25 ม.ค. 59 นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก 'ตุ๊กตาลูกเทพ' โดยเฉพาะในโลกโซเชียลที่นับวันยิ่งทวีความร้อนแรงและสร้างความสนใจจากชาวเน็ต จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในสังคมไทย ถึงการนำตุ๊กตาที่ได้รับการปลุกเสกจากพระหรือวัดชื่อดังมาเลี้ยงดู เหมือนตุ๊กตานั้นมีชีวิต เช่นการป้อนข้าว พูดคุย หรืออุ้มออกไปเดินล่นในที่สาธารณะ รวมถึงการออกแบบหน้าตา ตกแต่งเส้นผม สีผิว แม้กระทั่งการทำให้ผิวหนังของตุ๊กตามีผิวสัมผัสที่ใกล้เคียงกับผิวหนังของมนุษย์ การสวมใส่เครื่องประดับ และแต่งกายตามแฟชั่น ซึ่งการตกแต่งเหล่านั้นล้วนแล้วแต่มีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น
ความเชื่อว่า ตุ๊กตาลูกเทพจะนำพาความร้่ำรวย โชคลาภมาสู่ผู้เลี้ยงดูนั้น เริ่มเป็นที่นิยมและรู้จักเป็นวงเพิ่มมากกว้างขึ้น หลังจากที่เหล่าดารา คนมีชื่อเสียงด้านต่างๆ ในวงการบันเทิง เริ่มเผยแพร่รูปภาพพร้อมข้อความอ้างถึงชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น หรือประสบพบกับความโชคดีหลังจากที่เลี้ยงดู ซึ่งรวมถึงการโพสต์อินสตาแกรม เพื่ออัพเดทเรื่องราวประจำวัน ที่กลายเป็นเทรนด์เลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพ เพื่อตามกระแสสังคม ดังเช่นการกระแส ตุ๊กตาเฟอร์บี้ หรือตุ๊กตาบลายด์ ที่เคยฮิตซื้อมาเลี้ยง แม้ว่าจะมีราคาแพงก็ตาม
หลายคนอาจยังสับสนว่า แล้วตุ๊กตาลูกเทพนี้ ต่างจากกุมารทองอย่างไร เนื่องจากตุ๊กตาทั้งสองแบบนั้น ต่างเป็น"ความเชื่อ" ว่า เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการบูชา เลี้ยงดูเหมือนกัน ซึ่งตุ๊กตาลูกเทพ อาจเรียกได้ว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์รูปแบบใหม่ เปรียบได้ดั่งการเลี้ยงลูก ที่ได้อันเชิญดวงเทพให้มาอยู่ในตุ๊กตา โดยได้รับการปลุกเสกจากพระตามวันเวลาปีเกิดของผู้เลี้ยงเอง ซึ่งตุ๊กตาลูกเทพไม่ใช่ กุมารทอง เพราะไม่ได้ปลุกเสกมาจากดวงวิญญาณเด็ก ดิน 7 ป่าช้า หรือมวลสารต่าง ๆ โดยสามารถผกพานำติดตัวไปด้วยได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับขนาดของตุ๊กตา และความสะดวกหรือความเหมาะสมในการดูแล
การเลี้ยงตุ๊กตาลูกเทพ มีการชี้แจงว่า การสวดมนต์ จะทำให้ตุ๊กตาลูกเทพจะได้รับบุญที่เราสร้างให้ ซึ่งเชื่อกันว่า ยิ่งสร้างบุญบารมีก็จะยิ่งทำให้ตุ๊กตาลูกเทพเก่งขึ้น แต่ทั้งนี้ หลายคนก็อาจจะเลี้ยงเหมือนลูกก็ไม่ผิด ถือเป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล ของที่ใช้ถวายตุ๊กตาลูกเทพ ควรจะเป็นขนมขบเคี้ยว ขนมหวาน นม น้ำหวาน หรือผลไม้ โดยของที่ถวายอย่างนม หรือขนมไม่จำเป็นต้องเจาะกล่องนม หรือเปิดถุงขนมก็ได้ เพราะแค่ได้มองหรือสัมผัส ตุ๊กตาลูกเทพก็สามารถอิ่มทิพย์ได้ ส่วนของที่ใช้ถวายแล้วอย่าง นม หรือขนม หลังจากถวายแล้วสามารถนำไปบริจาคให้กับเด็กผู้ยากไร้ เพื่อสร้างบุญกุศลต่อได้
การเลี้ยงในรูปแบบนี้เอง ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล และการจะนำ"ตุ๊กตาลูกเทพ" ไปที่สาธารณะ เหมาะสมเพียงใด อาทิ ร้านอาหารที่มีโต๊ะข้างๆ ทานข้าว พูดคุยกับตุ๊กตา รวมถึงการอุ้มไปซื้อเสื้อผ้าตามห้างร้าน ขณะที่เสียงอีกฝั่งยืนยันว่า การอุ้มหรือพาตุ๊กตาติดตัวนั้นเป็นสิทธิส่วนบุคคล ที่ไม่ได้สร้างความเดือนร้อนให้ใคร
ในปัจจุบัน วงการตุ๊กตาลูกเทพก้าวไกลไปถึงขั้นที่มีการออกใบสูติบัตร หรือใบแจ้งเกิด ให้กับตุ๊กตาลูกเทพกันแล้ว โดยใบสูติบัตรดังกล่าว จะมีการระบุชื่อ-นามสกุล, รูปถ่าย, หมายเลขบัตรประจำตัวตุ๊กตาเทพ, วันเดือนปีเกิดที่ปลุกเสก รวมไปถึงชื่อของผู้ครอบครอง และผู้ปลุกเสก แม้แต่ครีมที่อ้างว่าจะช่วยลดรอยด่างดำ ขาวใสภายใน 2 สัปดาห์ โดยมีรูป ตุ๊กตาลูกเทพ เป็นตราโลโก้สินค้า ซึ่งหลังจากภาพดังกล่าวถูกแชร์ได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยระบุว่า เป็นการหากินกับความเชื่อและความงมงาย
ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2559 สายการบินไทยสมายล์ ได้เริ่มเปิดให้มีการจองตั๋วโดยสารพร้อมตุ๊กตาลูกเทพ ซึ่งการจองและใส่ข้อมูลของตุ๊กตาลูกเทพ จะเป็นข้อมูลเดียวกันกับผู้เดินทาง โดยระบุเอสเอสอาร์โน้ต เป็น Childs Angel พร้อมระบุจำนวนลูกเทพ โดยผู้โดยสารที่มีตุ๊กตาลูกเทพจะสามารถนั่งได้เฉพาะแถวริมหน้าต่างเท่านั้น ซึ่งผู้โดยสารที่ซื้อที่นั่งเพิ่มสำหรับตุ๊กตาลูกเทพ จะได้รับอาหารว่าง และเครื่้องดื่มตามปกติ และตุ๊กตาลูกเทพ จะต้องนั่งรัดเข็มขัดระหว่างเครื่องขึ้นและลงด้วย ยังไม่รวมถึง บขส.เอง มีเปิดให้จองตั๋วผู้โดยสารที่คิดครึ่งราคาเท่ากับราคาเด็กที่ส่วนสูงไม่เกิน 130 เซนติเมตร หรือร้านอาหารบางแห่งที่นำ "ตุ๊กตาลูกเทพ" เข้าไปนั่งรับประทานอาหารเสมือน "มนุษย์คนหนึ่ง"
อย่างไรก็ตาม หลายคนมองว่า เทรนด์ลูกเทพ คือวิวัฒนาการความเชื่อของเรื่องกุมารทอง ที่คนสมัยก่อนนับถือนั่นเอง ซึ่งเป็นความเชื่อเฉพาะบุคคล เป็นที่พึ่งทางจิตใจ หากไม่ทำความเดือดร้อนให้ใคร ย่อมทำได้
แต่สิ่งสำคัญที่สุด ของมนุษย์เดินดิน คือ การทำความดี ทำจิตใจให้สงบ และมีสติตลอดเวลา และหากอยากรวย รวย และรวย ผู้นั้นจะต้องขวนขวาย อดทน ฝึกฝน เรียนรู้ ดีกว่าที่จะมานั่งพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธ์เพียงอย่างเดียว
ขอบคุณ ภาพจาก/ IG TODAY SHOW, FuckGhost ฟักโกสต์ : สมาคมต่อต้านสิ่งงมงาย, เฟซบุ๊ก Thai Smile Airways
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี