16 ธ.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (15 ธ.ค.) ศาลแพ่งอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำที่ ด.7254/2543 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 และธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือบีบีซี ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเกรินเกียรติ ชาลีจันทร์ หรือเสี่ยตั้ว อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บีบีซี (เสียชีวิตแล้วด้วยโรคมะเร็งปอด และลิ้นหัวใจรั่ว) , นายจิตตสร ปราโมช ณ อยุธยา อดีตรองผู้อำนวยการสำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่ , ม.ร.ว.ดำรงเดช ดิศกุล อดีตผู้บริหารอาวุโส สำนักบริหารเงินและวิเทศกิจ และม.ร.ว.หญิงสุภาณี สารสิน หรือ ดิศกุล อดีตรองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บีบีซี ฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ และความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 หลังร่วมกับพวก และนายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่บีบีซี อนุมัติขายหุ้นเพิ่มทุนของบีบีซี โดยไม่ตรวจสอบประวัติฐานะของบริษัทผู้เข้าจองซื้อหุ้น และร่วมกันอนุมัติสินเชื่อให้กับบริษัทเอกชน เมื่อช่วงปี 2538 - 2539

คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษา เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2548 ลงโทษจำเลยที่ 1 ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ ฯ ม.313 จำคุก 5 กระทงๆ ละ 10 ปี รวม 50 ปี และปรับ 472,122,946.02 ดอลลาร์สหรัฐ แต่โทษจำคุกมีกำหนดจำคุกสูงสุด 20 ปี ตามกฎหมายกำหนด และให้นับโทษจำเลยที่ 1 ต่อจากคดียักยอกทรัพย์ที่ศาลกรุงเทพใต้พิพากษาสั่งจำคุก

สำหรับจำเลยที่ 2-4 ศาลชั้นต้นพิพากษา ลงโทษตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ม.308 จำคุกคนะล 6 ปี 8 เดือน ปรับคนละ 666,666.66 บาท และให้จำเลยที่ 1 คืนเงินบีบีซี จำนวน 167,090,118.28 ดอลลาร์สหรัฐ โดยให้จำเลยที่ 2-4 ร่วมชดใช้เป็นเงินจำนวน 85,733,882.04 ดอลลาร์สหรัฐ หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการยึดทรัพย์สิน

ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น และล่าสุด ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ภายหลังศาลได้ควบคุมจำเลยทั้ง 3 คน ลงมาที่ห้องควบคุมด้านหลังศาลอาญาทันที