ลงนามตกลงMOUภาครัฐ-เอกชน เร่งแก้ประมงผิดกม.-ค้ามนุษย์

ลงนามตกลงMOUภาครัฐ-เอกชน เร่งแก้ประมงผิดกม.-ค้ามนุษย์

วันศุกร์ ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2559, 14.57 น.
Tag :

15 ม.ค. 59 เวลา 13.30 น วันที่15 มกราคม ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ(วังนันทอุทยาน) พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) เป็นประธานการลงนามระหว่างหน่วยงานภาครัฐและผู้ประกอบการ จำนวน 34 หน่วยงาน ว่าด้วยบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการไม่ซื้อ นำเข้า ส่งออก นำผ่าน จำหน่าย ซึ่งสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำที่ได้จากการทำประมงผิดกฎหมาย การใช้แรงงานผิดกฎหมาย และการค้ามนุษย์ มาผลิตในอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำ และจัดจำหน่ายเป็นสินค้าอาหารทะเล

    
ทั้งนี้ การลงนามบันทึกข้อตกลงดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหากระบวนการด้านประมงตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางให้สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการประมงทั้งหมดมีมาตรฐานสากล เพื่อเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ ซึ่งหน่วยงานภาครัฐและผู้ประกอบการได้ตระหนักถึงความสำคัญ และเห็นชอบร่วมมือกัน ในการแก้ไขปัญหาอย่างถึงที่สุด โดยมีข้อกำหนด ดังนี้


1. ให้หน่วยงานภาครัฐ และผู้ประกอบการ ร่วมมือกันในการรักษามาตรฐานการประกอบการที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน และให้มีการประมงอย่างยั่งยืน โดยผู้ประกอบการจะต้องไม่ละเมิดข้อตกลง รวมทั้งจะปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวกับการประมง แรงงาน และการค้ามนุษย์อย่างเคร่งครัด และส่งมอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้แก่หน่วยงานภาครัฐ 

2. ให้ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมมือกันในการแลกเปลี่ยนความรู้ จัดกิจกรรม จัดให้มีการบรรยายทางวิชาการ การฝึกอบรม และการศึกษาวิจัยในหัวข้อและโครงการที่เหมาะสม

สำหรับหน่วยงานที่ร่วมลงนาม MOU จำนวน 34 หน่วยงาน ประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ จำนวน 12 หน่วยงาน คือ ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ,ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล (ศรชล.),กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ,กระทรวงแรงงาน ,กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ,สำนักงานอัยการสูงสุด ,กรมสอบสวนคดีพิเศษ ,กรมประมง ,กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ,กรมเจ้าท่า ,กรมศุลากากร ,กองบังคับการตำรวจน้ำ

สำหรับองค์กรภาคเอกชน 19 หน่วยงาน ประกอบด้วยสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย ,สมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทย ,สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย,สมาคมการประมงทะเลไทย ,สมาคมอุตสาหกรรรมทูน่าไทย ,บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ,บริษัท ยูเนี่ยนโฟรเซน โปรดักส์ จำกัด,บริษัท อันดามัน ซีฟู้ด จำกัด  ,บริษัท ห้องเย็นกู้ดฟอร์จูน จำกัด ,บริษัท แปซิฟิคแปรรูปสัตว์น้ำ จำกัด ,บริษัท เซียนหนิง ซีฟู้ด จำกัด ,บริษัท องกรณ์ห้องเย็น จำกัด ,บริษัท ห้องเย็นเอเชี่ยนซีฟู้ด จำกัด (มหาชน) ,บริษัท มารีนโกลด์โปรดัก จำกัด ,บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ,บริษัท แพ็คฟู้ด จำกัด (มหาชน) ,บริษัท ไทยรอแยลฟรอเซนฟู้ด จำกัด,บริษัท เมย์โอฟู้ดส์ จำกัด,บริษัท พัฒนาโฟรเซ่นฟู้ด  อย่างไรก็ตามองค์กรที่เป็นกลาง 3 หน่วยงาน ที่ลงนามในฐานะพยาน คือกรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้,องค์การแรงงานระหว่างประเทศ และมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน

โดยพล.ร.อ.ณะ กล่าวว่า การทำเอ็มโอยูครั้งนี้ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี ที่ทุกภาคส่วนช่วยกัน ซึ่งแสดงถึงเจตนารมณ์ ที่จะไม่ทำผิดกฎหมาย  อีกทั้งยังเป็นการแก้ปัญหาเป็นไปอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่มาร่วมการลงนามในครั้งนี้ ต่างมาด้วยความสมัครใจ และไม่ได้มีการบังคับมาทั้งสิ้น  อย่างไรก็ตามทางด้านผู้ประกอบการเอง ก็จะช่วยกันตรวจสอบกันเอง หากมีการทำผิดข้อตกลง ก็จะเตือนกัน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top