โบรกเกอร์สาวพบตร.
ปัดร่วมฮุบหุ้น‘ชูวงษ์’
ยื่น3ล้านประกันสู้คดี
‘พริตตี้’มอบตัว27สค.
ความคืบหน้ากรณีนายชูวงษ์ หรือเสี่ยจืด แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้าน และประธานกลุ่มวิทยาตลาดทุนกิจการเพื่อสังคม(วตท.) รุ่นที่ 20 เสียชีวิตขณะพ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต ส.ส.นครสวรรค์และอดีต รมช.พาณิชย์ ขับรถยนต์เล็กซัส สีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กรุงเทพมหานคร ไปส่งบ้านพัก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ต่อมาญาตินายชูวงษ์ ได้เข้าร้องเรียนพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.ขอรื้อคดีขึ้นมาสอบสวนใหม่ เนื่องจากติดใจการเสียชีวิตในหลายประเด็น รวมทั้งร้องเรียนกับกองบังคับการปราบปรามให้ช่วยตรวจสอบหลังพบการโอนหุ้นของเสี่ยจืดมูลค่ารวมเกือบ 300 ล้านบาท ให้น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล พริตตี้สาว และ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล โบรกเกอร์สาวคนสนิทก่อนเสียชีวิต จนเป็นที่มาของการตรวจสอบ กระทั่งศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับผู้ต้องหา 4 รายคือ พ.ต.ท.บรรยิน น.ส.อุรชา น.ส.กัญฐณา และน.ส.ศรีธรา พรหมา มารดาน.ส.อุรชา
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 26 สิงหาคม ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) น.ส.ศรีธรา พรหมา อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.561/2558 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร และน.ส.อุรชา วชิรกุลฑล อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.562/2558 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน พร้อมนายเดชา ขุนทอง ทนายความ เข้าพบพ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ เกิดเอี่ยม พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ กก.1 บก.ป.เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ศรีธราและน.ส.อุรชา สวมแว่นตาและใช้หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า เมื่อเดินทางมาถึงทนายความพาเข้าห้องประชุม พบพนักงานสอบสวนทันที ท่ามกลางสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวจำนวนมาก
โดยน.ส.อุรชากล่าวเพียงสั้นๆว่า คดีที่เกิดขึ้นตนปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ยืนยันว่าหุ้นที่ได้รับโอนมาจากนายชูวงษ์นั้น ได้มาโดยสุจริต ดำเนินการตามขั้นตอนการโอนหุ้นถูกต้องทุกอย่าง ซึ่งตนได้รับการโอนหุ้นดังกล่าวมาโดยเสน่หา ส่วนพยานบุคคลนั้นตนไม่มี แต่คิดว่าพยานเอกสารมีความสำคัญมากกว่า สำหรับนายชูวงษ์กับพ.ต.ท.บรรยิน ตนยอมรับว่ารู้จักกับบุคคลทั้งสอง แต่รู้จักกับนายชูวงษ์มาก่อน อย่างไรก็ดี ในส่วนพ.ต.ท.บรรยิน ตนรู้จักแต่ไม่ได้สนิทสนมเป็นพิเศษ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังถูกศาลออกหมายจับได้ติดต่อกับพ.ต.ท.บรรยินบ้างหรือไม่ น.ส.อุรชา ปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว ส่วนหลักทรัพย์ที่ใช้ยื่นประกันตัวนั้น ทนายความเตรียมไว้แล้ว
เมื่อถามถึงกรณีปากกาที่นายชูวงษ์ใช้เซ็นเอกสารเกี่ยวกับการโอนหุ้น น.ส.อุรชา ปฎิเสธว่าไม่ทราบนายชูวงษ์ ใช้ปากกาชนิดใด เนื่องจากตนตรวจสอบเพียงความสมบูรณ์ของข้อความและลายเซ็นในเอกสารเท่านั้น
ถามต่อถึงการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ว่าเป็นผู้ดำเนินการเองหรือไม่ น.ส.อุรชาปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยกล่าวเพียงว่า ตนเป็นพนักงานบริษัท หลักทรัพย์เออีซี จำกัด การโอนหุ้นดังกล่าว มีพนักงานของบริษัทอีกคนหนึ่งเป็นผู้ดำเนินการ
ด้านพ.ต.อ.ประเสริฐกล่าวว่า เมื่อน.ส.ศรีธราและน.ส.อุรชา ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเอง หลังจากนี้จะแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ และดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป ส่วนผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรเป็นสิทธิที่สามารถให้การได้
หลังใช้เวลาสอบปากคำกว่า 3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่คุมตัวน.ส.ศรีธราและน.ส.อุรชา ไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อผลัดฟ้องฝากขังเป็นครั้งแรกกำหนด 12 วัน นับตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม-6 กันยายน โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าหากได้รับการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสองอาจหลบหนี และคดีดังกล่าวมีมูลค่าความเสียหายสูง
ต่อมาเวลา 16.00 น. นายเดชา ขุนทอง ทนายความน.ส.อุรชา โบรกเกอร์สาว และนางศรีธรา มารดายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอประกันตัวต่อศาล โดยศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสอง โดยตีราคาประกันคนละ 3 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ และห้ามไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
ในส่วนน.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล พริ้ตตี้สาวมีรายงานว่า นายเสกสรรค์ เสนาชู ทนายความของน.ส.กัญฐญาประสานมายังพนักงานสอบสวนว่า น.ส.กัญฐณาจะเข้ามอบตัวสู้คดีวันที่ 27 สิงหาคม เวลา 09.00น.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี