จากที่มีความขัดแย้งทางความคิด เกิดความแตกแยกของคนในชาติ แบ่งเป็นกลุ่ม เป็นฝ่าย ไม่ยอมฟังความเห็นต่างๆ บิดเบือนข้อเท็จจริง เกิดความเข้าใจผิด ปลูกฝังความเกลียดชังฝั่งตรงข้าม ถึงกับทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บและเสียชีวิต ที่สำคัญมีกลุ่มไม่หวังดี สร้างสถานการณ์ความรุนแรง ด้วยการใช้อาวุธสงครามต่อประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต และมีแนวน้อมจะก่อให้เกิดเหตุการณ์จลาจล กระทบต่อความมั่นคงของชาติและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม เพื่อให้การรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและนำความสุขกลับคืนสู่ประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่ายโดยเร็ว
ต่อมาคณะ 4 เหล่าทัพ ได้เชิญคู่ขัดแย้งมาหารือหาทางออก เพื่อสร้างสันติสุขต่อประเทศชาติ 2 ครั้ง แต่คู่ขัดแย้ง
ต่างไม่ยอมกัน จึงทำให้เกิดวิกฤติของชาติจึงเป็นที่มาของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปและเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ คสช.มีนโยบาย “การสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ของคนในชาติ” ที่จะยุติความขัดแย้งของคนในชาติ ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เพื่อให้สังคมไทยยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง โดยไม่แบ่งฝ่ายยึดหลักนิติรัฐ ควบคู่กับหลักรัฐศาสตร์ในการบริหารจัดการความขัดแย้ง
โดย คสช.ได้จัดตั้ง ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ เพื่อการปฏิรูป เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2557 โดยได้น้อมนำพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” เป็นหลักคิดในการกำหนดยุทธศาสตร์ในการปฏิบัติงาน โดย คสช.ได้ดำเนินการสู่ระยะที่ 2 (ก.ย. 2558-ก.ค. 2560) เป็นขั้นตอนการปรองดองสมานฉันท์และการปฏิรูป เพื่อเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล
กองบัญชาการกองทัพไทย มอบให้หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 51 สำนักงานพัฒนาภาค 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จัดกิจกรรมการปรองดองสมานฉันท์ เพื่อการปฏิรูปประเทศ ในรูปแบบ เวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของประชาชน ภาครัฐ ผู้มีความคิดเห็น มีวิสัยทัศน์ การพัฒนาประเทศให้เป็นรูปธรรม ตามนโยบายของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ในโอกาสนี้ ได้เชิญคณะวิทยากรพิเศษ ที่ได้ดำเนินงานอยู่ในคณะสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ,กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม จำนวน 5 ท่าน พร้อม ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน เข้าร่วมเสวนา จำนวน 160 คน ที่ห้องประชุมบัวชมพู โรงเรียนอนุบาลอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ
พันเอก(พิเศษ)ชวนากร ผดุงกิจ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 51 (นพค.51) จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า ตามแผนแม่บทของ
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในปัจจุบัน ถือว่า อยู่ในระยะที่ 2 นโยบายการปรองดองสมานฉันท์และการปฏิรูปนั้น ถือว่า เป็นนโยบายเร่งด่วนและสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ต่อการเดินหน้าต่อไปของประเทศ รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทุกหน่วยงาน ดำเนินงานตามนโยบายดังกล่าวอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ซึ่งกิจกรรมสำคัญที่จะนำไปสู่การปรองดองนั้น จักต้องมีเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ของประชาชนทุกส่วนฝ่าย ตลอดจนผู้มีความคิดเห็นและทัศนคติต่อระบบการเมืองไทยที่แตกต่างกัน ให้มีความรู้ ความเข้าใจ และเกิดการมีส่วนร่วม เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหาแนวทางการแก้ไขปัญหา เพื่อการปฏิรูปประเทศร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม
พ.อ.(พิเศษ)ชวนากร ผดุงกิจ ผบ.นพค.51 จ.อำนาจเจริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า กองบัญชาการกองทัพไทย โดน หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้มอบหมายให้ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 51 สำนักงานพัฒนาภาค 5 ดำเนินการจัดเวทีเสวนาการปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปขึ้น ในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ โดยได้เรียนเชิญ วิทยากรพิเศษ ซึ่งได้ดำเนินงานอยู่ในคณะสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ, กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญและคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม จำนวน 5 ท่าน ประกอบด้วย 1.พลเอกนคร สุขประเสริฐ 2.รองศาสตราจารย์ ดร.เจษฏ์ โทณะวณิก 3.รศ.วุฒิสาร ตันไชย 4.นายจุมพล สุขมั่น และ 5.นายเชิดชัย วงศ์เสรี ตลอดจนเรียนเชิญ ผู้บริหารชุมชน ผู้นำชุมชนทุกภาคส่วน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจ ความสามัคคีและความสมานฉันท์ ของประชาชนภายในชาติให้เกิดขึ้น โดยมีสถาบันหลักของชาติเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวและเป็นศูนย์รวมทางด้านจิตใจ
นายวชิระ มาประสม นายกเทศมนตรีตำบลนาป่าแซง ต.นาป่าแซง อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ ซึ่งเดินทางมาร่วมเสวนาในครั้งนี้ กล่าวว่า บริบทในพื้นที่เป็นเทศบาลชุมชน มี 10 ชุมชน แบ่งเป็น 2 เขตเลือกตั้งและมีประชากร จำนวน 6,000 คน ส่วนใหญ่ทำนาปลูกข้าว ซึ่งสิ่งสำคัญในพื้นที่ เรื่องความขัดแย้งไม่มีแน่นอน ประชาชนเข้าใจบริบทการปฏิรูปการเมืองเป็นอย่างดีมาก และขอฝากอย่างหนึ่งเรื่องงบประมาณมาลงพื้นที่ ขอให้รัฐบาลนำงบลงพื้นที่ให้เพียงพอ เพื่อสนองตอบความต้องการของประชาชนสิ่งสำคัญตอนนี้ ตำบลละ 5 ล้านบาท และหมู่บ้านละ 1 แสนบาท ช่วงนี้กำลังดำเนินการตำบลละ 5 ล้านบาท ส่วนหมู่บ้านละ 1 แสนบาท กำลังรอการอนุมัติ และผลตอบรับของประชาชน ได้รับผลประโยชน์ในเรื่องนี้
ซึ่งในส่วนท้องถิ่นจะช่วยเหลือเยียวยาในผู้ที่เดือดร้อนจริงๆ โดยเฉพาะแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร ที่สำคัญ ประชาชนยังขาดอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ การจัดเวทีเสวนาวันนี้ เป็นโครงการที่ดีมาก เพราะว่าผู้นำชุมชนระดับหมู่บ้านจะได้นำ
ความรู้ต่างๆ ในส่วนที่รัฐบาลดำเนินการในขณะนี้ เอาไปเผยแพร่ให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ และช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจในการเสวนาวันนี้ด้วย
ด้านนายยิ่งยศ ธนะจันทร์ ผวจ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า วิทยากรที่ นพค.51 เชิญมาวันนี้ เป็นผู้มีความรอบรู้มาก และก็อยู่ในขั้นตอนขบวนการปฏิรูปประเทศในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับเก่าฉบับใหม่ เข้าใจเหตุผลต่างๆ และปัญหาของประเทศ
ได้ดี เพราะฉะนั้น การที่ผู้รู้จริงๆ ได้มาแสดงความเข้าใจกับประชาชน น่าจะเป็นโอกาสที่ดีของชาว จ.อำนาจเจริญ ซึ่ง
โครงการวันนี้ เป็นเรื่องของการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ เพราะที่เกิดปัญหา เพราะความเข้าใจไม่ตรงกัน กับความคิดไม่เหมือนกัน มีฐานข้อมูลไม่เท่ากัน อาจมีบางกลุ่ม ให้ข้อมูลไม่ตรง สร้างความคิดที่ไม่ถูกต้อง ก็พยายามให้ผู้รู้ต่างๆ นำสิ่งที่ถูกต้องบอกกล่าวให้ประชาชนได้รับรู้มากที่สุด ทุกคนจะได้เข้าใจตรงกัน คิดตรงกัน มีฐานความคิดเดียวกัน เพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ในบ้านเมือง เพื่อมีความพร้อมให้ประเทศมีการพัฒนาและยั่งยืนต่อไป...
สนธยา ทิพย์อุตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี