู้เสียหายกลัวว่าลูกสาวจะได้รับอันตรายจริง จึงได้เอาทรัพย์สิน ประกอบด้วย เงินดอลลาร์ เงินเยน เงินเกาหลี และทองคำ รวมมูลค่า 800,000 บาท ผู้เสียหายได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.พลับพลาไชย1 และเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. เวลาประมาณ 11.00 น. ก่อเหตุในท้องที่สน.พลับพลาไชย ก่อเหตุหลอกเอาทรัพย์สินนางสุภา อภิวัฒนากุล อายุ 75 ปี มารดาของ นพ.เมธา อภิวัฒนากุล นายแพทย์เชี่ยวชาญ สถาบันประสาทวิทยา ขณะเดินอยู่บริเวณถนนเสือป่า ข้าง รพ.กลาง ซอยเฉลิมพระเกียรติเขตต์ 4 แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ได้ทรัพย์สิน เงินสด เงินต่างประเทศ เครื่องประดับ และทองคำแท่งหนัก 200 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สิน 7,000,000 บาท ผู้เสียหายได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.พลับพลาไชย 1 กระทั่งเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 58 เวลาประมาณ 12.30 น. ขณะที่ผู้เสียหายกำลังเดินซื้อของอยู่ที่ตลาดเก่า ท้องที่ สน.จักรวรรดิ ได้มีนางไซ เซียงฮัวพร้อมพวกรวม 3 คน เข้ามาตีสนิทบอกว่าผู้เสียหายกำลังจะมีเคราะห์ แต่ผู้เสียหายไม่ได้สนใจและเดินซื้อของต่อ คนร้ายอีกคนมาสมทบช่วยกันออกอุบายพร้อมบอกว่าถ้าผู้เสียหายไม่ทำ สะเดาะเคราะห์ลูกสาวจะต้องมีอันเป็นไป ผู้เสียหายด้วยความที่ตกใจจึงทำตามที่คนร้ายบอกโดยให้ผู้เสียหายถอด ทรัพย์สิน แหวนเพชร ตุ้มหูเพชร สร้อยคอทองคำ เงินสด รวมมูลค่า 526,200 บาท ผู้เสียหายได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.จักรวรรดิ
พ.ต.ท.สัญชัย กล่าวว่า ภายหลังที่มีผู้เสียหายมาแจ้งความ จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่าพบกลุ่มคนร้ายตรงกับตำหนิรูปพรรณ จึงไปทำการตรวจสอบ หลังจากนั้นได้ติดตามผู้เสียหายในท้องที่ สน.จักรวรรดิ สน.พลับพลาไชย1 มาดูตัวผู้ต้องหา ซึ่งผู้เสียหายทุกคนยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ แต่ผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.ชยพล ระบุว่า การขออนุมัติหมายจับบุคคลตามภาพกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ และมีผู้เสียหายยืนยันตรงกับคนร้าย ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีหลักฐานที่เพียงพอในการดำเนินคดี นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้จดชื่อตลาดที่เอาไว้ใช้ก่อเหตุจำนวน 40 แห่งด้วยจากการตรวจสอบประวัติ เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ นำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป