'บิ๊กตู่'ลงพื่นที่อุดรฯเร่งแก้ภัยแล้ง ชี้อย่าแบ่งแยก-ยันทำเพื่อปชช.

'บิ๊กตู่'ลงพื่นที่อุดรฯเร่งแก้ภัยแล้ง ชี้อย่าแบ่งแยก-ยันทำเพื่อปชช.

วันศุกร์ ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2559, 16.26 น.
Tag :

18 มี.ค. 59 เวลา 09.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. พร้อมด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะ ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์มาที่หอประชุมโรงเรียนจอมศรีพิทยาคาร อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี โดยมีข้าราชการ ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น และประชาชน ให้การต้อนรับ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจสนธิกำลัง ซึ่งผู้ร่วมงานเจ้าหน้าที่จะทำตรวจค้นกระเป๋าและให้ผ่านเครื่องตรวจวัตถุต้องสงสัย 

จากนั้น นายชยาวุธ จันทร ผวจ.อุดรธานี ได้รายงานผลการดำเนินงาน และมาตรการช่วยเหลือเกษตรกระประสบภัยแล้ง ต่อมานายกฯเป็นประธานสักขีพยานมอบโฉนดที่ดินตามโครงการเดินสำรวจออกโฉนดให้กับประชาชน มอบเงินโครงการแผนพัฒนาอาชีพเกษตรตามความต้องการของชุมชน เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ปี 2558-2559  จำนวน 18 โครงการ เป็นเงิน 8,205,954 บาท และการมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรือให้อยู่อาศัย ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าไผท และป่าโคกไม้งาม จ.อุดร ให้แก่ผู้ว่าจังหวัดอุดรธานี ก่อนพบปะทักทายประชาชน ที่มาคอยให้การต้อนรับ


  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวกับประชาชนที่โรงเรียนจอมศรีพิทยาคาร อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ว่า ต้องการให้เข้าใจว่ารัฐบาลทำเพื่อประชาชนทุกคน เพราะทุกคนถือว่าเป็นคนไทย ซึ่งไม่ต้องการจะสร้างความขัดแย้งโดยขอให้ทุกฝ่ายทำงานร่วมกัน ช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อน ซึ่งส่วนตัวไม่ได้ทำเพื่อคะแนนเสียง แต่ทำเพื่อประเทศชาติ ยึดผลประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวยังรู้สึกว่าไม่มีความสุข เพราะประชาชนยังไม่มีความสุข ทั้งนี้ได้กำชับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ให้มีความเป็นธรรมไม่เลือกปฏิบัติ เพราะหากทุกคนไม่เคารพกฎหมาย บ้านเมืองจะไม่สงบสุข และขอให้มองอนาคตข้างหน้า 20 ปี เพื่อคนรุ่นหลัง และอย่าไปนับถือคนที่ไม่ดี โดยอยากให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ขับเคลื่อนการพัฒนาในพื้นที่ และขออย่าแบ่งแยกกันอีกต่อไป ซึ่งอย่าให้ใครมาควบคุม หรือชักจูง และขอย้ำว่าไม่เคยเห็นนักการเมืองเป็นศัตรู

สำหรับปัญหาน้ำแล้งนั้น พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่นอกเขตชลประทาน การบริหารจัดการน้ำถือว่าสำคัญ เป็นต้นกำเนิดแห่งชีวิต ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม นับวันปริมาณน้ำจะลดลงเรื่อย ๆ เพราะสภาวะอากาศโลกเปลี่ยนแปลง ธรรมชาติเตือนมาหลายปีแล้ว ซึ่งรัฐบาลนี้กำลังเตรียมรับมือแก้ปัญหาให้ตรงกับพื้นที่ ตรงความต้องการ มีการจัดสรรน้ำ แต่ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลนี้จะไม่สนับสนุนเกษตรกร เพียงแต่ต้องทำอย่างถูกวิธี จากนี้ไปการปลูกพืชแบบเดิม ๆ แล้วเป็นหนี้สินถูกกดราคา กลายเป็นปัญหาเชื่อมโยงกันไปทั้งสิ้น อย่าคิดแค่ปัญหาของตัวเอง เพราะมันผูกพันกัน ถ้าคนไม่มีรายได้ เกษตรกรไม่มีรายได้ ก็จะขับเคลื่อนประเทศไม่ได้ วันนี้เราต้องร่วมมือกันทั้งข้าราชการ ประชาชน กับคำว่าประชารัฐ ให้ข้าราชการใช้หัวใจทำงาน โดยให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง ส่งเสริมตามความต้องการของแต่ละพื้นที่


จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เดินพบกับข้าราชการ ประชาชน ที่มาคอยต้อนรับ ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับควายของกลุ่มอนุรักษ์ควายไทยตำบลนาพู่ อำเภอเพ็ญ หลังจากที่ให้หญ้ากินว่า ขอให้ชาติหน้าเกิดเป็นคนนะ คนไหนที่ไม่ทำความดีขอให้ไปเป็นควายแทน แล้วเราชื่ออะไร พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการการบริหารจัดการและการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน และ นิทรรศการผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ทั้งโครงการจัดที่ดินทำกินให้แก่ชุมชน การบริหารจัดการน้ำในสถานการณ์ภัยแล้ง โครงการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล ตำบลละ 5 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์ OTOP ของชุมชน


ในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางไปยังอาคารศูนย์ภาษาและคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ประชุมหารือร่วมกับคณะกรรมการ กรอ. ส่วนกลาง และคณะกรรมการ กรอ.กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ประกอบด้วย หนองคาย อุดรธานี เลย หนองบัวลำภู และบึงกาฬ ก่อนจะเดินทางกลับถึงกรุงเทพมหานคร ในเวลาประมาณ 17.50 น.

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top