ใต้จุกควันพิษ
‘เที่ยวบิน’ยังดีเลย์อื้อ
ภูเก็ต-สงขลาน่าห่วง
อินโดนีเซียเสียงอ่อย
ขอร้องช่วยดับ‘ไฟป่า’
ชี้สถานการณ์สาหัส
สถานการณ์หมอกควันไฟป่าจากประเทศอินโดนีเซีย ที่ลอยปกคลุมหลายจังหวัดภาคใต้ยังคงน่าเป็นห่วง ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและระบบการบินต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จ.สงขลา เริ่มมีหมอกควันกลับเข้ามาปกคลุมอีกครั้ง หลังเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม หมอกควันเจือจางลง โดยช่วงเช้าวันนี้หมอกควันปกคลุมทั่วทั้งตัวเมืองสงขลา ทำให้มีฟ้าหลัว ทั้งนี้ จากรายงานคุณภาพอากาศของสำนักงานสิ่งแวดล้อมที่ 16 สงขลา ฉบับที่ 102/58 สรุปว่า จากข้อมูลดาวเทียม NOAA-18 วันที่ 7 ตุลาคมมีจุดที่เกิดไฟไหม้บนเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย 91 จุด ลดลงจากวันที่ 6 ตุลาคม ซึ่งมีจำนวน 121 จุด
ภูเก็ตฝุ่นละอองยังเกินมาตรฐาน
สำหรับคุณภาพอากาศในจ.สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต สงขลา ยะลา นราธิวาสและปัตตานี พบว่า ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) มีค่าระหว่าง 48-201 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) โดยเฉพาะจ.ภูเก็ตปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) มีค่าเกินมาตรฐาน อยู่ที่ 201 ไมโครกรัมต่อลบ.ม. จ.สงขลาลดลงเหลือ 86 ไมโครกรัมต่อลบ.ม.ถือว่าไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน
เที่ยวบินดีเลย์วันที่2ติดค้างนับพันคน
ส่วนบรรยากาศที่สนามบินภูเก็ต ยังคงมีผู้โดยสารจำนวนมากทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศต่างมารอขึ้นเครื่อง แต่ด้วยทัศนวิสัยไม่เอื้อต่อการบิน จึงมีผู้โดยสารติดค้างนับพันคน สอบถามผู้โดยสารบางรายทราบว่าต้องรอมาหลายชั่วโมง เพราะเครื่องบินที่มาจากสนามบินดอนเมือง ไม่สามารถลงจอดได้ตามเวลา ส่งผลให้ไม่มีเที่ยวบินเดินทางกลับไปลงที่กรุงเทพฯทั้งสองสนามบิน นักท่องเที่ยวที่ต้องเดินทางไปต่อเครื่องกลับประเทศต้องได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ ท่าอากาศยานภูเก็ตได้ตั้งศูนย์ประเมินผลและติดตามสภาวะและทัศนะวิสัยต่ำ อย่างไรก็ตาม ถ้าสถานการณ์เลวร้ายกว่านี้ เช่น หมอกควันหนาแน่นระยะมองเห็นรันเวย์ที่ 300 เมตร จะดำเนินการตามมาตรการ 4 ระดับคือ 1.ก่อนเข้าทัศนะวิสัยต่ำ 2.การเข้าทัศนะวิสัยต่ำ 3.คือการหยุดปฎิบัติการในเขตการบินทั้งหมด และ4.หลังทัศนะวิสัยคลี่คลายไปในทางที่ดี
กต.เรียกทูตอินโดถกแก้ปัญหา
ขณะที่รัฐบาลเร่งหาแนวทางแก้ปัญหาหมอกควันอย่างเร่งด่วน โดยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศเปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้เชิญเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย มาร่วมหารือเรื่องดังกล่าว เพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาเบื้องต้น รวมถึงแนวทางป้องกันในอนาคต เชื่อมั่นว่าการหารือครั้งนี้จะคืบหน้าและมีความชัดเจนในการแก้ปัญหามากขึ้น
เล็งใช้กม.เอาผิดปท.ต้นทาง
ส่วนการที่จะใช้ข้อกฎหมายเอาผิดประเทศที่ก่อปัญหามลภาวะนั้น นายดอนกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องพูดถึง ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อน แต่อนาคตก็ต้องหารือร่วมกัน เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน นอกจากนี้ ในการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน ที่มาเลเซีย เจ้าหน้าที่อาวุโสของไทย ก็ได้หยิบยกเรื่องปัญหาหมอกควันที่ส่งผลกระทบมาถึงประเทศไทย ไปพูดคุยในเวทีดังกล่าวด้วย ซึ่งเบื้องต้นทุกประเทศ
ทราบปัญหาดีและเข้าใจตรงกันว่าการช่วยกันดูแลและร่วมมือแก้ปัญหาเป็นเรื่องที่ดี
อินโดร้องขออาเซียนช่วยดับไฟป่า
วันเดียวกัน ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายวิทวัส ศรีวิหค รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศกล่าวภายหลังหารือกับนายลุตฟี่ ราอุฟ เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทยถึงการแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันในอินโดนีเซียว่า เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียชี้แจงสถานการณ์ล่าสุดว่า รัฐบาลอินโดนีเซียไม่ได้นิ่งนอนใจในการดับไฟป่า แต่ปัญหาถือว่าหนักหนาสาหัส ขณะที่ความพยายามที่อินโดนีเซียทำอยู่ถือว่าไม่เพียงพอ เขาจึงจะขอรับความช่วยเหลือจากมิตรประเทศในอาเซียนด้วย ตนจึงแจ้งว่าไทยพร้อมช่วยเหลือตามที่จะร้องขอ โดยให้เวลาอินโดนีเซียไปจัดทำคำขอความช่วยเหลือเข้ามา ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตอินโดฯยังแสดงความเสียใจต่อผลกระทบที่เกิดกับไทยและประเทศใกล้เคียง โดยเข้าใจความห่วงกังวลของรัฐบาลไทย พร้อมระบุสาเหตุไฟป่าที่เกิดขึ้นมาจากธรรมชาติและฝีมือมนุษย์ ซึ่งรัฐบาลอินโดฯยืนยันว่ามีกฎหมายลงโทษผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาดด้วย
ชี้คนรุกป่าต้นเหตุปัญหาหมอกควัน
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในเรื่องนี้ว่า ตนแจ้งไปยังประเทศต้นทางแล้วว่าไทยกำลังแก้ปัญหา เชื่อว่าเขาก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ปัญหามาจากคนบุกรุกป่ามาก ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ทั่วโลกเผชิญอยู่ เพราะทุกคนมุ่งทำแต่การเกษตรเพียงอย่างเดียว รัฐบาลนี้พยายามสร้างวิสัยทัศน์ การเรียนรู้ให้ประชาชนใหม่ แต่มีกลุ่มคนพยายามบิดเบือนว่าเป็นการทำลายวัฒนธรรม เบื้องต้นทำได้เพียงฉีดน้ำเลี้ยงไว้และส่งคนไปดับไฟที่อินโดนิเซีย ประเทศต้นทาง
สั่งตั้งศูนย์ดูแลผู้ได้รับผลกระทบ
“สำหรับผมประเด็นอยู่ที่ปลูกแล้วจะได้ข้าวหรือไม่ ถ้ามีน้ำพอก็ปลูกไป ไม่ได้ห้าม แต่ถ้าไม่มีน้ำแล้วยังยืนยันจะปลูก แล้วก็มาเรียกร้องค่าเยียวยา มันเป็นธรรมหรือไม่ นี่คือประเด็นของผม อย่าเอาแต่ข่าวไปตี กลับไปกลับมา” นายกฯระบุ และว่า ได้สั่งการให้แต่ละจังหวัดตั้งศูนย์ดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันโดยตรงแล้ว โดยให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดดูแล
ผุดไอเดียทำเหมืองน้ำเค็มแก้แล้ง
นายกฯรับกล่าวถึงแนวทางแก้ปัญหาภัยแล้ง ปริมาณน้ำอาจไม่เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคด้วยว่า ขณะนี้มีปัญหาน้ำเกิดกับภาคเกษตรกร หลังจากนี้ปริมาณน้ำอุปโภคบริโภคจะน้อยลง จึงสั่งการให้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ ไปหาทางออกเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ โดยมีแนวคิดว่า อาจทำเหมืองน้ำ เพื่อเจาะน้ำใต้ดินมาเก็บไว้เป็นคลังน้ำ หรืออาจทำแบบต่างประเทศที่นำน้ำทะเลมาทำน้ำจืดใน 30-50 ปีข้างหน้า ซึ่งมีตัวอย่างของต่างประเทศให้เราได้ศึกษา ก็ต้องไปคิดว่าจะดำเนินการอย่างไร ให้เกิดความยั่งยืนในการบริหารจัดการน้ำ
ขันน๊อตผู้ว่าฯแจง8แผนสู้แล้ง
วันเดียวกัน ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯและพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเร็นซ์ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ถึงสถานการณ์น้ำและปัญหาภัยแล้งปี 2558-2559 รวมถึงทำความเข้าใจกับประชาชนถึงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง โดย พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า ปีนี้ปัญหาภัยแล้งจะรุนแรงมากกว่าปีที่ผ่านมา จึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจและแก้ปัญหาให้เกษตรกรที่ปลูกพืชช่วงหน้าแล้งอย่างเร่งด่วน ตามมาตรการช่วยเหลือที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ 8 มาตรการ 50 โครงการ งบประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท เช่น มาตรการส่งเสริมความรู้และสนับสนุนปัจจัยการผลิตเพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือน ชะลอหรือขยายระยะเวลาชำระหนี้ การจ้างงานสร้างรายได้ เป็นต้น
ตั้งศูนย์แก้วิกฤติแล้งระดับชาติ
รมว.เกษตรฯกล่าวต่อว่า ตนเน้นเรื่องสร้างความเข้าใจกับเกษตรกรให้งดปลูกพืชที่ใช้น้ำมาก พร้อมกันนี้ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจแก้ปัญหาวิกฤติภัยแล้งระดับชาติ มีปลัดกระทรวงเกษตรฯเป็นประธาน และศูนย์อำนวยการฯระดับจังหวัดติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดและเชื่อมโยงข้อมูลกัน นอกจากนี้ จะเรียกประชุมผู้ว่าฯทั่วประเทศอีกครั้ง วันที่ 13 ตุลาคม เพื่อหารือแนวทางดำเนินการตามมาตรการที่ 4 เรื่องโครงการตามความต้องการของชุมชน โดยจะกำหนดแนวทางเก็บข้อมูลแต่ละชุมชน ใช้เวลารวบรวมข้อมูล 30 วันตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคมเป็นต้นไป
ผู้ว่าฯเด้งรับนโยบายบี้จนท.สู้แล้ง
ภายหลังการประชุมวีดีโอคอนเฟอร์เร้นชี้แจงสถานการณ์และแนวโน้มวิกฤตปัญหาภัยแล้ง ปี 2558/2559 พร้อมรับมอบแนวทางแก้ปัญหาภัยแล้งจากรัฐบาล หลายจังหวัดต่างเดินหน้าปฎิบัติตามนโยบายที่ได้รับมอบหมาย เช่น จังหวัดนครราชสีมา มหาสารคาม ลพบุรี เรียกประชุมเจ้าหน้าที่พร้อมสั่งให้ไปทำความเข้าใจกับเกษตรกร รวมทั้งประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้ประหยัดน้ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี