เรียกว่าแหกโผกันมาเลยทีเดียว สำหรับ “ว่าที่” ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คนใหม่ “ธีรภัทร ประยูรสิทธิ” ซึ่งถูก “พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ” รมว.เกษตร

และสหกรณ์ ลากข้ามห้วยมาจากเก้าอี้อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อมานั่งเก้าอี้สำคัญ
แทนที่ “ชวลิต ชูขจร” ที่ถูกเตะโด่งไปนั่งตบยุงในตำแหน่งผู้ตรวจการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

แม้อาจจะมีภาพความสัมพันธ์กับ “ฝ่ายการเมือง” อยู่บ้าง เนื่องจากก่อนหน้านี้ว่าที่ปลัดฯธีรภัทร เคยเป็นทีมงานให้กับ “ไอ้ก้านยาว” ประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ สมัยยังดำรงตำแหน่งเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ภายใต้ร่มเงาของพรรคไทยรักไทย ซึ่งพอต่อมาคุณประพัฒน์ มีอันต้องโยกไปนั่งเก้าอี้ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม “คนแรก” ในปี 2545 ว่าที่ปลัดฯธีรภัทรก็ยังตามไปเป็นคณะทำงานให้ในเก้าอี้หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรีทส.ในขณะนั้น

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า คุณธีรภัทร เป็นข้าราชการที่มีฝีไม้ลายมือที่ดีคนหนึ่ง และค่อนข้างได้รับการยอมรับจากข้าราชการ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวมทั้งกรมป่าไม้ มากอยู่พอสม เพราะได้ชื่อว่า เป็นคนที่มี “ข้อมูล” แน่นมากคนหนึ่ง โดยเฉพาะเรื่องป่าไม้ในเมืองไทย

สมัยยังดำรงตำแหน่งเป็น รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ก็ได้สร้างผลงานทั้งเรื่องการจัดการและเฝ้าระวัง“นกอพยพ” เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคที่มากับสัตว์ปีกอย่างไข้หวัดนก รวมถึงการปราบปรามขบวนการลักลอบค้าไม้พะยูง การปราบปรามขบวนการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า และค้างาช้าง ซึ่งการยอมรับถึงผลงานดังกล่าว ก็ไม่ใช่เพียงในกลุ่มข้าราชการเท่านั้น แต่ในกลุ่มนักพัฒนาเอกชนก็ให้ความยอมรับในตัวและผลงานของคุณธีรภัทรด้วย ซึ่งรางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่น ปี 2548 และ รางวัลนักอนุรักษ์ธรรมชาติ “สืบนาคะเสถียร” ปี 2554 น่าจะเป็นเครื่องรับประกันได้อย่างดี

ขณะที่ผลงานด้านการบริหารจัดการที่สำคัญ ก็อย่างเช่น การผลักดันให้มีการเพิ่มเงินเดือนและการประกันชีวิตหมู่ให้กับพนักงานพิทักษ์ป่า สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติฯ ทั่วประเทศ การผลักดันให้มีการจัดตั้งหน่วยพิทักษ์ป่า หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ
หน่วยป้องกันรักษาป่า รวมทั้งจัดทำระบบฐานข้อมูลด้านทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า ผลงานเหล่านี้คุณธีรภัทรได้ชื่อว่า เป็นหนึ่งที่ตัวจักรสำคัญที่ทำงานอยู่ทั้งในเบื้องหน้าและเบื้องหลังมาตลอด

กระทั่งผมเองก็เคยแอบลุ้นอยู่ในใจให้แกได้ขึ้นเป็นอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เพราะถือว่าเป็นข้าราชการ “น้ำดี” คนหนึ่งทีเดียว แต่ก็เหมือนโชคไม่เข้าข้าง เพราะแต่งตั้งโยกย้ายทีไร คุณธีรภัทร ก็ยังถูกวางตัวให้คาอยู่ในตำแหน่งรองอธิบดีอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งหลัง คสช. เข้ามาบริหารประเทศคุณธีรภัทร จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “อธิบดีกรมป่าไม้”ที่แกเคยเป็น “ลูกหม้อ” เก่ามาก่อน ซึ่งคุณธีรภัทรก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะสามารถทำงานสนองนโยบายต่างๆ ของฝ่ายนโยบายได้อย่างโดนเด่น โดยเฉพาะมาตรการ “ทวงคืนผืนป่า” ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลชุดนี้

ดังนั้นการโดดข้ามห้วยมารับตำแหน่งปลัดกระทรวงเกษตรฯของคุณธีรภัทรครั้งนี้ ก็น่าจับตาล่ะครับว่า แกจะใช้ฝีไม้ลายมือ “ผ่าตัด” ปัญหาต่างๆ ที่สุมอยู่ภายในกระทรวงเกษตรฯได้มากน้อยขนาดไหน

แต่บรรทัดนี้ขอแสดงความยินดี และเอาใจช่วยไว้ก่อนก็แล้วกันครับ

มะลิลา