สังเวย‘นาตารี’

เด้ง4เสือสน.ห้วยขวาง

หลังมท.นำกำลังบุกจับ

ผบ.ตร.เปิดทางน.1สอบ

รายชื่อบัญชีส่วยน้ำกาม

อ่างนวดฉาวลุ้นปิด5ปี

พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) มีคำสั่งเลขที่ 222/2559 ลงวันที่ 8 มิถุนายน ให้ตำรวจ 4 นาย ได้แก่ 1.พ.ต.อ.กิตติพงศ์ วิเศษสงวน ผกก.สน.ห้วยขวาง 2.พ.ต.ท.ศาสตร์ศักดิ์ ชัยประเสริฐ รองผกก.ป สน.ห้วยขวาง 3.พ.ต.ท.จีระพล ประพันธ์จันทร์ สว.สส. สน.ห้วยขวาง 4.พ.ต.ท. ศุภภัทร สวัสดี สวป. สน.ห้วยขวาง ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.บก.น.1 และมีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รอง ผบก.น.1 รักษาราชการแทน ผกก. สน.ห้วยขวาง พ.ต.ท. นิติธร แก้วใจทิ สวป.สน.ห้วยขวาง รักษาราชการแทน รอง ผกก.ป.สน.ห้วยขวาง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

การโยกย้ายนายตำรวจใน สน.ห้วยขวางหนนี้ เกิดจากกรณีหน้าที่กรมการปกครอง และเจ้าหน้าที่ทหารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร นำกำลังเข้าตรวจค้นการค้าประเวณี ภายใต้”ปฏิบัติการสังขร” ในสถานบริการ นาตารี อาบอบนวด ย่านรัชดาภิเษก ท้องที่ สน.ห้วยขวาง หลังได้รับการร้องเรียนจากองค์กรพัฒนาเอกชนระหว่างประเทศด้านต่อต้านการค้ามนุษย์”NVADER” ได้แจ้งเบาะแสและร้องเรียน ว่ามีการค้ามนุษย์ภายในสถานบริการแห่งนี้ พบการกระทำความผิดหญิงค้าประเวณี และอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวนมาก เมื่อช่วงเย็นวันที่ 7มิถุนายนที่ผ่านมา

ด้านพล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ กล่าวว่า ทางด้านการปกครองต้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการทำผิดในลักษณะนี้เกิดขึ้น สน.ท้องที่ ได้มีการกวดขันดูแลเป็นไปตามนโยบายหรือไม่ โดยให้ รอง ผบก.1 ที่ดูแลงานจเรตำรวจเป็นหัวหน้าชุดตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการปล่อยปะละเลยหรือไม่ สำหรับเรื่องรายชื่อของตำรวจที่สังกัด บก.น.1 ปรากฎในบัญชีจ่ายส่วย ก็ต้องดำเนินการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้อง คือ ผู้ประกอบการ เจ้าของสถานประกอบการ และเจ้าที่ตำรวจที่มีรายชื่อเกี่ยวข้อง

ส่วนหญิงสาวที่ถูกจับกุมในสถานบริการเบื้องต้นได้รับรายงานว่าอายุต่ำกว่า 18 ปี 3 คน คนที่เหลือก็น่าจะอายุต่ำกว่า 18 ปีด้วย ทั้งหมดต้องไปสอบสวนในโรงพักที่เกิดเหตุ แต่เนื่องจากมีพยานจำนวนมาก ตนจึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนโดยให้ รอง ผบก.น.1 ที่รับผิดชอบงานกฎหมายและคดีเป็นหัวหน้าชุด เพื่อเร่งรัดการสอบสวนให้เสร็จโดยเร็ว

ในประเด็นดังกล่าว พล.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.กล่าวว่า การที่นอกหน่วยเข้าจับกุมสถานบันเทิงถือว่าเป็นเรื่องดีที่ช่วยกันสอดส่องดูแล ส่วนการดำเนินการกับตำรวจที่ปล่อยปละละเลยนั้น พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) กำลังเร่งสืบสวนสอบสวน โดยตนไม่จำเป็นต้องกำชับอะไรมาก ส่วนรายชื่อตัวย่อตำรวจหรือหน่วยงานที่ปรากฏในสมุดรับส่วยนั้น ซึ่งทาง ผบช.น. สามารถตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้ตามอำนาจหน้าที่ ส่วนกรณีที่พบสมุดบัญชีส่วยที่จ่ายให้กับบุคคลหรือเจ้าหน้าที่นั้น การตรวจสอบไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะมีเทคนิคในการตรวจสอบอยู่แล้ว โดยปล่อยให้ทาง บช.น. ดำเนินการไปก่อน ยังไม่จำเป็นต้องตั้งกรรมระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นมาดูแล

“ที่ผ่านมาตำรวจมีการจับกุมสถานบริการที่ลักลอบเปิดเกินเวลาตามปกติ แต่อาจจะไม่มีการรายงานขึ้นมาและไม่เป็นข่าว ยืนยันตำรวจเข้มงวดกวดขันอยู่อย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบพื้นที่ก็รู้หน้าที่ของตัวเองและดำเนินการเป็นระบบอยู่แล้ว และผมได้ให้นโยบายไปทั้งหมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องกำชับอีก ซึ่งเรื่องดังกล่าว พล.ต.อ.พงษศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. ด้านการปราบปรามได้ดำเนินการอยู่ตลอดเวลา” ผบ.ตร. กล่าว

ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นการค้ามนุษย์ถือเป็นวาระแห่งชาติ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีการกำชับในเรื่องนี้ตลอด ซึ่งการแก้ปัญหาดังกล่าวทุกหน่วยต้องช่วยกันบูรณาการทำงานร่วมกัน สำหรับกรณีที่มีเด็กหญิงต่างด้าวอายุต่ำกว่า 18 ปีค้าประเวณีในสถานบริการนั้น ก็ต้องดำเนินการตรวจสอบให้ครบถ้วนทุกกระบวนการ ซึ่ง พล.ต.ท.ศานิตย์ ก็ดำเนินการอยู่แล้ว

ด้านร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่าคดีนี้ เราได้เข้าไปดำเนินการจับกุมส่งให้พนักงานสอบสวน ซึ่งที่เราเข้าไปดำเนินการด้วยนั้น เพราะมีเอ็นจีโอระหว่างประเทศร้องมาในเรื่องของการค้ามนุษย์ และเรื่องของแรงงานต่างด้าว ซึ่งเป็นเรื่องเรารับผิดชอบอยู่ โดยกระบวนการหลังจากนี้ จะเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ในการดำเนินการสอบสวน และดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป

เมื่อถามว่า จะมีบทลงโทษกับสถานประกอบการอย่างไรบ้าง ร.ต.ท.อาทิตย์กล่าวว่า ตามกฏหมายแล้วก็คงจะห้าม 5 ปี หากมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอผลการสอบสวนจากทางตำรวจด้วย

ผู้สื่อข่าวถึงมาตรการในการดูแลควบคุมสถานประกอบการ ร.ต.ท.อาทิตย์กล่าวว่า ก็คงจะกวดขันไปตามปกติ โดยมาตรการเรื่องสถานบริการนั้นเรามีอยู่แล้ว และมีคำสั่งคสช.ฉบับที่ 22 ซึ่งมีรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานอยู่ด้วย เมื่อถามถึงกรณีการรับส่วย ร.ต.ท.อาทิตย์กล่าวว่า ก็ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ขอยืนยันว่าไม่มีคนของกระทรวงมหาดไทยเข้าไปเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจหญิงชุดปฏิบัติการพิเศษ หรือกองร้อยน้ำหวาน ได้ควบคุมนำตัวหญิงสาวที่ถูกจับกุมจากสถานบริการดังกล่าวทั้ง 121คน และผู้ดูแลสถานบริการ 5 คน รวมทั้งสิ้น 126 คน ขึ้นรถโดยสารประจำทาง 2คันและรถตู้ 5คัน จากสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง (วังไชยา) มาส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง สอบปากคำเพิ่มเติม และพิจารณาดำเนินคดี โดยคัดกรองบุคคลต่างด้าวว่ามีเอกสารถูกต้องหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าจะมีการคัดแยกหญิงสาวที่เป็นคนไทย บุคคลต่างด้าว และเด็กอายุต่ำกว่า 18ปี ก่อนจะเริ่มสอบปากคำและพิจารณาตั้งข้อกล่าวหา จากนั้นก็จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานขยายผลการจับกุมไปยังขบวนการค้ามนุษย์ ที่นำพาหญิงสาวมาค้าประเวณีต่อไป