วันอาทิตย์ ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ดร.วิจารย์ สิมาฉายา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยถึงการสรุปสถานการณ์มลพิษประเทศไทย ในปี 2558 โดยสถานการณ์คุณภาพอากาศ จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศใน 29 จังหวัด จ.สระบุรี เป็นจังหวัดที่มีจำนวนวันที่มลพิษทางอากาศเกินค่ามาตรฐานมากที่สุด 150 วัน รองลงมา คือ ลำปาง 89 วัน สมุทรปราการ 81 วัน กรุงเทพมหานคร 74 วัน และขอนแก่น 70 วัน
สารมลพิษที่เป็นปัญหาสำคัญ คือ ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ก๊าซโอโซน และยังตรวจพบฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เกินมาตรฐาน 9 ใน 10 จังหวัดที่ทำการตรวจวัด
นอกจากนี้ พบว่าสารอินทรีย์ระเหยง่าย มีปริมาณสูงกว่าค่ามาตรฐาน 4 จังหวัดจาก 6 จังหวัด โดยเฉลี่ย มีปริมาณลดลง เป็นผลจากการปรับปรุงมาตรฐานน้ำมันเชื้อเพลิง EURO 4 ยกเว้นพื้นที่มาบตาพุดและบริเวณใกล้เคียง จังหวัดระยอง แต่เบนซิน และ 1,3-บิวทาไดอีน หลายสถานีมีแนวโน้มลดลงจากปี 2557 ส่วน 1,2-ไดคลอโรอีเทน หลายสถานีที่อยู่ใกล้เคียงนิคมอุตสาหกรรมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากปีที่ผ่านมาสภาพอากาศแห้งแล้งมาก และได้รับผลกระทบจากหมอกควันข้ามแดน
สถานการณ์คุณภาพน้ำ จากการประเมินโดยใช้ดัชนีคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน(Water Quality Index: WQI) พบว่าคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำผิวดินส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์พอใช้ ร้อยละ 43 รองลงมาอยู่ในเกณฑ์ดี ร้อยละ 31 และเกณฑ์เสื่อมโทรม ร้อยละ
26 แหล่งน้ำในภาคเหนือมีคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ดีมากกว่าภาคอื่น รองลงมาคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออก แม่น้ำที่มีคุณภาพน้ำดีที่สุด คือ แม่น้ำตาปีตอนบนขณะที่แหล่งน้ำที่มีคุณภาพน้ำเสื่อมโทรมอย่างต่อเนื่อง เช่น แม่น้ำกวง ลำตะคองตอนล่างระยองตอนล่าง ป่าสัก ลพบุรี เจ้าพระยาตอนบน ท่าจีนตอนกลางและล่าง เพชรบุรีตอนล่าง เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านการลงทุนระบบบำบัดน้ำเสีย
ส่วนน้ำทะเลชายฝั่ง จากการประเมินโดยใช้ดัชนีคุณภาพน้ำทะเล (Marine Water Quality Index: MWQI) พบว่า คุณภาพน้ำทะเลชายฝั่งส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์พอใช้ ร้อยละ 72 อยู่ในเกณฑ์ดี ร้อยละ 16 อยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม ร้อยละ 9 และอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมมาก ร้อยละ 3 และไม่พบคุณภาพน้ำเกณฑ์ดีมาก โดยบริเวณที่มีคุณภาพน้ำเสื่อมโทรมยังคงเป็นพื้นที่อ่าวไทยตอนใน ที่ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำเสียจากแม่น้ำสายหลักและชุมชนที่รุกล้ำชายฝั่งทะเล
สถานการณ์การจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย ปี 2558 มีปริมาณขยะมูลฝอยชุมชนเกิดขึ้น 26.9 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก ปี 2557 ร้อยละ 3 ได้รับการเก็บขนเพื่อนำไปกำจัด 15.4 ล้านตัน ขยะมูลฝอยที่เก็บขนถูกนำไปกำจัดอย่างถูกต้อง 8.4 ล้านตัน
อีกประมาณ 7.09 ล้านตัน ถูกนำไปกำจัดยังสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยที่ดำเนินการไม่ถูกต้อง เช่น การเทในบ่อดิน เผากลางแจ้ง ลักลอบทิ้งในพื้นที่รกร้าง มีปริมาณขยะตกค้างในสถานที่กำจัด 30 ล้านตัน สามารถจัดการได้แล้ว 20 ล้านตัน และมีการนำขยะมูลฝอยชุมชนกลับมาใช้ประโยชน์ มีประมาณ 4.9 ล้านตัน
ของเสียอันตรายชุมชน เกิดขึ้น 591,127 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2557 จำนวน 14,811 ตัน แบ่งเป็น ซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 384,233 ตัน และของเสียอันตรายประเภทอื่นๆ จากชุมชน เช่น แบตเตอรี่ หลอดไฟ ภาชนะบรรจุสารเคมี อีก 206,894 ตัน ปริมาณมูลฝอยติดเชื้อ เกิดขึ้นประมาณ 5,400 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2557 จำนวน 200 ตัน ได้รับการจัดการถูกต้อง ร้อยละ 75 กากอุตสาหกรรมเกิดขึ้นทั่วประเทศ 37.4 ล้านตันแบ่งเป็นกากอุตสาหกรรมอันตราย 2.8 ล้านตันไม่อันตราย 34.6 ล้านตัน โดยกากอุตสาหกรรมอันตรายได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง 1.3 ล้านตัน และกากอุตสาหกรรมไม่อันตราย ได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง 26.1 ล้านตัน (ร้อยละ 75)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี