นายสิทธิพงศ์ ศรีสว่างวงศ์ นักวิชาการเกษตรชำนาญการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรขอนแก่น (ศวพ.ขอนแก่น) กรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ศวพ.ขอนแก่น มุ่งเน้นการสนับสนุนให้เกษตรกรใช้เมล็ดพันธุ์ที่ดี เพื่อลดต้นทุนการผลิตตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย ศวพ.ขอนแก่น แนะนำให้เกษตรกรผลิตเมล็ดพันธุ์พืชตระกูลถั่ว เนื่องจากปัจจุบันปริมาณน้ำไม่เพียงพอในการปลูกพืช เกษตรกรจึงต้องปรับเปลี่ยนการผลิตพืชที่ใช้น้ำน้อย เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเขียว และถั่วลิสง แต่เมล็ดพันธุ์ดีมีคุณภาพยังขาดแคลน โดยเฉพาะเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองส่งผลให้เมล็ดพันธุ์มีราคาแพง ดังนั้น หากเกษตรกรสามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ดีมีคุณภาพไว้ใช้เองได้ จะช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต สามารถสร้างรายได้ที่ดีขึ้น

สำหรับการผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองให้มีคุณภาพดีต้องใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยทุกขั้นตอน โดยมาจากแหล่งผลิตที่น่าเชื่อถือได้ ปลูกและปฏิบัติดูแลรักษาตามคำแนะนำ หมั่นตรวจแปลงและคัดพันธุ์ปนอย่างน้อย 2 ครั้ง เก็บเกี่ยวโดยใช้เคียวเกี่ยวต้นขณะใบร่วง ฝักแก่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลร้อยละ 95 กะเทาะเมล็ดโดยใช้เครื่องนวดเมล็ดความเร็วรอบต่ำ 350-500 รอบต่อนาที ทำความสะอาดและตากเมล็ดพันธุ์ให้แห้ง เพื่อลดความชื้นเหลือ 10-12% คัดเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลือง เก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ในภาชนะที่สะอาด มีอากาศถ่ายเท

ทั้งนี้ผลผลิตเฉลี่ยถั่วเหลืองของประเทศอยู่ที่ 263 กก./ไร่ ถ้าเกษตรกรปลูกพันธุ์อายุปานกลางตามคำแนะนำ เช่น พันธุ์เชียงใหม่ 60 สามารถเพิ่มผลผลิตได้ 21-95 กก./ไร่ คิดเป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้น 325-1,470 บาท/ไร่ ขณะที่การใช้เมล็ดพันธุ์ดีจะสามารถลดปริมาณการใช้เมล็ดพันธุ์ลงจากเดิมที่ 20-25 กก./ไร่เหลือเพียง 15 กก./ไร่ ส่งผลให้ต้นทุนค่าเมล็ดพันธุ์ลดลงประมาณ 110-220 บาท/ไร่