3 ก.ย.58 นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่ นายสุนัย ผาสุก ที่ปรึกษาประจำประเทศไทยของ ฮิวแมนไรท์วอทช์ ออกมาประกาศว่า ไม่เห็นด้วยกรณีที่รัฐบาลใช้ มาตรา 44 คุมตัวและสอบสวนผู้ต้องหาคดีวางระเบิดแยกราชประสงค์ ว่า เท่าที่ทราบในหลายประเทศนั้นก็มีกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องความมั่นคง อย่างเช่น ถ้าเป็นเรื่องก่อการร้ายก็จะมีกฎหมายพิเศษขึ้นมา อย่างในประเทศมาเลเซียก็สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้นานถึง 1 เดือน อย่างในสหรัฐฯ ตอนที่มีการก่อวินาศกรรมตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ก็มีกฎหมายรักชาติขึ้นมา เป็นกฎหมายพิเศษมากกว่าปกติ
ทั้งนี้ จุดมุ่งหมายของการใช้กฎหมายพิเศษ เพราะการก่อการร้ายมีผลกระทบมากกว่าอาชญากรรมทั่วไป อย่างระเบิดที่แยกราชประสงค์ การจับกุมสอบสวนก็แสดงให้เห็นแล้วว่า หากไม่ได้ควบคุมตัวสอบสวนได้ทันท่วงที ก็ยังค้นพบระเบิดที่สามารถก่อเหตุได้อีก ดังนั้น วิธีการป้องกันที่ดีที่สุดคือ การสืบสวนว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมีผู้ร่วมกระบวนการทั้งหมดกี่คน และจับกุมตัวโดยใช้กฎหมายพิเศษ ซึ่งหากใช้กฎหมายธรรมดาที่ควบคุมตัวไว้ได้แค่ 48 ชั่วโมง แล้วต้องส่งฝากขังที่ศาล แล้วเกิดได้รับการประกันตัวออกไปก็อาจเกิดเหตุต่อเนื่องได้ เราจึงต้องมีกฎหมายลักษณะพิเศษในเรื่องการก่อการร้าย
นายวันชัย ยังกล่าวอีกว่า การที่ฮิวแมนไรท์วอทช์ ออกมาพูดนั้น แสดงถึงเจตนาไม่ดี ไม่หวังดี และไม่มีเจตนาบริสุทธิ์ องค์กรนี้เป็นองค์กรที่รับทุนมาจากต่างประเทศแถบยุโรป การออกมาพูดอย่างนี้ ได้คิดถึงผลประโยชน์ของประเทศหรือไม่ ทีกรณีที่ทางสหรัฐฯ จับกุมตัวและมีการละเมิดสิทธิมนุษย์ชนร้ายแรงที่คุกกวนตานาโม นั้น องค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์เคยออกมาพูดอะไรบ้างหรือไม่ เพราะฉะนั้นเราไม่ต้องสนใจ หรือรับฟังองค์กรนี้ออกมาพูดอย่างใด และแม้เราจะไม่รับฟังก็จะไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อประเทศไทยแต่อย่างใด ตราบใดที่เรายังไม่ได้ละเมิดกติการะหว่างประเทศ และไม่ได้มีการสอบสวนที่เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล หรือทรมาน ก็จะไม่มีปัญหาอะไร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี