วันจันทร์ ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2568
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังหารือแนวทางการใช้ยางพาราในประเทศในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และการส่งเสริมการทำเกษตรแบบผสมผสาน ว่า สืบเนื่องจากการที่นายกรัฐมนตรี ต้องการให้ทุกหน่วยราชการมีการใช้ยางพาราภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ได้หารือถึงการใช้ยางพาราในประเทศของส่วนราชการโดยใช้งบประมาณปี พ.ศ. 2559-2560 ซึ่งมีหน่วยงานในสังกัดที่คาดว่าจะนำเสนอการใช้ยางพาราในประเทศ 8 หน่วยงาน ได้แก่ กรมส่งเสริมสหกรณ์ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กรมพัฒนาที่ดิน กรมประมง กรมชลประทาน กรมปศุสัตว์ กรมหม่อนไหม และกรมวิชาการเกษตร เพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคายางและเพิ่มปริมาณการใช้งานในประเทศ อาทิ แผ่นยางปูคอกโคนม ปูพื้นคอกปศุสัตว์ ถุงมือยาง การปรับปรุงผิวจราจรถนนลาดยาง โครงการปรับปรุงผนังบ่อดินสำหรับอนุบาลและเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ำ รองเท้ายาง เป็นต้น
ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คาดว่าจะมีปริมาณการใช้ยางพาราภายในประเทศ ในปี 2559 จำนวนทั้งสิ้น 25,580.34 ตันยางแห้ง แบ่งเป็นปริมาณการใช้ยางพาราจากงบปกติ จำนวน 434.07 ตันยางแห้ง และปริมาณการใช้ยางพาราจากงบกลาง จำนวน 25,146.27 ตันยางแห้ง สำหรับปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศ ในปี 2560 คาดว่าจะมีปริมาณการใช้ยางพาราภายในประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 11,025.35 ตันยางแห้ง ทั้งนี้ สำนักงานเลขาธิการสำนักรัฐมนตรีและสำนักงบประมาณ จะเป็นผู้รวบรวมข้อมูลจากกระทรวงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เห็นภาพรวมก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
นายธีรภัทรกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วนแล้ว ยังมีการวางแผนในระยะยาว ตามนโยบายของนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการทำเกษตรแบบผสมผสานของเกษตรกรชาวสวนยางพารา ซึ่งต้องให้เกษตรกรชาวสวนยางมีความสมัครใจ โดยกระทรวงเกษตรฯ จะเข้าไปสร้างความเข้าใจ พร้อมพูดคุยกับเกษตรกรในการเสริมสร้างอาชีพ โดยจะต้องดูควบคู่กับด้านการตลาดด้วย
ทั้งนี้ภาครัฐจะให้ความสนับสนุนในด้านต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันมีการอนุมัติงบประมาณแล้ว จำนวน 15,000 ล้านบาท ในการให้สินเชื่อแก่เกษตรกรที่จะปรับเปลี่ยนอาชีพ ผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการแล้ว จำนวน 96,563 ราย วงเงิน 8,752 ล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาให้สินเชื่อจาก ธ.ก.ส. จำนวน 34,267 ครัวเรือน วงเงิน 3,387 ล้านบาท และมีเงินคงเหลือ 2,867 ล้าน ที่เตรียมพร้อมให้เกษตรกรเข้ามาร่วมโครงการเพิ่มเติม ซึ่งจะต้องมีการส่งเสริมการทำเกษตรแบบผสมผสานควบคู่กับการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในด้านพืช ประมง ปศุสัตว์ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี